“สุรชัย” ชี้บัส 2 ชั้นเสี่ยงเรื่องทรงตัว ถกแนวทางป้องกันเกิดเหตุซ้ำ

รัฐสภา 28 ก.พ. – อนุฯ ความปลอดภัยท้องถนน ถกเหตุบัสบึงกาฬดูงานคว่ำที่ปราจีนฯ หาแนวทางป้องกันเกิดเหตุซ้ำ “สุรชัย” ชี้บัส 2 ชั้นเสี่ยงเรื่องทรงตัว และยังไม่มีแนวทางจัดการอีก 7 พันคันที่ยังให้บริการ ส่วนไอเดียยกเลิกดูงานทัศนศึกษาแค่ปลายเหตุ ถ้าตั้งใจจริงเชื่อแก้ได้


นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านยานพาหนะ ในคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุ เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน กล่าวถึงการประชุมวันนี้ (28 ก.พ.)ว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสดูงานของคณะเทศบาลตำบลพรเจริญ จากบึงกาฬคว่ำที่ปราจีนบุรี รวมไปถึงหน่วยงานส่วนกลางมาร่วมประชุม หารือประเด็นสำคัญคือรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้น ถึงสาเหตุว่าเกิดจากปัญหาสภาพถนนที่ไม่ปลอดภัยหรือเกิดจากปัญหายานพาหนะ ซึ่งก็คือรถบัส 2 ชั้น และรุ่นนี้พูดกันมาตั้งแต่ปี 2559 ว่าประเทศไทยควรยกเลิกรถโดยสารสาธารณะประเภท 2 ชั้น นอกจากนี้จะหารือแนวทางการแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ซ้ำซ้อนอีก ซึ่งเรื่องรถบัสได้พูดกันมาหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อช่วงหลังเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่เกิดเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ที่ถนนวิภาวดี เป็นเหตุให้นักเรียนเสียชีวิต 23 รายวันนี้จึงได้บรรจุเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วน

ส่วนกรณีรถโดยสารประเภท 30 จะมีทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับรถบัส 2 ชั้น ซึ่งไม่เหมาะใช้เป็นรถรับจ้างไม่ประจำทาง เพราะมีเส้นทางคดเคี้ยวลาดชันอย่างไรนายสุรชัย กล่าวว่า ทั้งรถบัสประจำทางและไม่ประจำทาง ตามหลักสากลขนาดความสูงของรถบัสเกิน 4 เมตร จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องจุดศูนย์ถ่วง และเกิดความเสี่ยง ไม่ว่าจะวิ่งถนนลาดชันหรือทางปกติ และรถบัส 2 ชั้นก็จะสูงเกิน 4 เมตร จะมีความเสี่ยงเรื่องการทรงตัวมากกว่ารถบัสชั้นเดียวอยู่แล้ว แม้จะเคยออกกฎหมายเมื่อปี 2559 ในการไม่ให้กรมการขนส่งทางบกรับจดทะเบียนรถบัส 2 ชั้นรุ่นใหม่ แต่รถรุ่นเก่า 6-7 พันคัน ยังไม่มีวิธีบริหารจัดการ และยังให้บริการอยู่ จึงทำให้เกิดเหตุเช่นนี้ซ้ำ ซึ่งเป็นประเด็นเรื่อง ยานพาหนะที่ไม่ปลอดภัย แต่เรื่องถนนในบางจุดที่มีความเสี่ยงทั้ง สภาพและกายภาพ เป็นอีกประเด็นปัญหาหนึ่ง เท่าที่ทราบพื้นที่เกิดเหตุยังมีปัญหาการทำงานที่ไม่บูรณาการที่ดีเพียงพอ ระหว่างหน่วยงาน เป็นเส้นถนนช่วงผ่านอุทยานเชื่อม โยงไปที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากวันนี้จะเชิญกระทรวงดังกล่าวมาพูดคุยถ้าผลการประชุมวันนี้(28ก.พ.)บ่งชี้ให้เห็นว่าสาเหตุเกิดจากสภาพของถนนจริงๆ แล้วที่ไม่เข้าไปแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวงกรมการขนส่งทางบกที่พบเห็นปัญหาและไม่เข้าไปแก้ไข เพราะมีข้อจำกัดด้วยข้อกฎหมายเพราะเป็นเขตอุทยานก็จะเชิญมาพูดคุยหารือการทำงานเชื่อมระหว่างหน่วยงานเพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างไร ไม่ได้ปล่อยให้ประชาชนมาเสียชีวิตอยู่บนความเสี่ยงสำหรับการเดินทางเช่นนี้ แต่ขอให้ได้ข้อยุติเบื้องต้นวันนี้ก่อน


ส่วนการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนนั้น นายสุรชัย ระบุว่าถ้าหน่วยงานต่างๆ ตั้งใจทำงานจริงๆก็เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขได้ ไม่เช่นนั้น ประเทศอื่นทั่วโลก ทำไมมีความปลอดภัย มากกว่าประเทศไทย และตลอดทั้งปี ประเทศไทยมีคนเสียชีวิตเป็นหมื่น จะปล่อยให้คนเสียชีวิต จากความไม่ปลอดภัยบนท้องถนนได้อย่างไรเรากำหนดเรื่อง ทศวรรษแห่งความปลอดภัย เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันให้หนักแน่นมากขึ้น รัฐสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติจะบูรณาการเชื่อมประสาน การทำงานของหน่วยงาน ต่างๆ เข้าด้วยกัน ให้ข้อเสนอแนะผ่านไปยังรัฐบาลเพื่อให้เกิดข้อสั่งการ เรากำหนดวันที่ 21 มกราคมของทุกปีเป็น”วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนแห่งชาติ” แต่ไม่มีมาตรการระดับชาติในการแก้ปัญหาจึงจะพยายามเข้ามีส่วนเข้ามาผลักดันการทำงาน ของแต่ละหน่วยงาน

สำหรับข้อเสนอให้ทบทวนงบดูงานและยกเลิกทัศนศึกษาดูงาน นายสรุชัย กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นเรื่องปลายเหตุส่วนหนึ่งเป็นความเห็นที่ว่าถ้าแก้ต้นเหตุไม่ได้ให้แก้ปลายเหตุ ไม่เช่นนั้นต่อไปต้องแก้ด้วยวิธีการไม่ให้ประชาชนเดินทาง ไปใช้วิธีการคมนาคมทางอื่นแทนเส้นทางกลาง แต่ถ้าเราทำถนนให้ปลอดภัย ถ้าเป็นการทัศนศึกษาที่เป็นจริงและใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าก็คงไม่ต้องไปยกเลิก.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ