“อนุทิน​” บรรยายพิเศษ​ วปอ.​ มุ่งสร้างผู้นำเผชิญสภาพสังคมโลก

วปอ. 1 มี.ค.-“อนุทิน​” บรรยายพิเศษ​ วปอ.​ มุ่งสร้างผู้นำ เผชิญกับสภาพสังคมโลก บอกไทยมีรากฐานเศรษฐกิจ​เข้มแข็ง​ แม้ผ่านเหตุการณ์​รัฐประหาร -​ เผาบ้านเผาเมืองไม่รู้กี่ครั้ง​ พร้อมยกคำ​ “ทักษิณ​” เคยพูดต้องไม่มีคำว่าผู้ป่วยอนาถา​ ยึดมาใช้สมัยนั่ง สธ.​ พร้อมอธิบาย ไทยมีระบบบ้านใหญ่​ หากใจกว้างพอ​ จะบอกว่า ดีแล้ว​ ช่วยดูแลคนด้อยโอกาส​

นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ บรรยายเรื่องการสร้างผู้นำในการเผชิญกับสภาพสังคมโลก และภูมิภาคในสภาวการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ให้กับนักเรียนหลักสูตรการบริหารความมั่นคงของสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 61 ณ หอประชุม วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถนนวิภาวดี กทม.


นายอนุทิน​ กล่าวเปิดการบรรยาย​ วันนี้โลกของเรา เปลี่ยนไปมาก ​มีการจัดระเบียบเพิ่มมากขึ้น​ และแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งพวก แต่ความเป็นเอกราชของไทย ทำให้เราสามารถขับเคลื่อนประเทศไปได้ และประเทศไทย ด้านอุตสาหกรรมของเรา ไม่น้อยหน้าประเทศอื่น ในเรื่องการต่อยอดเป็นฐานการผลิต​ รวมไปถึงสามารถยกระดับขึ้นมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมในเวลาเดียวกัน​ ประเทศไทยแม้ว่าจะมีการถูกกีดกันทางการค้าจากประเทศต่างๆ ผู้นำในแต่ละยุคในแต่ละสมัย ก็มีความสามารถที่แตกต่างกัน ประเทศไทยหากไม่มีความเข้มแข็ง และแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ก็จะไม่สามารถผ่านมาถึงทุกวันนี้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนพูดตั้งแต่เป็นผู้บริหารองค์กรภาคเอกชนแล้ว

นายอนุทิน​ ยังระบุอีกว่า​ ประเทศไทยถูกบริหารประเทศในรูปแบบต่างๆ ถูกปฏิวัติ​ไม่รู้กี่รอบ​ บ่อยมาก​ มีประชาธิปไตยเต็มใบบ้าง​ ไม่เต็มใบบ้างรัฐประหารบ้าง​ แต่สิ่งที่ไม่ถูกกระทบเลยคือ Private Sector หรือ​ ภาคเอกชน ขอให้นึกย้อนดูตั้งแต่พฤษภาทมิฬ​ เสื้อเหลือง​ เสื้อแดง ผ่านการประท้วง เผาบ้าน​ เผาเมือง ไม่รู้กี่วิกฤตการณ์ แต่ว่าในด้านเศรษฐกิจการประกอบการของภาคเอกชน​ พวกเขาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีทฤษฎีใดบอกเหมือนกัน อย่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยแสดงให้เห็นชัดว่าทำไม ถึงสามารถเติบโต แม้ว่าการเติบโตสูงสุดในช่วงที่ไม่มีระบบรัฐสภาด้วย เป็นระบบพิเศษที่พี่ๆ เข้ามาดูแลบ้านเมืองในขณะนั้น แสดงว่าประเทศไทยมีจุดพิเศษ ที่ตนเชื่อว่าพี่ๆทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ๆ ที่เป็นข้าราชการ คงจะเห็นได้อย่างชัดเจนคำตอบก็คือ เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นสถาบันที่ทำให้ประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการในรูปแบบไหนก็ตาม แต่ยังมีสถาบันสถาบันหนึ่งที่ประชาชนทั้งประเทศ โดยส่วนใหญ่ ยังให้ความเชื่อมั่น​ และให้ความเชื่อถือ​ และเชื่อว่าสถาบันตรงนี้จะสามารถทำให้ประเทศไทยไม่แยก หรือแตกสลาย และยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้​ คนต่างชาติก็ช่วยเช่นนี้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่คบค้าสมาคมกับเรามาหลายปี สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศของเรา มีสภาพที่เป็นประเทศที่ยังสามารถเดินหน้าไปได้ หากเทียบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กับการก้าวหน้า ของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ


และในปัจจุบันแม้ว่าสถานการณ์ทั้งหลายจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว รากฐานต่างๆ ที่ทำกันมา ทั้งภาคเอกชน โดยความร่วมมือของรัฐ ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี อยู่ในกรอบ เช่นเดียวกับการบริหารจัดการของตน​ ต้องทันโลก​ ทันสมัย​ เข้าใจสถานการณ์โลก และปรับตัวได้ทัน ก็จะไม่มีอะไร อย่าไปล้าหลัง​ เขาใช้เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ในการที่จะพัฒนาองค์กร และสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กร ที่เรารับผิดชอบ อยู่ก็จะสามารถก้าวหน้าไปได้ ต้องเดิน และคิดให้เร็วกว่าเพื่อนบ้าน เร็วกว่าคู่แข่ง และเร็วกว่าองค์กร ที่บุคลากรอยู่ในที่เดิมๆ

โดยในช่วงหนึ่งนายอนุทิน​ ได้มีการบรรยายถึงการใช้กลไก อสม.ในการดูแลประชาชน รวมไปถึงการผลักดันการรักษาสุขภาพ ได้กล่าวถึง​ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคว่า นายทักษิณ​ ชินวัตร​ ยังเป็นที่เคารพศรัทธาในระดับหนึ่งจนถึงทุกวันนี้​ แม้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า 20 ปีแล้ว​ ซึ่งนายทักษิณใช้คำว่า ต่อไปนี้จะไม่มีคนไข้อนาถา ซึ่งขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ในโสตประสาทของตน​ เมื่อท่านไปหาเสียงพูดถึงเรื่อง 30 บาท​ และการรักษาสุขภาพของคนไทย บอกว่าจากนี้ไปจะไม่มีคำว่าคนไข้อนาถา เป็นไปได้ยังไงว่าถูกตราหน้า ถูกตีตราอยู่ในบัตรคนไข้ ว่าเป็นคนไข้อนาถาแล้ว จะเป็นคนอยู่ได้อย่างไร คำนี้ตนในฐานะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา มองว่าคำนี้เข้าท่า จึงตั้งใจว่าหากวันหนึ่งเข้ามารับผิดชอบในเรื่องสุขภาพของประชาชนคนไทย จะต้องเอาคำนี้มาเป็นตัวยืน ในช่วงที่ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 4 ปีก็ยังยึดหลักนี้อยู่ ถือว่าเอามาต่อยอดในเรื่อง “good Health​ and Well Being”

โดยช่วงหนึ่งนาย​อนุทิน​ ยังกล่าวถึงระบบบ้านใหญ่ ที่มีการตั้งคำถามว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะคนเหล่านี้มีระดับผู้ใหญ่บ้าน​ กำนัน​ ไม่ว่าจะเป็นคนทรงอิทธิพลอย่างไร​ ก็แล้วแต่​ แต่ไม่เคยปล่อยให้ลูกบ้านเขาอดตาย​ และดูแลค่อนข้างดีด้วย หากถามว่าระบบบ้านใหญ่มาอย่างไร​นั้น ยกตัวอย่าง​ ยายก็จะไปบอกลูกที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ​ ว่าดูซิ​ นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ สส.อุทัยธานี​ เขามาดูแม่อย่างดี ดูแลยายอย่างดี ในขณะที่แกไปทำมาหากิน วันนั้น​ ฝ้าถล่มลงมา​ นายชาดาเขาเอา ไม้โครงมาสร้างให้ใหม่​ และเอาข้าวสารมาอีก 2 ถัง​ เอาอาหารมาอีกเพียบเลย เพราะฉะนั้นตรงนี้ เราก็ต้องถือว่าในระบบสังคม แบบประเทศไทยมันมีแบบนี้อยู่ ถ้าเรามีใจที่กว้างพอ​ ก็จะบอกว่า มีดีแล้ว​ คนที่ด้อยโอกาสในสังคมไทยมีคนดูแลอยู่ตลอดเวลา.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย