รัฐสภา 3 มี.ค.-“กัณวีร์” โต้ “ทวี” หยุดด้อยค่าหลักฐาน แล้วพูดความจริง นัดสื่อพรุ่งนี้โชว์เอกสารเต็ม แจงเพิ่งออกมาแฉ เพราะกังวลความสัมพันธ์กับ ตม. กลัวเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่าจดหมายของชาวอุยกูร์ไม่เคยออกมาจากราชทัณฑ์ ว่า เป็นการพยายามบิดเบือนประเด็นที่สำคัญที่สุด เกี่ยวกับการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศ ตอนนี้มีความพยายามชี้แจงของทางราชการ โดยบอกว่าเขามีความสมัครใจกลับต้นทาง ซึ่งตามมาตรฐานสากลจะต้องมีหลักฐานว่าเขาสมัครใจเอง เราต้องจำเป็นที่จะได้รับฟังจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่า 40 คนอยู่ไหนแล้ว มันเป็นการพูดข้างเดียวของฝ่ายรัฐบาลไทยและจีน ซึ่งฝ่ายจีนเขาก็ไม่ได้พูดด้วยว่าสมัครใจ เขาบอกว่าประเทศไทยส่งกลับ เพราะกลุ่มคนพวกนี้ถูกอาชญากรรมข้ามชาติพาเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย แต่ไทยบอกว่าเขาสมัครใจกลับเอง
“คุณทวี พยายามจะด้อยค่าหลักฐานที่พี่มีจริง กระดาษที่มีลายน้ำของกรมราชทัณฑ์คลองเปรม มันไม่ได้ออกมาจากกรมราชทัณฑ์ พี่ไม่เคยบอกว่ากรมราชทัณฑ์ออกหนังสือฉบับนี้ออกมา คุณเป็นถึงรัฐมนตรี คุณผิดประเด็นอย่างนี้ได้อย่างไร นี่คือเรื่องใหญ่เรื่องโต ที่เวทีระหว่างประเทศเขามองอยู่ คุณมาเก็บเรื่องสารัตถะอย่างนี้ พยายามด้อยค่าเอกสารของพี่ฉบับนี้ โดยที่พี่มีหลักฐานตัวจริง พรุ่งนี้พี่จะนำไปเสนอที่สภา มีการจัดเสวนาขึ้น พี่จะเอาฉบับตัวจริงไปยื่นให้กับทุกคนได้เห็น เชิญพี่น้องสื่อมวลชนไปดูด้วยว่าพรุ่งนี้ ก่อนเที่ยง จะเอามาโชว์” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า การที่บอกว่าหลักฐานชิ้นนี้ไม่ได้ออกมาจากกรมราชทัณฑ์มันผิดประเด็นไปมาก เราต้องเข้าใจในหลักความเป็นจริงว่ากลุ่มคนทุกคน อุยกูร์ทุกคน ถูกดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ต้องส่งเรื่องฟ้องศาล ซึ่งเขาจะมีโอกาส 2 อย่าง 1.จ่ายค่าปรับแทนการจำคุก 2.จำคุก เพราะฉะนั้น การที่เขาอยู่ในคุก เขาสามารถเอาเอกสารต่างๆ แผ่นต่างๆนี้ออกมาได้ ทุกคนทำเหมือนกันหมด ก่อนที่เขาจะเข้าไป เขาไม่มีอะไรติดตัว แต่เขาต้องเข้าไปแล้ว เขาถึงสามารถขอแผ่นกระดาษต่างๆเหล่านี้ออกมาได้
“คุณทวี ในฐานะเจ้ากระทรวงยุติธรรม คุณต้องบอกความจริง ว่ากระดาษแผ่นนั้นทุกคนผู้ต้องขังสามารถขอได้หมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหาหรือผู้ผิดโทษแล้ว เขาก็สามารถที่จะเข้าถึงกระดาษฉบับนี้ได้ และการเข้าถึงพวกนี้ได้ มันไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ผิดกฎหมาย พอเขาออกมาจากห้องขังเรือนจำคลองเปรม เขาก็กลับมาสู่ห้องกัก ตม. เขียนหนังสือออกมา เพราะฉะนั้น พี่จะนำเอกสารมาโชว์ว่ามีจริง” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวว่า สาเหตุที่พวกเราไม่พูดมาตั้งแต่แรก เพราะพวกเรากังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ตม. และภาคประชาสังคมที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ กังวลว่าจะถูกปฏิเสธในการเข้าไปช่วยเหลือ ดังนั้น จึงต้องทำให้ไม่ระแคะระคาย แต่ตอนนี้ที่พยายามออกมาพูด เพราะเขาโดนผลักดันไปแล้ว พวกเราต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พวกเขาถูกผลักดันกลับ คุณกักเขาไว้ 11 ปี สุดท้ายผลักดันกลับโดยรัฐบาลชุดนี้ โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มันทำให้ภาคสังคมไม่ยอมแล้ว มันไม่เหมือนกับที่ตกลงกันไว้ แล้วแถมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และมตม. มาพูดในพื้นที่กรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะไม่มีนโยบายในการผลักดันกลับ เราก็ไว้ใจว่าเป็นคำยืนยันของราชการไทย เพราะเราเคารพในเรื่องสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นอกจากนี้ยังมี พ.ร.บ. ป้องกันการอุ้มซ้อมทรมานรองรับ
“พี่ก็เชื่อ เราทุกคนก็เชื่อหมดว่าราชการพูดความจริง เพราะเป็นกฎหมายอาญา ก็ไม่คิดว่าจะมีการดำเนินการผิดกฏหมายอาญาขนาดนี้ สารัตถะสำคัญคือความสมัครใจของคน” นายกัณวีร์กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า เรื่องไม่มีประเทศที่ 3 มารับ อันนี้ก็โกหกอีก เดี๋ยววันพุธนี้จะเอาชวเลขมาโชว์เลย จะขอมติที่ประชุมให้ขอเปิดเผยออกมา เพราะวันนั้น กระทรวงการต่างประเทศพูดเองว่ามีกี่ประเทศที่มาขอรับไป
“แล้วดูซิว่าใครพูดถูกใครพูดผิด ต้องมีการโหวตกันแหละ ต้องเอาชวเลขออกมาและเปิดเผยกันเลย” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ต้องพร้อมแล้ว หากมีการถูกฟ้อง เรื่องเหล่านี้เป็นชีวิตของคน เขาก็ต้องพร้อมรับแรงกระแทกเหมือนกัน ตนจะฟ้องกลับเหมือนกัน ตนไม่ยอมเหมือนกัน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และประเทศชาติในเวทีระหว่างประเทศ ถ้ามุบมิบแบบนี้ พยายามปิดปากคนที่เสนอความจริง ตนก็จะทำให้เห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“ขนาดตอนนั้นที่บอกว่าจะมีการผลักดันกลับจริงหรือไม่ ก็มาด่าพี่ว่าเฟคนิวส์บ้าง นู่นนี่นั่นบ้าง พยายามจะด้อยค่า สุดท้ายเป็นอย่างไร ความจริงก็เปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีการผลักดันจริง และนี่ยังไม่รวมเรื่องระหว่างการควบคุมตัวจาก สตม.สวนพลู เขาได้มีการเปิดกล้องตาม พ.ร.บ. ปุ่มซ้อมทรมานหรือไม่ เดี๋ยวจะไปขอข้อมูลมาว่าช่วงนั้นเป็นใครเข้าไปหาชาวอุยกูร์ทั้ง 40 ชีวิต รวมถึง CCTV ในห้องกักด้วย ไม่เช่นนั้น จะกลายเป็นลักพาตัวใช่หรือไม่เลย ต้องดูหลักฐานทั้งหมดพี่เชื่อมั่นว่า CCTV ใน ตม.ค่อนข้างดี ต้องมีหลักฐานว่าดำเนินการขนย้ายอย่างไร” นายกัณวีร์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย