“อนุกูล” นำสื่อฯ เยี่ยมชม “อุทยานเขาเล่” ดันแหล่งท่องเที่ยว อ.สะเดา

สงขลา 16 ก.พ. – “อนุกูล” นำสื่อมวลชนเยี่ยมชม “อุทยานเขาเล่” ดันแหล่งท่องเที่ยว อ.สะเดา ชายแดนไทย-มาเลเซีย หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สร้างความมั่นใจดูแลความปลอดภัยเมืองหน้าด่าน


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะสื่อมวลชนในกิจกรรม Press tour เยี่ยมชมศึกษาดูแนวทางการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณอุทยานเขาเล่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ โดยมีจุดชมวิว “ทะเลหมอก” ธรรมชาติที่งดงาม และมีจุดชมวิว 360 องศา คือ ยอดเขาหัวล้าน ยอดเขาเขียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น นักปีนเขา นักเดินป่า แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ 1.โซนผืนป่า ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเทศบาลเมืองสะเดา ได้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เนื้อที่ 325 ไร่ และ 2.โซนพุทธอุทยาน ได้มีการก่อสร้างองค์ “พระพุทธนิมิตพิชิตมาร” หน้าตักกว้าง 22 เมตร นอกจากนี้ภายในพุทธอุทยานยังมีสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ศูนย์การเรียนรู้ตามรอยหลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์กวนอิม พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น

นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองสะเดา เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเร่งยกระดับในการพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกๆ ด้าน ซึ่งโครงการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานเขาเล่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ และสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอสะเดา ในภาพรวม นอกจากนี้ยังจะเป็นสถานที่เพื่อให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ทางศาสนาในการประกอบศาสนพิธีต่างๆ ของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ จากการประมาณค่าก่อสร้าง โครงการฯ พุทธอุทยานเขาเล่ คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 99 ล้านบาท


“จากการวิเคราะห์จำนวนผู้มาเยี่ยมเยือนหรือนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดสงขลา ที่จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่โครงการฯ โดยจากสถิติผู้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดสงขลา ในสถานการณ์ปกติก่อนเกิดสถานการณ์ระบาดโควิด-19 พบว่าในปี 2562 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมด 7,767,791 คน มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนต่อวันประมาณ 21,281 คน โดยคาดว่าพื้นที่โครงการฯ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอสะเดา และของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งโครงการฯ สามารถเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อยู่ใกล้เขตชายแดนเดินทางง่าย จึงคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่โครงการประมาณร้อยละ 5 ของจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมดต่อวันเท่ากับ 1,064 คน ดังนั้น ในอนาคตพื้นที่โครงการมีเป้าหมายรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1,500 คนต่อวัน” นายอนุกูล ระบุ

ด้านนายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้ศึกษาออกแบบพุทธอุทยานเขาเล่ ตั้งแต่ปี 2564 โดยขณะนี้ได้ดำเนินการศึกษาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะใช้งบประมาณ 99 ล้านบาท โดยการปรับปรุงส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นเพื่อสอดรับกับนโยบายรัฐบาล ที่ผลักดัน amazing thailand and sport นอกจากจะมีจุดท่องเที่ยวทางศาสนา ยังให้ผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขาสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ และนอกจากอำเภอสะเดา มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นในจังหวัดสงขลา ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ซึ่งขณะนี้กำลังรองบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลอยู่ โดยจะนำงบประมาณมาปรับภูมิทัศน์โดยรอบตั้งแต่ทางขึ้น รวมถึงทำระบบระบายน้ำ จุดชมวิว มีทางเดินเชื่อมระหว่างจุด ตั้งแต่ทางขึ้นจะมีบันไดถึง 600 ขั้น มาจนถึงฐานองค์พระ และมีลานกราบไหว้พระพุทธรูป 

นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา กล่าวว่า พุทธอุทยานเขาเล่ จะเห็นวิวครอบคลุมอำเภอสะเดา และมองเห็นประเทศมาเลเซีย ซึ่งอำเภอสะเดา มีด่านถาวร 2 จุด คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ โดยเฉพาะด่านสะเดา มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณวันละกว่า 10,000 คน ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย แต่หากในช่วงเทศกาลจะอยู่ที่กว่า 20,000 คนต่อวัน ขณะที่ด่านปาดังเบซาร์ก มีนักท่องเที่ยวเกือบ 10,000 คนต่อวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาท่องเที่ยวที่เขาเล่ และท่องเที่ยวในอำเภอสะเดา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็เดินทางต่อไปที่อำเภอหาดใหญ่ และต่างจังหวัด ดังนั้น การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นถือเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวให้อยู่ในพื้นที่อำเภอสะเดา เพิ่มมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ 


ขณะที่ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ระบุว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวนั้นในอำเภอสะเดา แต่มีการดูแลตั้งแต่พรมแดน โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ด่านศุลกากร และบูรณาการการทำงานดูแลทั้งด่านขนส่งและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอำเภอสะเดา ถือเป็นอำเภอทางผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆ ในขณะเดียวกันมีพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษที่อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะผลักดันส่วนนี้ให้สถานประกอบการของสงขลา แม้จะไม่เทียบเท่าเกาะสมุย ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ที่มีการขยายเวลาสถานบันเทิง โดยร้อยละ 90 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนเมื่อเส้นทางชายแดนเปลี่ยนเข้าด่านใหม่ บริเวณพื้นที่ด่านนอกก็จะเป็นพื้นที่ที่น่าสงสาร มีการตั้งคำถามว่าจะเป็นแค่ทางผ่านหรือไม่ และจะมีคำถามต่อมาว่าปิดด่านหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่เคยปิดด่าน แต่จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น ดังนั้น จะต้องมีการผลักดันให้เมืองสะเดาเป็นเมืองหน้าด่านประตูแห่งสยาม จะต้องสร้างสิ่งที่ประทับใจให้นักท่องเที่ยว ขณะที่การรักษาความปลอดภัย เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากมาเลเซียจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจาก 1 วันปีนัง เทียบเท่ากับ 3 วันในไทย.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]