“อนุกูล” นำสื่อฯ เยี่ยมชม “อุทยานเขาเล่” ดันแหล่งท่องเที่ยว อ.สะเดา

สงขลา 16 ก.พ. – “อนุกูล” นำสื่อมวลชนเยี่ยมชม “อุทยานเขาเล่” ดันแหล่งท่องเที่ยว อ.สะเดา ชายแดนไทย-มาเลเซีย หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สร้างความมั่นใจดูแลความปลอดภัยเมืองหน้าด่าน


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะสื่อมวลชนในกิจกรรม Press tour เยี่ยมชมศึกษาดูแนวทางการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณอุทยานเขาเล่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ โดยมีจุดชมวิว “ทะเลหมอก” ธรรมชาติที่งดงาม และมีจุดชมวิว 360 องศา คือ ยอดเขาหัวล้าน ยอดเขาเขียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น นักปีนเขา นักเดินป่า แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ 1.โซนผืนป่า ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเทศบาลเมืองสะเดา ได้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เนื้อที่ 325 ไร่ และ 2.โซนพุทธอุทยาน ได้มีการก่อสร้างองค์ “พระพุทธนิมิตพิชิตมาร” หน้าตักกว้าง 22 เมตร นอกจากนี้ภายในพุทธอุทยานยังมีสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ศูนย์การเรียนรู้ตามรอยหลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์กวนอิม พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น

นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองสะเดา เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเร่งยกระดับในการพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกๆ ด้าน ซึ่งโครงการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานเขาเล่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ และสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอสะเดา ในภาพรวม นอกจากนี้ยังจะเป็นสถานที่เพื่อให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ทางศาสนาในการประกอบศาสนพิธีต่างๆ ของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ จากการประมาณค่าก่อสร้าง โครงการฯ พุทธอุทยานเขาเล่ คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 99 ล้านบาท


“จากการวิเคราะห์จำนวนผู้มาเยี่ยมเยือนหรือนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดสงขลา ที่จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่โครงการฯ โดยจากสถิติผู้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดสงขลา ในสถานการณ์ปกติก่อนเกิดสถานการณ์ระบาดโควิด-19 พบว่าในปี 2562 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมด 7,767,791 คน มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนต่อวันประมาณ 21,281 คน โดยคาดว่าพื้นที่โครงการฯ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอสะเดา และของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งโครงการฯ สามารถเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อยู่ใกล้เขตชายแดนเดินทางง่าย จึงคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่โครงการประมาณร้อยละ 5 ของจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมดต่อวันเท่ากับ 1,064 คน ดังนั้น ในอนาคตพื้นที่โครงการมีเป้าหมายรองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1,500 คนต่อวัน” นายอนุกูล ระบุ

ด้านนายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้ศึกษาออกแบบพุทธอุทยานเขาเล่ ตั้งแต่ปี 2564 โดยขณะนี้ได้ดำเนินการศึกษาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะใช้งบประมาณ 99 ล้านบาท โดยการปรับปรุงส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นเพื่อสอดรับกับนโยบายรัฐบาล ที่ผลักดัน amazing thailand and sport นอกจากจะมีจุดท่องเที่ยวทางศาสนา ยังให้ผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขาสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ และนอกจากอำเภอสะเดา มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นในจังหวัดสงขลา ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ซึ่งขณะนี้กำลังรองบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลอยู่ โดยจะนำงบประมาณมาปรับภูมิทัศน์โดยรอบตั้งแต่ทางขึ้น รวมถึงทำระบบระบายน้ำ จุดชมวิว มีทางเดินเชื่อมระหว่างจุด ตั้งแต่ทางขึ้นจะมีบันไดถึง 600 ขั้น มาจนถึงฐานองค์พระ และมีลานกราบไหว้พระพุทธรูป 

นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา กล่าวว่า พุทธอุทยานเขาเล่ จะเห็นวิวครอบคลุมอำเภอสะเดา และมองเห็นประเทศมาเลเซีย ซึ่งอำเภอสะเดา มีด่านถาวร 2 จุด คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ โดยเฉพาะด่านสะเดา มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณวันละกว่า 10,000 คน ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย แต่หากในช่วงเทศกาลจะอยู่ที่กว่า 20,000 คนต่อวัน ขณะที่ด่านปาดังเบซาร์ก มีนักท่องเที่ยวเกือบ 10,000 คนต่อวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาท่องเที่ยวที่เขาเล่ และท่องเที่ยวในอำเภอสะเดา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็เดินทางต่อไปที่อำเภอหาดใหญ่ และต่างจังหวัด ดังนั้น การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นถือเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวให้อยู่ในพื้นที่อำเภอสะเดา เพิ่มมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ 


ขณะที่ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ระบุว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวนั้นในอำเภอสะเดา แต่มีการดูแลตั้งแต่พรมแดน โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ด่านศุลกากร และบูรณาการการทำงานดูแลทั้งด่านขนส่งและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอำเภอสะเดา ถือเป็นอำเภอทางผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆ ในขณะเดียวกันมีพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษที่อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะผลักดันส่วนนี้ให้สถานประกอบการของสงขลา แม้จะไม่เทียบเท่าเกาะสมุย ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ที่มีการขยายเวลาสถานบันเทิง โดยร้อยละ 90 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนเมื่อเส้นทางชายแดนเปลี่ยนเข้าด่านใหม่ บริเวณพื้นที่ด่านนอกก็จะเป็นพื้นที่ที่น่าสงสาร มีการตั้งคำถามว่าจะเป็นแค่ทางผ่านหรือไม่ และจะมีคำถามต่อมาว่าปิดด่านหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่เคยปิดด่าน แต่จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น ดังนั้น จะต้องมีการผลักดันให้เมืองสะเดาเป็นเมืองหน้าด่านประตูแห่งสยาม จะต้องสร้างสิ่งที่ประทับใจให้นักท่องเที่ยว ขณะที่การรักษาความปลอดภัย เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากมาเลเซียจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจาก 1 วันปีนัง เทียบเท่ากับ 3 วันในไทย.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย