“วิโรจน์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “44 สส.ก้าวไกล” แก้ 112

ป.ป.ช. 21 ก.พ.-“วิโรจน์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “44 สส.ก้าวไกล” แก้ 112 ขัดจริยธรรม เตรียมขอสอบพยานหลักฐานการชี้มูลก่อน ยืนยันดำเนินการสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ชี้การแก้ไขกฎหมาย-ประกันตัวผู้ต้องหาเป็นสิทธิ สส.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ป.ป.ช.มีการนัดตนไว้วันนี้ เวลา 10.30 น. ซึ่ง สส.แต่ละคน ก็จะมีการกำหนดนัดวันที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะติดภารกิจหรือไม่ หรืออยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล ซึ่งต้องยอมรับจริงๆ ว่า การเคลียร์คิวต่างๆ มาตามหนังสือเชิญนั้น ค่อนข้างจะต้องใช้พลังงาน เนื่องจากเสียเวลาราชการ แต่ถือว่าเราพยายามที่จะให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.อย่างดีที่สุด ส่วนบางคนที่เลื่อนไม่ได้จริงๆ ก็ต้องเข้าใจเขาหมือนกัน


นายวิโรจน์ ยังตั้งข้อสังเกต ถึงการส่งหนังสือเชิญของ ป.ป.ช.ว่า คนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลกลับถูกเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาก่อน ขณะที่คนบ้านใกล้ก็ถูกเลือกให้มาทีหลัง และมีหลายคนที่ถูกเรียกให้มาในวันพุธ และพฤหัสบดี ซึ่งโดยปกติ ป.ป.ช.ควรรู้อยู่แล้วว่า การเชิญ สส. มาในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งที่มีการประชุมสภา และยังอยู่ระหว่างสมัยประชุมสภานั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ป.ป.ช.เรียกมาได้อย่างไร เนื่องจากในระเบียบของ ป.ป.ช.ก็มีระบุ เรื่องการออกหมายเชิญอยู่แล้ว จึงต้องตั้งข้อความอีกว่า ทำไมไม่อ่านระเบียบที่ตัวเองเขียน

นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า ในหนังสือเชิญ มีเพียงประเด็นเรื่องจริยธรรมอย่างเดียว ซึ่งตนหวังว่า การที่ ป.ป.ช.ดำเนินการเรื่องนี้กับผู้อื่น ผู้ดำเนินการก็ควรมีจริยธรรมเช่นเดียวกัน ขั้นพื้นฐานที่สุด คือการปฏิบัติตามระเบียบที่ตัวเองเขียนมาอย่างเคร่งครัด


ส่วนจะมีการอธิบายกับ ป.ป.ช.อย่างไรบ้างนั้น นายวิโรจน์ ยืนยันว่า ตนพยายามดำเนินการเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพที่สุด เข้าอกเข้าใจเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วย โดยเมื่อตนได้รับหนังสือแล้ว จึงทำหนังสือขอตรวจพยานหลักฐานมาก่อน วันนี้ก็มีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการทำหนังสือล่วงหน้าของตนและมาตามนัดนั้น จะได้รับการอนุญาตให้ตรวจพยานหลักฐานอย่างครบถ้วน

นายวิโรจน์ ย้ำว่า เรื่องสำคัญที่สุด คือ ป.ป.ช.กลับทำทุกอย่างให้เหมือนกับการคดี อาญา เพราะกระบวนการนั้น ตนเข้าใจว่าน่าจะค่อนข้างคล้ายคลึงกัน รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องจริยธรรม แต่เหตุใดจึงทำกับผู้ถูกกล่าวหา เหมือนผู้ก่อเหตุอาญา หรืออาชญากร เพราะหากจะทำเช่นนั้น ต้องเอาหลัก ป.วิอาญา มาใช้ด้วย ซึ่งผู้ถูกกล่าวหา มีสิทธิ์ในเข้าถึงพยานหลักฐาน ที่สำคัญที่สุด ความเป็นธรรมพื้นฐาน คือเครื่องระยะเวลา ที่ ป.ป.ช.เอง มักใช้ระยะเวลาไต่สวนคดีต่างๆ เป็นปี แต่ถ้าอยู่ดีๆ มาเร่งรัดภายใน 15 วัน หรือกำหนดว่าต้องเท่านั้นเท่านี้ ก็จะถูกตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันด้วย หวังเป็นอย่างที่ว่า ตนจะได้รับความยุติธรรม

สำหรับกรณีมีการเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวแก้ไข ม.112 ก่อนหน้านี้ รวมถึงการใช้ตำแหน่งเป็นนายประกันให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมในเรื่องข้างต้น นายวิโรจน์ ระบุว่า ต้องขอตรวจพยานหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาก่อน แต่ยืนยันว่าการเป็น สส. ที่ไปร่วมรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นความเห็นแตกต่างกันในประเทศนี้ เป็นสิ่งที่ควรเป็นหน้าที่ของเราด้วยซ้ำ ย้ำว่า ทุกอย่างทำโดยเปิดเผย สุจริต ดังนั้น จึงไม่มีความกังวลอะไร


ส่วนเรื่องการประกันตัว ก็เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนมีสิทธิ์จะได้รับการประกันตัวในการต่อสู้คดี และต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา เพียงแต่ สส.เข้าไปใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร

ส่วนจะใช้เรื่องการประกันตัวต่อสู้ในคดีด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขอดูพยานหลักฐานก่อน จะพูดไปก่อนไม่ได้ โดยที่ยังไม่เห็นพยานหลักฐาน หาก ป.ป.ช.ไม่ให้ดูพยานหลักฐานที่กล่าวหา ตนก็คิดว่า ประชาชนและสื่อมวลชน ตั้งข้อสังเกตได้ เพราะเราจะชี้แจงข้อเท็จจริงได้อย่างไร ถ้าไม่ให้เราดูพยานหลักฐาน หรือเข้าถึงได้เพียงบางส่วน ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ตนและเพื่อน สส.อีก 43 คน ทำทุกอย่างแบบเปิดเผยโปร่งใสทั้งหมด ไม่เคยงุบงิบ ซึ่งการทำเช่นนี้ก็สะท้อนว่าสุจริตอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ในข้อกล่าวหามีการระบุหรือไม่ ว่าเป็นเหตุการณ์อะไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่เลย ใช้แค่คำว่าเรื่องมาตรฐานจริยธรรม จึงยังไม่ทราบรายละเอียด วันนี้บังเอิญว่า คนอื่นอาจจะยังเคลียร์ตารางไม่ได้ ตนจึงพยายามเคลียร์ทั้งหมด เพื่อเข้ามาก่อน

ทั้ง คาดว่า มีการส่งหนังสือเรียกครบทั้ง 44 คนแล้ว แต่ตนเป็นคนแรก ที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ย้ำว่าทุกการกระทำ เปิดเผย โปร่งใส ไม่มีแอบทำ สื่อมวลชนก็เห็นอยู่แล้ว ไม่มีคลิปลับแบบที่ถูกเปิดเผยกันก่อนหน้านี้ ทำอะไร ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามสโลแกนของ ป.ป.ช. อยู่แล้ว ยืนยันว่า ถ้าเขากล่าวหาอะไรมา เราก็ชี้แจงตามคำข้อเท็จจริงไป เราไม่ได้ทำอะไร ที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามจริยธรรม

“เราตั้งพรรคขึ้นมา หากพูดถึงการทำงาน ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล จนถึงประชาชน เราพูดอยู่เสมอว่า เราต้องสร้างพรรคการเมืองของเราให้เป็นสถาบันทางการเมือง สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนให้ได้ ไม่อยากให้องค์กรของเรา เกิดการบูชาตัวบุคคล เพราะอะไรก็ตามที่ยึดโยงเช่นนั้น ไม่มีความยั่งยืน” นายวิโรจน์กล่าว

ส่วนมั่นใจว่าจะสู้คดีได้ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า “ถ้าไม่มั่นใจ คงไม่มา” ส่วนจะมีการตามเช็คบิล สส.ก้าวไกลเดิมหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงต้องถาม ป.ป.ช. ถามตนไม่ได้ เราต้องให้ความร่วมมือตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น จริงๆ แล้ว ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานที่ตนชื่นชมอย่างมาก เชื่อว่า ข้าราชการน้ำดี หากถูกสั่งให้ทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ตนก็เชื่อว่า ข้าราชการเหล่านั้น จะไม่ยอมให้เกิดสิ่งที่ไม่ถูกต้องแน่นอน เพราะข้าราชการ ป.ป.ช. บอกกับตนมาตลอดว่า ต้องทำตามความถูกต้อง เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่ หรือมือมืดที่คอยสั่งการอยู่หลังม่าน พอเกิดการดำเนินคดีขึ้น เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไร ดังนั้น การถูกต้องเท่านั้นที่ทำให้ความเป็นข้าราชการดำเนินต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรี จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันจับตาอย่างใกล้ชิด และเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการที่ยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ดีเยี่ยมโปร่งใส

เมื่อถามว่า หากย้อนกลับไป ยังจะเสนอแก้ไข ม.112 อยู่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ กระทำการอย่างบุ่มบ่าม แต่ทำตามหน้าที่ในการแก้ไขกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีอะไรที่รู้สึกว่า ถ้าย้อนกลับไป จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่มีสักแวบนึงที่คิดว่าผิด เพราะเราดูกฎหมายมาก่อน เพราะหากสิ่งที่พวกตนทำนั้นผิด ก็คงมีอาจารย์ระดับที่ได้การยอมรับในระดับสากลหรือประเทศ ออกมาติติงพวกตนแล้ว ยืนยันว่า พวกตนไม่ได้ดำเนินการตามอำเภอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท

ซุ่มยิงเจ้าของร้านข้าวแกงเสียชีวิตขณะเปิดร้าน

คนร้ายโหดซุ่มยิงเจ้าของร้านข้าวแกง กระสุนเจาะทะลุคอเสียชีวิต ขณะยกกับข้าวเตรียมเปิดร้าน ตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้ายและปมเหตุสังหาร