ชาเทรียม แกรนด์ 19 ก.พ.- “ภูมิธรรม’ คุย ‘รมว.ป้องประเทศลาว’ สกัด ‘คอลเซนเตอร์’ ย้ายฐานจาก ‘เมียนมา’ มองข้อเสนอ ‘จ้าวเหว่ยโมเดล’ ในพื้นที่ ‘คิงส์โรมัน’ จัดการในภูมิภาค ชี้ลักษณะหลายอย่างต่างกัน ย้ำการประสาน 2 ระดับ ‘ปฏิบัติ-นโยบาย’ ควบคู่กัน ‘ลาว’ ขอบคุณ ‘ไทย’ ช่วยเหยื่อชาวลาวในเมียนมาออกมา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้การต้อรับ พล.ท. คำเลียง อุทะไกสอน รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสเดินทางเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ และเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย – ลาว ครั้งที่ 29
ภายหลังการประชุม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความร่วมมือในขณะนี้คือการซีลชายแดนร่วมกัน ตามกรอบงาน รมว.กลาโหมอาเซียน (ADMM) เพราะประเทศเพื่อนบ้านของไทยต่างประสบปัญหาอาชญากรรมตามแนวชานแดน ปัญหาหายาเสพติด สแกมเมอร์ ค้ามนุษย์ ปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งประเทศไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม ต่างประสบปัญหานี้ ซึ่งไทยเคยจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์นี้ ได้ช่วยอบรมเจ้าหน้าที่ของ สปป ลาว 30 กว่าคน และจะขยายการสนับสนุนต่อไป และอาจไปต่อที่ประเทศกัมพูชา เพื่ออบรมให้เจ้าหน้าที่มีความรู้เพิ่มขึ้นในการป้องกันเพิ่มขึ้น และการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือขึ้นมา
สำหรับปัญหาสแกมเมอร์ที่เปลี่ยนแปลงไป ภายหลังจัดการในประเทศเมียนมาเรียบร้อย หากมีปัญหาต่อเราก็เตรียมการขยายผลต่อทั้งลาวและกัมพูชาเพื่อความต่อเนื่อง
ทั้งนี้ทางลาวได้ขอบคุณไทยที่แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ เพราะมีชาวลาวได้รับการช่วยเหลือและส่งกลับจากเมียนมาไปแล้ว 6 คน และที่เตรียมส่งกลับอีก 13 คน ทางลาวขอให้เราช่วยต่อไป
เมื่อถามถึงปัญหาคอลเซนเตอร์ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-ลาว ที่ลดลง และมีการพูดถึง ‘จ้าวเหว่ยโมเดล’ ในพื้นที่คิงส์โรมัน ขึ้นมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า “พื้นที่คิงส์โรมันก็ดี และพื้นที่อื่นๆ ก็ดี ผมคิดว่ามีลักษณะหลายอย่างที่แตกต่างกันไป แต่เราได้บอกไปแล้วว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นก็จะร่วมมือกัน ก็พยายามตรวจสอบสภาพไม่ให้ภาวะหลุดออกไปจากเมียนมาไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าเป็นความยากลำบากของพลเมืองทั้ง 2 ประเทศ ได้ก่อให้เกิดภัยกับประเทศต่างๆทั่วโลก ที่ในระดับปฏิบัติก็ต้องประสานงานกัน ควบคู่ในระดับนโยบายในการพูดคุยกัน ทำให้เห็นความคืบหน้าในการทำงานทุกระดับ”
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตนกับ รมว.ป้องกันประเทศ สปป ลาว ก็เป็นไปด้วยดี ได้พบกันมา 3 ครั้งแล้ว ซึ่งครั้งนี้เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการ สิ่งที่ได้มีการพูดคุยกันอีกคือการดูดทรายในแม่น้ำโขงที่กระทบ 2 ประเทศ จึงต้องร่วมมือกัน รวมทั้งปัญหาเรื่องการบินโดรนในการขนส่งยาเสพติดจากฝั่งไทยไปลาว ซึ่งทางไทยก็ได้ขอโทษไป โดยทางลาวก็ไม่ได้โทษไทย ซึ่งจะต้องมีการกำชับและประสานเจ้าหน้าที่ชายแดนในหลายๆระดับ-313 .-สำนักข่าวไทย