นายกฯ ขออย่าเพิ่งเสียกำลังใจ GDP ปี 67 รั้งท้ายอาเซียน

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.-นายกฯ ย้ำผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ขออย่าเพิ่งเสียกำลังใจ GDP ปี 67 รั้งท้ายอาเซียน ยันรัฐบาล-เอกชนร่วมมือกัน บอกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ลั่นทำเต็มที่อยู่ครบเทอมดันการลงทุน ให้ความมั่นใจต่างชาติ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ถึงตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจของไทย หลังสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ปี 2567 ที่เติบโต 2.5% ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า เศรษฐกิจของไทยไม่โต หรือรั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งหากดู GDP ในไตรมาส 4 ของปี 2567 เติบโตขึ้น 3.2% ซึ่งเกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ การลงทุนของบีโอไอ แต่ยังมีคำถามว่า ทำไม GDP ของไทยโตขึ้นน้อย รั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ การเตรียมตัวเรายังไม่ทัน ทั้งที่คนไทยมีศักยภาพ เพียงแต่รอแค่โอกาสและการลงทุนเพิ่มเติม รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ


เรื่องอุตสาหกรรมใหม่ เซมิคอนดักเตอร์ ผลิตรถอีวี การเตรียมคนสำหรับอุตสาหกรรมรถ และการเตรียมคนสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต อย่างมาเลเซีย มีการเตรียมตัวเรื่องการทำเซมิคอนดักเตอร์มานานแล้ว เช่นเดียวกับเวียดนามที่ฝึกคนเขียนซอฟต์แวร์มาระยะหนึ่งแล้ว รัฐบาลลงทุนอย่างจริงจังในการทำสิ่งนี้ และมีภาคเอกชนเข้ามาช่วยองค์ความรู้ในการผลักดันคนให้พร้อมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

แต่ไทยยังไม่ได้มีเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราต้องพัฒนาอัพสกิล-รีสกิล ของแรงงานไทย หากไม่พัฒนาสิ่งเหล่านี้ เราจะตามเขาไม่ทัน เมื่อรัฐลงทุนแล้ว ภาคเอกชนก็ต้องช่วยกัน ทุกฝ่ายต้องดัน GDP ประเทศขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนดัน ต้องให้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายจริงๆ


นายกรัฐมนตรี ยังอยากให้ SME ที่มีอยู่ 75% ของประเทศลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชน เพื่อจะได้นำเม็ดเงินนี้ไปพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองที่มีอยู่แล้ว ถ้าปล่อยสินเชื่อได้ช่วยดัน GDP

หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 5-6 เดือน ได้ดูเรื่องของงบประมาณ ซึ่งค่อนข้างมีจำกัดมาก ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะนำไปจ่ายงบประจำ ตนเองพยายามจะรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้ใช้จ่ายงบประจำเพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้นำเงินเหล่านี้มาลงทุนในภาครัฐ ขออย่าเพิ่งเสียกำลังใจเรื่อง GDP ปี 67 ที่โต 2.5% เพราะโตขึ้นจาก GDP ปี 66 ที่ 2.0% ซึ่งจะเห็นว่าขยับขึ้น และภายใต้การทำงานของรัฐบาลชุดนี้พร้อมเอกชนที่ให้ความร่วมมือกัน GDP มีโอกาสโตขึ้นสูงมาก ขออย่าเพิ่งท้อใจ เพราะนี่แค่ต้นปี

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลมุ่งหาเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุน แล้วปีนี้มี Google, TikTok, NVIDIA จะมาลงทุนในไทย โดยบีโอไอ รายงานว่า ในปี 2567 มีต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งต้องชื่นชมบีโอไอที่ประสานงานกับรัฐมาโดยตลอด และเวลาที่ไปต่างประเทศ เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะคุยกับใคร จะดึงใครบ้างเข้ามาลงทุน อย่างช่วงที่ตนเดินทางไปประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ได้รับคำถามว่า หากเขาลงทุนจะมีความมั่นคงอย่างไร ตนก็ได้ให้ความมั่นใจว่า


“เราจะทำเรื่องนี้เต็มที่ ผลักดันเรื่องการลงทุน ดิฉันต้องอยู่ครบเทอม เพื่อผลักดันการลงทุน นี่คือสิ่งที่เราบอกกับต่างชาติมั่นใจว่า เราไม่ได้จู่ๆ จะเปลี่ยนอีกนะ เอะอะจะยุบสภากัน เกมการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน ประเทศชาติ อันนี้เป็นสิ่งที่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ หนักแน่นเข้าไว้ในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เราหนึ่งคนเล่นเกมการเมือง ทุกอย่างที่คุยกันไว้ ไม่มีใครเขาเชื่อแล้วจบทุกอย่าง การลงทุนทุกอย่างจะผลักดันได้ยาก แต่เราก็บอกข้อดีของไทยหลายเรื่อง คือ การมาตั้งโรงงานที่เรา การใช้พื้นที่ในประเทศไทย ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าประเทศอื่น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้มีอุตสาหกรรมที่จะมาลงทุนในไทย ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล เซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนรถอีวี โรงงานที่มีอยู่แล้ว ของญี่ปุ่นและจีน เริ่มที่จะปรับจากรถยนต์สันดาป เป็นรถไฮบริด และอีวี รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด

เมื่อถามว่า ลงทุนแล้วประเทศไทยได้อะไร คำตอบคือเกิดการจ้างงาน ค่าแรงก็แพงขึ้น การรับรายได้ก็จะสูงมากขึ้น นี่คือการสนับสนุนภาพใหญ่ภาพรวมทั้งหมด เวลาที่บริษัทใหญ่จากต่างประเทศมาลงทุน ไม่ได้แค่เฉพาะเรื่องของจีดีพี แต่จะลงไปถึงรากลึกคนเล็กๆ ได้ทั้งระบบจริง ดังนั้นรัฐบาลได้มีการพูดคุยให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะของแรงงานด้วย พร้อมย้ำว่า ตนเองเน้นเรื่องการให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อให้เด็กได้ไปเรียนรู้เพิ่มโอกาสทางการศึกษา ทุนโอดอส (ODOS) เพื่อไปเรียนรู้อุตสาหกรรมอนาคต เทคโนโลยี และดึงให้ทุกคนกลับมาในระบบการศึกษา ไม่มีใครหลุดออกนอกระบบการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง เพิ่มโอกาสในการหารายได้ เพิ่มโอกาสการจ้างงานในอนาคต

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสไปลงพื้นที่ตรวจราชการที่ภาคใต้ ชาวบ้านบอกว่า สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เคยให้งบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ จ.พัทลุง ลูกมาแล้ววันนี้ให้งบอีกแน่นอน ซึ่งช่วงนี้นายกฯ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมระบุว่า ชาวบ้านน่ารักมาก กดดันกันเลย ความจริงแล้วทุกจังหวัด ทุกที่ รัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว ดิฉันเองผู้เป็นนายกฯ ไม่เลือกว่าจังหวัดไหนคุณพ่อเคยทำหรือไม่ ไม่เกี่ยวกัน ทุกที่ ทุกจังหวัดคือประเทศไทย ฉะนั้นนายกฯ จะต้องดูแลประเทศไทยให้ดีที่สุด อันนี้คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ไม่มีข้อต่อรอง ขอบอกพี่น้องทุกจังหวัดเต็มที่

“เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น จีดีพีเพิ่มขึ้นแปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวเลขเหล่านี้เพื่อให้ประเทศอื่นๆ จะได้ดูด้วยว่า ประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ดิฉันเองอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้มีจีดีพีที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ความจริงคิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนรวยๆ จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ วินวินแน่นอนค่ะ ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ค่ะ ประเทศยังต้องการการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” นายกฯ กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]