“วิโรจน์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “44 สส.ก้าวไกล” แก้ 112

ป.ป.ช. 21 ก.พ.-“วิโรจน์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “44 สส.ก้าวไกล” แก้ 112 ขัดจริยธรรม เตรียมขอสอบพยานหลักฐานการชี้มูลก่อน ยืนยันดำเนินการสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ชี้การแก้ไขกฎหมาย-ประกันตัวผู้ต้องหาเป็นสิทธิ สส.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ป.ป.ช.มีการนัดตนไว้วันนี้ เวลา 10.30 น. ซึ่ง สส.แต่ละคน ก็จะมีการกำหนดนัดวันที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะติดภารกิจหรือไม่ หรืออยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล ซึ่งต้องยอมรับจริงๆ ว่า การเคลียร์คิวต่างๆ มาตามหนังสือเชิญนั้น ค่อนข้างจะต้องใช้พลังงาน เนื่องจากเสียเวลาราชการ แต่ถือว่าเราพยายามที่จะให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.อย่างดีที่สุด ส่วนบางคนที่เลื่อนไม่ได้จริงๆ ก็ต้องเข้าใจเขาหมือนกัน


นายวิโรจน์ ยังตั้งข้อสังเกต ถึงการส่งหนังสือเชิญของ ป.ป.ช.ว่า คนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลกลับถูกเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาก่อน ขณะที่คนบ้านใกล้ก็ถูกเลือกให้มาทีหลัง และมีหลายคนที่ถูกเรียกให้มาในวันพุธ และพฤหัสบดี ซึ่งโดยปกติ ป.ป.ช.ควรรู้อยู่แล้วว่า การเชิญ สส. มาในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งที่มีการประชุมสภา และยังอยู่ระหว่างสมัยประชุมสภานั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ป.ป.ช.เรียกมาได้อย่างไร เนื่องจากในระเบียบของ ป.ป.ช.ก็มีระบุ เรื่องการออกหมายเชิญอยู่แล้ว จึงต้องตั้งข้อความอีกว่า ทำไมไม่อ่านระเบียบที่ตัวเองเขียน

นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า ในหนังสือเชิญ มีเพียงประเด็นเรื่องจริยธรรมอย่างเดียว ซึ่งตนหวังว่า การที่ ป.ป.ช.ดำเนินการเรื่องนี้กับผู้อื่น ผู้ดำเนินการก็ควรมีจริยธรรมเช่นเดียวกัน ขั้นพื้นฐานที่สุด คือการปฏิบัติตามระเบียบที่ตัวเองเขียนมาอย่างเคร่งครัด


ส่วนจะมีการอธิบายกับ ป.ป.ช.อย่างไรบ้างนั้น นายวิโรจน์ ยืนยันว่า ตนพยายามดำเนินการเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพที่สุด เข้าอกเข้าใจเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วย โดยเมื่อตนได้รับหนังสือแล้ว จึงทำหนังสือขอตรวจพยานหลักฐานมาก่อน วันนี้ก็มีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการทำหนังสือล่วงหน้าของตนและมาตามนัดนั้น จะได้รับการอนุญาตให้ตรวจพยานหลักฐานอย่างครบถ้วน

นายวิโรจน์ ย้ำว่า เรื่องสำคัญที่สุด คือ ป.ป.ช.กลับทำทุกอย่างให้เหมือนกับการคดี อาญา เพราะกระบวนการนั้น ตนเข้าใจว่าน่าจะค่อนข้างคล้ายคลึงกัน รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องจริยธรรม แต่เหตุใดจึงทำกับผู้ถูกกล่าวหา เหมือนผู้ก่อเหตุอาญา หรืออาชญากร เพราะหากจะทำเช่นนั้น ต้องเอาหลัก ป.วิอาญา มาใช้ด้วย ซึ่งผู้ถูกกล่าวหา มีสิทธิ์ในเข้าถึงพยานหลักฐาน ที่สำคัญที่สุด ความเป็นธรรมพื้นฐาน คือเครื่องระยะเวลา ที่ ป.ป.ช.เอง มักใช้ระยะเวลาไต่สวนคดีต่างๆ เป็นปี แต่ถ้าอยู่ดีๆ มาเร่งรัดภายใน 15 วัน หรือกำหนดว่าต้องเท่านั้นเท่านี้ ก็จะถูกตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันด้วย หวังเป็นอย่างที่ว่า ตนจะได้รับความยุติธรรม

สำหรับกรณีมีการเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวแก้ไข ม.112 ก่อนหน้านี้ รวมถึงการใช้ตำแหน่งเป็นนายประกันให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมในเรื่องข้างต้น นายวิโรจน์ ระบุว่า ต้องขอตรวจพยานหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาก่อน แต่ยืนยันว่าการเป็น สส. ที่ไปร่วมรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นความเห็นแตกต่างกันในประเทศนี้ เป็นสิ่งที่ควรเป็นหน้าที่ของเราด้วยซ้ำ ย้ำว่า ทุกอย่างทำโดยเปิดเผย สุจริต ดังนั้น จึงไม่มีความกังวลอะไร


ส่วนเรื่องการประกันตัว ก็เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนมีสิทธิ์จะได้รับการประกันตัวในการต่อสู้คดี และต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา เพียงแต่ สส.เข้าไปใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร

ส่วนจะใช้เรื่องการประกันตัวต่อสู้ในคดีด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขอดูพยานหลักฐานก่อน จะพูดไปก่อนไม่ได้ โดยที่ยังไม่เห็นพยานหลักฐาน หาก ป.ป.ช.ไม่ให้ดูพยานหลักฐานที่กล่าวหา ตนก็คิดว่า ประชาชนและสื่อมวลชน ตั้งข้อสังเกตได้ เพราะเราจะชี้แจงข้อเท็จจริงได้อย่างไร ถ้าไม่ให้เราดูพยานหลักฐาน หรือเข้าถึงได้เพียงบางส่วน ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ตนและเพื่อน สส.อีก 43 คน ทำทุกอย่างแบบเปิดเผยโปร่งใสทั้งหมด ไม่เคยงุบงิบ ซึ่งการทำเช่นนี้ก็สะท้อนว่าสุจริตอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ในข้อกล่าวหามีการระบุหรือไม่ ว่าเป็นเหตุการณ์อะไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่เลย ใช้แค่คำว่าเรื่องมาตรฐานจริยธรรม จึงยังไม่ทราบรายละเอียด วันนี้บังเอิญว่า คนอื่นอาจจะยังเคลียร์ตารางไม่ได้ ตนจึงพยายามเคลียร์ทั้งหมด เพื่อเข้ามาก่อน

ทั้ง คาดว่า มีการส่งหนังสือเรียกครบทั้ง 44 คนแล้ว แต่ตนเป็นคนแรก ที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ย้ำว่าทุกการกระทำ เปิดเผย โปร่งใส ไม่มีแอบทำ สื่อมวลชนก็เห็นอยู่แล้ว ไม่มีคลิปลับแบบที่ถูกเปิดเผยกันก่อนหน้านี้ ทำอะไร ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามสโลแกนของ ป.ป.ช. อยู่แล้ว ยืนยันว่า ถ้าเขากล่าวหาอะไรมา เราก็ชี้แจงตามคำข้อเท็จจริงไป เราไม่ได้ทำอะไร ที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามจริยธรรม

“เราตั้งพรรคขึ้นมา หากพูดถึงการทำงาน ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล จนถึงประชาชน เราพูดอยู่เสมอว่า เราต้องสร้างพรรคการเมืองของเราให้เป็นสถาบันทางการเมือง สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนให้ได้ ไม่อยากให้องค์กรของเรา เกิดการบูชาตัวบุคคล เพราะอะไรก็ตามที่ยึดโยงเช่นนั้น ไม่มีความยั่งยืน” นายวิโรจน์กล่าว

ส่วนมั่นใจว่าจะสู้คดีได้ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า “ถ้าไม่มั่นใจ คงไม่มา” ส่วนจะมีการตามเช็คบิล สส.ก้าวไกลเดิมหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงต้องถาม ป.ป.ช. ถามตนไม่ได้ เราต้องให้ความร่วมมือตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น จริงๆ แล้ว ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานที่ตนชื่นชมอย่างมาก เชื่อว่า ข้าราชการน้ำดี หากถูกสั่งให้ทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ตนก็เชื่อว่า ข้าราชการเหล่านั้น จะไม่ยอมให้เกิดสิ่งที่ไม่ถูกต้องแน่นอน เพราะข้าราชการ ป.ป.ช. บอกกับตนมาตลอดว่า ต้องทำตามความถูกต้อง เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่ หรือมือมืดที่คอยสั่งการอยู่หลังม่าน พอเกิดการดำเนินคดีขึ้น เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไร ดังนั้น การถูกต้องเท่านั้นที่ทำให้ความเป็นข้าราชการดำเนินต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรี จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันจับตาอย่างใกล้ชิด และเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการที่ยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ดีเยี่ยมโปร่งใส

เมื่อถามว่า หากย้อนกลับไป ยังจะเสนอแก้ไข ม.112 อยู่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ กระทำการอย่างบุ่มบ่าม แต่ทำตามหน้าที่ในการแก้ไขกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีอะไรที่รู้สึกว่า ถ้าย้อนกลับไป จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่มีสักแวบนึงที่คิดว่าผิด เพราะเราดูกฎหมายมาก่อน เพราะหากสิ่งที่พวกตนทำนั้นผิด ก็คงมีอาจารย์ระดับที่ได้การยอมรับในระดับสากลหรือประเทศ ออกมาติติงพวกตนแล้ว ยืนยันว่า พวกตนไม่ได้ดำเนินการตามอำเภอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]