“อนุกูล” นำสื่อฯ เยี่ยมชม “อุทยานเขาเล่” ดันแหล่งท่องเที่ยว อ.สะเดา

สงขลา 16 ก.พ. – “อนุกูล” นำสื่อมวลชนเยี่ยมชม “อุทยานเขาเล่” ดันแหล่งท่องเที่ยว อ.สะเดา ชายแดนไทย-มาเลเซีย หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สร้างความมั่นใจดูแลความปลอดภัยเมืองหน้าด่าน


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะสื่อมวลชนในกิจกรรม Press tour เยี่ยมชมศึกษาดูแนวทางการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณอุทยานเขาเล่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ โดยมีจุดชมวิว “ทะเลหมอก” ธรรมชาติที่งดงาม และมีจุดชมวิว 360 องศา คือ ยอดเขาหัวล้าน ยอดเขาเขียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น นักปีนเขา นักเดินป่า แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ 1.โซนผืนป่า ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเทศบาลเมืองสะเดา ได้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เนื้อที่ 325 ไร่ และ 2.โซนพุทธอุทยาน ได้มีการก่อสร้างองค์ “พระพุทธนิมิตพิชิตมาร” หน้าตักกว้าง 22 เมตร นอกจากนี้ภายในพุทธอุทยานยังมีสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ศูนย์การเรียนรู้ตามรอยหลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์กวนอิม พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น

นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองสะเดา เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเร่งยกระดับในการพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกๆ ด้าน ซึ่งโครงการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานเขาเล่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ และสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอสะเดา ในภาพรวม นอกจากนี้ยังจะเป็นสถานที่เพื่อให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ทางศาสนาในการประกอบศาสนพิธีต่างๆ ของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ จากการประมาณค่าก่อสร้าง โครงการฯ พุทธอุทยานเขาเล่ คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 99 ล้านบาท


“จากการวิเคราะห์จำนวนผู้มาเยี่ยมเยือนหรือนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดสงขลา ที่จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่โครงการฯ โดยจากสถิติผู้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดสงขลา ในสถานการณ์ปกติก่อนเกิดสถานการณ์ระบาดโควิด-19 พบว่าในปี 2562 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมด 7,767,791 คน มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนต่อวันประมาณ 21,281 คน โดยคาดว่าพื้นที่โครงการฯ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอสะเดา และของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งโครงการฯ สามารถเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อยู่ใกล้เขตชายแดนเดินทางง่าย จึงคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่โครงการประมาณร้อยละ 5 ของจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมดต่อวันเท่ากับ 1,064 คน ดังนั้น ในอนาคตพื้นที่โครงการมีเป้าหมายรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1,500 คนต่อวัน” นายอนุกูล ระบุ

ด้านนายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้ศึกษาออกแบบพุทธอุทยานเขาเล่ ตั้งแต่ปี 2564 โดยขณะนี้ได้ดำเนินการศึกษาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะใช้งบประมาณ 99 ล้านบาท โดยการปรับปรุงส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นเพื่อสอดรับกับนโยบายรัฐบาล ที่ผลักดัน amazing thailand and sport นอกจากจะมีจุดท่องเที่ยวทางศาสนา ยังให้ผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขาสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ และนอกจากอำเภอสะเดา มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นในจังหวัดสงขลา ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ซึ่งขณะนี้กำลังรองบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลอยู่ โดยจะนำงบประมาณมาปรับภูมิทัศน์โดยรอบตั้งแต่ทางขึ้น รวมถึงทำระบบระบายน้ำ จุดชมวิว มีทางเดินเชื่อมระหว่างจุด ตั้งแต่ทางขึ้นจะมีบันไดถึง 600 ขั้น มาจนถึงฐานองค์พระ และมีลานกราบไหว้พระพุทธรูป 

นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา กล่าวว่า พุทธอุทยานเขาเล่ จะเห็นวิวครอบคลุมอำเภอสะเดา และมองเห็นประเทศมาเลเซีย ซึ่งอำเภอสะเดา มีด่านถาวร 2 จุด คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ โดยเฉพาะด่านสะเดา มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณวันละกว่า 10,000 คน ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย แต่หากในช่วงเทศกาลจะอยู่ที่กว่า 20,000 คนต่อวัน ขณะที่ด่านปาดังเบซาร์ก มีนักท่องเที่ยวเกือบ 10,000 คนต่อวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาท่องเที่ยวที่เขาเล่ และท่องเที่ยวในอำเภอสะเดา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็เดินทางต่อไปที่อำเภอหาดใหญ่ และต่างจังหวัด ดังนั้น การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นถือเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวให้อยู่ในพื้นที่อำเภอสะเดา เพิ่มมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ 


ขณะที่ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ระบุว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวนั้นในอำเภอสะเดา แต่มีการดูแลตั้งแต่พรมแดน โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ด่านศุลกากร และบูรณาการการทำงานดูแลทั้งด่านขนส่งและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอำเภอสะเดา ถือเป็นอำเภอทางผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆ ในขณะเดียวกันมีพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษที่อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะผลักดันส่วนนี้ให้สถานประกอบการของสงขลา แม้จะไม่เทียบเท่าเกาะสมุย ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ที่มีการขยายเวลาสถานบันเทิง โดยร้อยละ 90 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนเมื่อเส้นทางชายแดนเปลี่ยนเข้าด่านใหม่ บริเวณพื้นที่ด่านนอกก็จะเป็นพื้นที่ที่น่าสงสาร มีการตั้งคำถามว่าจะเป็นแค่ทางผ่านหรือไม่ และจะมีคำถามต่อมาว่าปิดด่านหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่เคยปิดด่าน แต่จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น ดังนั้น จะต้องมีการผลักดันให้เมืองสะเดาเป็นเมืองหน้าด่านประตูแห่งสยาม จะต้องสร้างสิ่งที่ประทับใจให้นักท่องเที่ยว ขณะที่การรักษาความปลอดภัย เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากมาเลเซียจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจาก 1 วันปีนัง เทียบเท่ากับ 3 วันในไทย.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]