กระชับสัมพันธ์ไทย-ลาว! ลุยปราบคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด

ทำเนียบ 20 ก.พ.- นายกฯ แพทองธาร จับมือนายกฯ สปป ลาว สานต่อ “สายพัวพันที่ยั่งยืน” สร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดน ลุยปราบคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด สร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ดันเป้าการค้า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมฉลอง 75 ปีสายสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ให้ประชาชนกินดี อยู่ดี และมีสุข


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมแถลงภายหลังพิธีลงนามความตกลงและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป.ลาว ครบ 75 ปี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในนามรัฐบาลและประชาชนไทย ยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว และคณะ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่ง สปป. ลาว เป็นประเทศแรกที่ตนได้เยือนอย่างเป็นทางการ ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งเป็นการเริ่มต้นการฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ในปีนี้ด้วย ซึ่งต่างเห็นพ้องที่จะเร่งขับเคลื่อนความร่วมมือไทย – ลาว ให้เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และส่งเสริมความกินดี อยู่ดี ของประชาชนใน 3 ด้านหลัก ได้แก่


ประการแรก เสริมสร้างให้พื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศมีความมั่นคง โดยด้านยาเสพติด เห็นพ้องที่จะเพิ่มความเข้มข้นของความร่วมมือ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของทั้งสองประเทศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข่าวสารและขยายผลการสืบสวนสอบสวนของชุดปฏิบัติการและคณะทำงานร่วม และส่งเสริมความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและระดับหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังเห็นพ้องการสนับสนุนการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนยาเสพติด ซึ่งไทยได้เริ่มดำเนินการแล้วที่แขวงหัวพันและแขวงบ่อแก้ว

ด้านปัญหาแก็งคอลเซ็นเตอร์ ไทยและ สปป. ลาว ต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยถือเป็นปัญหาร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งไทยได้เสนอให้ใช้ประโยชน์จากกรอบแม่โขง-ล้านช้าง ที่ไทยเป็นประธานในปีนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมืออย่างจริงจังในภูมิภาค พร้อมชื่นชมรัฐบาล สปป. ลาว ที่ได้ดำเนินการปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมสนับสนุน สปป. ลาว ในการขยายผลการปราบปรามและการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้อยู่เบื้องหลัง ผ่านศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย

ด้านหมอกควันข้ามแดน จะผลักดันให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งห้องปฏิบัติการเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเพิ่มเติม และการขยายผลโครงการนำร่องการจัดทำแนวกันไฟลดการเผาคู่ขนานในพื้นที่สองประเทศ นอกจากนี้ฝ่ายไทยเสนอเชื่อมโยงฐานข้อมูล (database) และระบบเตือนภัยล่วงหน้า (early warning) ของ สปป. ลาว เข้ากับระบบของ GISTDA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาด้วย


ด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัย นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ระบบโทรมาตรที่ไทยสนับสนุนการติดตั้ง มีส่วนช่วยการแจ้งเตือนระดับน้ำใน สปป. ลาว โดยไทยพร้อมสนับสนุนการติดตั้งระบบโทรมาตรใน สปป. ลาว เพิ่มเติม โดยเฉพาะในลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง และการเชื่อมโยงเครือข่ายโทรมาตรต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบแจ้งเตือนและการบริหารจัดการน้ำ

ประการที่สอง สร้างการเจริญเติบโตและความมั่งคั่งร่วมกัน โดยด้านการค้า เห็นพ้องที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ที่ได้ช่วยติดตามและอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยผ่านแดนไปจีน ทั้งการเพิ่มจำนวนขบวนรถไฟขนส่งผลไม้และการเพิ่มช่องตรวจปล่อยสินค้าบริเวณจุดผ่านแดนลาว-จีน นอกจากนี้จะร่วมมือกันในการลดการเผาในอุตสาหกรรมการเกษตรของสองประเทศด้วย

ด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ หลายโครงการมีความคืบหน้า ทั้งการเสริมกำลังสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ที่จะพร้อมเปิดใช้งานในปลายปีนี้ รวมทั้งเห็นพ้องที่จะร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และพร้อมสนับสนุนโครงการต่างๆ ให้มีความก้าวหน้า ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ที่จังหวัดหนองคาย โครงการเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว กับระบบรถไฟลาว-จีน และการเชื่อมต่อระบบรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กับระบบรถไฟลาว-จีน นอกจากนี้จะส่งเสริมให้มี joint venture ระหว่างภาคเอกชนไทย-ลาว เพื่อบริหารจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาค โดยบ่ายวันนี้ จะมีกิจกรรม Thai-Lao Business Forum ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนไทย-ลาว ได้พูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้

ประการที่สาม สร้างเสริมสายสัมพันธ์พิเศษระดับประชาชนไทย และ สปป. ลาว มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนาน และประชาชนสองฝั่งก็มีความผูกพันเป็นดั่งเครือญาติ ซึ่งในโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ทั้งสองฝ่ายจะจัดกิจกรรมเพื่อฉลองวาระพิเศษนี้ตลอดทั้งปี โดยไทยพร้อมมอบทุนการศึกษาจำนวนกว่า 75 ทุน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันยาวนาน และช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเยาวชนของ สปป. ลาว นอกจากนี้ยังพร้อมสนับสนุน สปป. ลาว อย่างต่อเนื่องต่อไปทั้งในด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์และการสนับสนุนเซรุ่มแก้พิษงู และด้านการเกษตร ผ่านโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนลาว

ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์และความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยไทยพร้อมร่วมมือกับ สปป. ลาวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและกรอบอาเซียนเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์และแก้ไขปัญหาที่ภูมิภาคเผชิญร่วมกันต่อไป

“ไทยและ สปป. ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นและมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแยกจากกันไม่ได้ ซึ่งในวาระพิเศษที่ทั้งสองประเทศกำลังฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี ของความสัมพันธ์ฯ นายกรัฐมนตรียินดีและมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ในการส่งเสริมให้ประชาชนไทย-ลาว มีความกินดี อยู่ดี และมีสุข รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นสายพัวพันที่ยั่งยืน ในอีก 75 ปีข้างหน้าต่อไป” นางสาวแพรทองธาร กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน

จุฬาราชมนตรี

“ภูมิธรรม” พบจุฬาราชมนตรี แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้

“ภูมิธรรม” พบจุฬาราชมนตรี เห็นพ้องแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ชี้การฆ่าไม่ใช่หลักศาสนาที่ถูกต้อง ในการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ แนะหาทางออกร่วมกัน ยุติความรุนแรงในพื้นที่ พร้อมพูดคุยกับคนที่แก้ไขปัญหาได้