รัฐสภา 19 ก.พ.-เพื่อไทย ยื่นประธานสภาฯ ขอมติรัฐสภา ส่งศาลวินิจฉัยปัญหาอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ในการพิจารณาและลงมติร่าง รธน. แก้ ม.256 และเพิ่มหมวด ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ “วิสุทธิ์” ยกเกิดปัญหาความขัดแย้งเรื่องเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่แล้ว และยังไม่เคยมีคำวินิจฉัยของศาลมาก่อน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้เสนอญัตติด่วนเรื่องขอรัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา210 วรรคหนึ่ง (2) โดยตนเและสส.พรรคเพื่อไทยป็นผู้เสนอมีเนื้อหาระบุอ้างอิงถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และ เพิ่มหมวด 15/1 ตั้ง ส.ส.ร. เพื่อจัดทำร่างฉบับใหม่ของร่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ซึ่งมีหลักการทำนองเดียวกัน และประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระในการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปรากฏว่าเกิดความขัดแย้งและความเห็นที่แตกต่างกันของสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา
โดยฝ่ายหนึ่งเห็นว่ารัฐสภาไม่มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากยังมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ว่าประชาชนประสงค์ที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 จึงได้แสดงออกด้วยการประกาศไม่เข้าร่วมประชุมและมีการอภิปรายแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง
ขณะที่สมาชิกรัฐสภาส่วนหนึ่งเห็นว่ารัฐสภามีหน้าที่ทำหน้าที่พิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับ เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการเพิ่มเติมหมวด 15/1 เท่านั้น ซึ่งภายหลังเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว จึงไปดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ โดยทำพร้อมกับประชามติว่าประชาชนเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นการทำประชามติก่อนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เช่นกัน ซึ่งฝ่ายนี้เห็นว่าเป็นการสอดคล้องและเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564
ดังนั้นเมื่อสมาชิกรัฐสภามีความเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในข้างต้น จึงทำให้รัฐสภาไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามหน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ จึงก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการทำหน้าที่และถือว่าเป็นกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วและยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปัญหาดังกล่าว จึงเสนอญัตติด่วนตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่.-312.-สำนักข่าวไทย