ทำเนียบ 15 ก.พ.-“อนุกูล” รองโฆษกรัฐบาล ประชุมหน่วยงาน เตรียมพร้อมรับทัพสื่อมวลชนลงพื้นที่สงขลาพรุ่งนี้ ติดตามโครงการสำคัญของรัฐบาล “ท่องเที่ยว-ด่านการค้าชายแดน” ก่อนการประชุม ครม.สัญจรอังคารนี้
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรม Press Tour นำคณะสื่อมวลชนกว่า 20 สำนักข่าวทั้งสื่อหลักและสื่อดิจิทัล ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรม ติดตามงานสำคัญตามนโยบบายของรัฐบาล ณ จังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมควบคู่การประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรกของปี 2568 ณ จังหวัดสงขลา
โดยจุดแรกคณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยังโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองชายแดน พุทธอุทยาน เขาเล่ ตำบลสะเดา อำเภอสะเดา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ มีจุดชมวิว “ทะเลหมอก” ธรรมชาติที่งดงาม และมีจุดชมวิว 360 องศา คือ ยอดเขาหัวล้าน ยอดเขาเขียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทยไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น นักปีนเขา นักเดินป่า แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ 1. โซนผืนป่า ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเทศบาลเมืองสะเดา ได้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เนื้อที่ 325 ไร่
และ 2. โซนพุทธอุทยานได้มีการก่อสร้างองค์ “พระพุทธนิมิตพิชิตมาร” หน้าตักกว้าง 22 เมตร ความสูง นอกจากนี้ ภายในพุทธอุทยานยังมีสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ศูนย์การเรียนรู้ตามรอยหลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์กวนอิม พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองสะเดาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเร่งยกระดับในการพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกๆ ด้าน ซึ่งโครงการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานเขาเล่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้
จากนั้น คณะสื่อมวลชน จะเดินทางไปยังด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่ จาก ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และติดตามสถานการณ์การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่น ๆ เข้าไทยโดยการท่องเที่ยวทางราง จากข้อมูลจากด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา พบว่า มาเลเซียเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุด โดยในปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามายังจังหวัดสงขลารวม 2,479,427 คน และในเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียรวม 222,988 คน
ถัดจากนั้น คณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยังวัดจะทิ้งพระ ตำบลจะทิ้งพระ อำเภอสทิ้งพระ จังหวัดสงขลา เพื่อไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดจะทิ้งพระถือ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองศิลปะสมัยศรีวิชัยประจำอำเภอสทิ้งพระจังหวัดสงขลา จากนั้นคณะสื่อมวลชนเดินทางต่อไปยัง วัดพะโคะ ตำบลชุมพล อำเภอทิ้งพระ จังหวัดสงขลา วัดพะโคะ ถือเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นนวัดจำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเล พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนให้ความนับถือมากมาย เสร็จแล้ว คณะสื่อมวลชนเดินทางไปต่อไปยัง ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ดินแดนลูกปัดมโนราห์ ชมความงามและแหล่งท่องเที่ยวตามเส้นทางทะเลหลวง
ต่อจากนั้น คณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยังจังหวัดพัทลุง โดยระหว่างทางผ่านสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ คณะสื่อมวลชนจะแวะรับชมความงามในช่วงยามเย็นของทะเลน้อยและชมควายปลัก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาการเลี้ยงควายภายใต้ระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำ ทะเลน้อยของจังหวัดพัทลุง ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะพบได้ในเพียงพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดย”ควายปลัก“แห่งทะเลน้อย ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชนติ (FAO) ให้เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย (Globally Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS) ก่อนจะเดินทางเข้าที่พัก ณ จังหวัดพัทลุง.-314.-สำนักข่าวไทย