“โอกาสไทยกับนายกฯ แพทองธาร” อัปเดตประเด็นเศรษฐกิจ

ทำเนียบ 26 ก.พ.- นายกฯ อัปเดตประเด็นเศรษฐกิจและอนาคตภาคเกษตร สองนโยบายเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทยในรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯ แพทองธาร” วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้ ต้องติดตาม


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยหลังจากที่มีการปล่อยตัวเลข GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของไตรมาส 4 ของปี 2567 ที่มีการเติบโต 3.2 % ส่งผลให้ทั้งปีเติบโต 2.5 % สูงกว่าปี 2566 ที่ 0.5% พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า แม้ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่เติบโตเท่าที่ควร ตามศักยภาพที่เรามี แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นและจะดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเปิดเผยว่าหลังจากนี้รัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร

โดยให้ความสำคัญกับ 2 นโยบายหลัก คือการเกษตรไทย และการดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศ สองนโยบายเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทยในการบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน


นายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์ในภาคการเกษตร พร้อมย้ำว่าประเทศไทยมีเกษตรกรมากกว่า 10 ล้านคน มีสัดส่วนพื้นที่การเกษตรมากกว่า 47 % แต่ภาคการเกษตรไทยมีสัดส่วนต่อ GDP เพียง 9 % เท่านั้น การยกระดับรายได้เกษตรกรเป็นโจทย์ใหญ่และมีความท้าทาย ถ้าสามารถเปลี่ยนการเกษตรไทยจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจไทยทั้งระบบได้ โดยได้ให้ความสำคัญไปที่การเปลี่ยนวิธีการคิด มุมมอง โดยมีแผนเป็นรูปธรรม

โดยเฉพาะเรื่องการวิจัยอย่างจริงจังใช้งานได้จริง ทั้งวิธีการปลูก การวิเคราะห์ความต้องการของโลก เพื่อพัฒนาพันธุ์พืช การเลี้ยงสัตว์ และการประมง ทำให้พี่น้องเกษตรกรที่ทำงานหนักได้ผลผลิตที่คุ้มค่าเหนื่อย เรื่องการพัฒนาตลาดภาคการเกษตรไทย เน้นการใช้พลังของประเทศไทยในฐานะผู้นำการส่งออกผลไม้ของโลก ว่าเราสามารถกำหนดมาตรฐานของผลไม้ที่ดีได้เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม พร้อมการสนับสนุนพืชเศรษฐกิจใหม่ ชา กาแฟ โกโก้ ให้ปลูกในประเทศไทยมากขึ้นเพราะเป็นตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง และการใช้อาหารไทยที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมาพัฒนาภาคการเกษตรไทย ให้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศใช้วัตถุดิบพืชผักจากประเทศไทยมากขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรไทยเตรียมตัวปรับวิธีคิดไปพร้อมกัน เตรียมตัวพัฒนาสกิล พัฒนาทักษะ สำหรับโอกาสใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ในภาคการลงทุนจากต่างประเทศตัวเลขสถิติจาก BOI ในปี 2567 มีต่างชาติขอมาลงทุนในประเทศไทย กว่า 1 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี โดยส่วนมากจะเป็นอุตสาหกรรมในอนาคต ทั้ง Semiconductor ยานยนต์และชิ้นส่วนรถ EV เกษตร การแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อธิบายถึงโอกาสที่เกิดขึ้นให้คนไทยเตรียมพร้อมอย่างไร เพื่อรับโอกาสนี้ ซึ่งสามารถไปรับชมและรับฟังได้ที่รายการ ‘โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร’ วันที่ 2 มี.ค. นี้ เวลา 08.00 -08.30 น. ทาง NBT 2HD พร้อมรับชมได้ทาง MCOT HD เวลา 09.30-10.00น.และวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.

ดราม่ายิว

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นไม่เคยคิดยึดปาย

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด เมืองปาย หลังมีกระแสข่าวชาวอิสราเอลตั้งถิ่นฐาน-ก่อความวุ่นวาย ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นประเทศไทยเป็นของคนไทย ไม่เคยคิดยึดปาย รับเสียใจคนเข้าใจผิด ทั้งที่คนอิสราเอลชอบประเทศไทยและคนไทย

รถบัสคว่ำ

รถบัสดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำดับ 18 – คนขับอ้างไม่ชินทาง

รถบัสทัศนศึกษาดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลง “เขาศาลปู่โทน” ปราจีนฯ เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน เบื้องต้นคนขับอ้างไม่ชินทาง

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาฯ