“อนุกูล” ลงพื้นที่ปาดังเบซาร์ ดูรถไฟรางคู่ ปลุกกระแสท่องเที่ยวทางราง

สงขลา 16 ก.พ. – “อนุกูล” ลงพื้นที่ปาดังเบซาร์ ดูรถไฟรางคู่ ปลุกกระแสท่องเที่ยวทางราง เชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างไทย-มาเลเซีย กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างเงินหมุนเวียนภาคใต้


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ ณ ด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่ จากปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และติดตามสถานการณ์การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่นๆ เข้าไทย โดยการท่องเที่ยวทางราง

นายอนุกูล กล่าวว่า จังหวัดสงขลา มีศักยภาพสูงในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางด้วยรถไฟ โดยเฉพาะจากประเทศมาเลเซีย KTM Berhad (การรถไฟมาลายา) ได้เปิดให้บริการรถไฟขบวนพิเศษ “MY Sawasdee” ตั้งแต่ปี 2565 บนเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา KTM Berhad ได้จัดเดินรถขบวนพิเศษดังกล่าวจำนวน 16 เที่ยว รองรับผู้โดยสารกว่า 6,000 คน และในปี 2568 นี้ มีแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวเป็น 28 เที่ยว แบ่งเป็นเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ 25 เที่ยว และเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี-กัวลาลัมเปอร์ 3 เที่ยว ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง


โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซียที่เดินทางผ่านบริษัททัวร์ นิยมแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา ก่อนเดินทางกลับ เช่น ย่านเมืองเก่าสงขลา หาดสมิหลา เจดีย์สแตนเลส ตลาดน้ำคลองแห ตลาดกิมหยง และแหล่งชอปปิ้งชื่อดังอื่นๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างเงินหมุนเวียน จากข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา มาเลเซีย เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยมากที่สุด ในปี 2567 มีจำนวนสูงถึง 2,479,427 คน ขณะที่เดือนมกราคม 2568 เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาถึง 222,988 คน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในพื้นที่หาดใหญ่และจังหวัดสงขลา ได้แก่ เคเบิ้ลคาร์ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เจดีย์สแตนเลส หาดสมิหลา เขาตังกวน ย่านเมืองเก่าสงขลา วัดพะโคะ ตลาดน้ำคลองแหที่จัดทุกเย็นวันศุกร์-อาทิตย์ รวมทั้งยังมีแหล่งชอปปิ้ง เช่น ตลาดพลาซ่า ตลาดกิมหยง และตลาดนัดกลางคืนหน้าโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ และตลาดกรีนเวย์ เป็นต้น

“มูลค่าทางการค้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ มูลค่าการค้ารวม 154,741.88 ล้านบาท โดยสินค้า 5 อันดับแรกที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ 1.ยางธรรมชาติ 2.ยางสังเคราะห์ 3.ไม้ที่เลื่อยหรือถากตามยาว ฝานหรือลอก 4.ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบของยานยนต์ และ 5.เครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติและหน่วยต่างๆ สำหรับสถิติจัดเก็บรายได้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รายได้ศุลกากรจัดเก็บรวมทั้งหมดจำนวน 2,943 ล้านบาท และข้อมูลล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (1 ตุลาคม 2567-13 กุมภาพันธ์ 2568) จัดเก็บได้แล้วประมาณ 530 ล้านบาท” นายอนุกูล กล่าว.-316-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง