รัฐสภา 14 ก.พ.- ชมรมรัฐสภาสตรีไทย แถลงจี้ “ปูอัด” ลาออก สส. ไปต่อสู้คดี ชี้ทำภาพลักษณ์สภาเสื่อมเสีย-พฤติกรรมซ้ำซาก ด้าน “ครูจวง” วอน สส.ชาย ร่วมโหวตส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดี ยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครอง
ชมรมรัฐสภาสตรีไทย นำโดย น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานชมรมฯ น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร และนายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน พร้อม สส. สว.สตรี และผู้มีความหลากหลาย ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เรื่องขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่าอาจสร้างความเสื่อมเสียให้กับสภาฯ
โดย น.ส.วิสาระดี กล่าวว่า เรามาแสดงจุดยืนอีกครั้งกรณีที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาตนำตัวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางทางเพศนักท่องเที่ยวหญิงชาวต่างชาติที่เชียงใหม่ไปดำเนินคดี พวกเราขอเป็นอีกหนึ่งเสียง เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดตรวจสอบหาความเป็นจริงให้กระจ่างใส หากผลตรวจสอบชี้ว่าสส.ท่านนี้กระทำความผิดจริง ซึ่งรอบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สส.ท่านนี้มีข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และอยากให้ผู้เสียหายได้รับความยุติธรรมอย่างรวดเร็ว เพราะนี่คือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ และกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาฯ และรัฐสภาอย่างรุนแรง พวกเราจะไม่เพิกเฉย และจะไม่ปล่อยให้กรณีนี้เลือนลางไป โดยเฉพาะไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยผู้แทนราษฎร
“หากท้ายที่สุดพบว่าสส. ท่านนี้กระทำความผิดจริง เราไม่สามารถยอมรับเหตุการณ์นี้ได้ ชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีไทย ในฐานะผู้หญิง สส.หญิง และผู้มีความหลากหลาย ขอให้นายไชยามพวานแสดงสปิริตลาออกทันที และไปต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้สถาบันนิติบัญญัติน และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่มีความด่างพร้อยมากกว่านี้” น.ส.วิสาระดี กล่าว
ขณะที่ น.ส.กิตติ์ธัญญา กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจกับข่าวนี้ เพราะในสภาของเรามีสมาชิกท่านหนึ่งที่ทำพฤติกรรมเสื่อมเสีย ทำให้ภาพของสมาชิกในสภาตกต่ำลงไปด้วย ปลาเน่าหนึ่งตัวขอให้อย่าเหมาว่าปลาทั้งหมดจะเป็นแบบตัวนั้น เพียงแค่ท่านต่อสู้ในสิ่งที่ท่านคิดว่าท่านทำหรือไม่ได้กระทำให้กฎหมายพิสูจน์ ซึ่งจุดยืนที่ดีที่สุดคือท่านควรลาออกจากตำแหน่งสส.
ด้าน นายปารมี กล่าวว่า ขอให้นายไชยามพวาน แสดงสปิริตโดยเร็วอย่าให้เรื่องเงียบหายไป เพราะกรณีที่เกิดขึ้นมีความไม่เท่าเทียมกัน และความกดทับซ้อน 3 ชั้น คือ เป็นการกระทำผิดทางเพศระหว่างหญิงกับชาย , กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ประชาชนธรรมดาแต่เป็นผู้มีตำแหน่งทางการเมือง และผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติกับผู้มีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีความยุ่งยากกระบวนการทางคดี ด้วยเหตุผลทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่นายไชยามพวาน ต้องลาออกทันที
นายปารมี กล่าวด้วยว่าวันที่ 20 ก.พ.นี้ ขอให้สส.ชายเตรียมยกมือโหวตในการประชุมพิจารณาอนุมัติให้ศาลนำตัวนายไชยามพวาน ไปดำเนินคดีและขอวิงวอนไปยังสส.ทุกเพศ ทุกวัย ขอให้มองกรณีนี้อย่างยุติธรรมตรงไปตรงมา ขอให้สภามีมติยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครองสส.คนนี้ และส่งตัวนายไชยามพวานไปดำเนินคดี เพราะต้องยอมรับว่าการดำเนินคดีทางเพศมีความยุ่งยากมาก ตนเป็นสส.มา และช่วยกรณีเหลือคุกคามทางเพศในโรงเรียน ก็เข้าใจดีว่ามีความยุ่งยากหลายขั้นตอน และเสียเวลาเพียงใด จึงขอสส.ทุกท่านให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้น นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องไว้ และส่งให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการต่อไป.-312 -สำนักข่าวไทย