เพื่อไทยแถลงจุดยืนหนุนญัตติ “หมอเปรมศักดิ์”

รัฐสภา 13 ก.พ.-“เพื่อไทย” แถลงจุดยืนหนุนญัตติ “หมอเปรมศักดิ์” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ หลังประเมินร่างแก้ รธน. ถูกตีตกแน่ ชี้เมื่อเดินหน้าต่อไม่ได้ ก็ต้องหยุด ดีกว่าเดินไปตกเหว บอกประชาชนมองออกว่ากลุ่มไหนอยากแก้จริง หรือสักแต่ว่าแก้ เราอยากพูดว่า “แก้ได้แล้วนะ” มากกว่า

นายสุทิน คลังแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยสมาชิก พรรคเพื่อไทย แถลวภายหลัง องค์ประชุมล่ม ในการพิจารณาวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่า เจตนารมย์ของพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ ซึ่งเป้าหมายของความสำเร็จ ไม่เพราะเพียงได้แก้ ตามที่ได้ให้นโยบายไว้ และมาทำว่า เราได้ดำเนินการทำแล้วจะจบหรือไม่จบ ได้หรือไม่ได้ แบบนั้นไม่ใช่ เรามุ่งหวังต่อ เป้าหมายความสำเร็จเหตุการณ์วันนี้จึงเกิดขึ้น และได้พยายามประสานงานกับทุกฝ่าย ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และ สว. เพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ เมื่อขอความร่วมมืออย่างเต็มที่แล้ว จากการประเมินเมื่อวานนี้ในช่วงบ่ายพบว่า โอกาสที่ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านนั้นเป็นเรื่องยาก และโอกาสตกสูง เราจึงได้แสวงหาอีกวิธีหนึ่งเพื่อให้มีความหวังและให้ร่างธรรมนูญฉบับนี้ อยู่ในสภา โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และหากศาลวินิจฉัยออกมาเป็นคุณ ก็มีโอกาสที่จะสำเร็จ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาไม่เป็นคุณ ก็เป็นไปในทางที่แก้ไขไม่ได้ แต่ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัย ก็จะเกิดข้อถกเถียงว่าจะทำประชามติกี่รอบ


ซึ่งสมาชิกก็มีความกังวลว่าหากลงมติไปแล้ว จะถูกตัดสิทธิ์ในอนาคตหรือไม่ และต้องยอมรับว่ามีสมาชิกที่ไม่มั่นใจในสถานะหากอยู่ประชุม ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดก็คือการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ ซึ่งเชื่อว่าไม่เกิน 1 เดือน หากศาลวินิจฉัยออกมาแล้ว ความหวังของเราก็ยังมี ดังนั้นวันนี้จึงสนับสนุนญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่เมื่อญัตตินี้แพ้ในสภา หมายความว่าก็ต้องพิจารณากันต่อ และอยากให้ร่างดังกล่าวอยู่ในสภานานที่สุด

“ไม่ต้องการให้ถูกตีตกไปในวันนี้และพรุ่งนี้ นั่นก็คือองค์ประชุม เพื่อที่จะให้มีเวลาในการตั้งหลัก เพื่อกลับมาสู้เพื่อเป้าหมายของเราอีกครั้ง ดีกว่าดันทุรัง พิจารณาไปแล้ว ไปตายข้างหน้า แบบนั้นเราไม่ทำ ดังนั้น เพื่อนสมาชิกบางพรรคอาจจะเข้าใจผิดว่าเรามีเจตนาอะไรแน่ ซึ่งขอย้ำว่าเราต้องการที่จะผลักดัน หากเดินทางตรงไม่ได้ ก็ขอเดินทางโค้ง เมื่อทางโค้งไม่สำเร็จ ก็ขอหยุดการเดินทางไว้ก่อน ดีกว่าเดินไปตกเหว” นายสุทิน กล่าว


ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่มีการวิเคราะห์ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มี 2 ร่างอยู่ในขณะนี้ แนวโน้มก็คงจะไม่ผ่านมติของรัฐสภา ซึ่งจากการวิเคราะห์เกิดจากการที่ ประธานสภาบรรจุระเบียบวาระในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้ามาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ได้พุ่งไปที่คำวินิจฉัยในปี 2564 ที่ยังไม่สามารถบรรจุร่างได้จนกว่าจะไปถามประชาชน หมายความว่าจะทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง เมื่อประเด็นมีข้อวิตกกังวลว่าจะไม่ผ่านเพราะเหตุนี้ เราจึงต้องมีการสอบถามกันให้ชัดเจน ว่าท้ายที่สุดการบรรจุระเบียบวาระเช่นนี้ ที่จะนำไปสู่การทำประชามติเพียงสองครั้ง ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงนำไปสู่การสนับสนุนญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์

“หวังว่าถ้าศาลตอบว่าเป็นคุณ ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ การแก้ไขมาตรา 256 ก็จะประสบความสำเร็จได้ แต่เมื่อมติออกมาคือไม่ส่งไปถามศาลรัฐธรรมนูญ และถ้าจะเดินหน้าเริ่มต้นใหม่ ปัญหาก็วนเวียนกลับมาที่เดิมอีก คือ เรื่องการทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำตอบ จึงต้องย้ำเจตนารมย์เดิมว่า ต้องการให้ร่างฉบับนี้อยู่ในสภา และต้องคิดหาทางต่อไป ให้การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ประสบความสำเร็จให้ได้” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่มี เจตนารมย์ที่จะเตะถ่วง แต่เรามีเจตนาเต็มที่ที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพราะเป็นนโยบายที่เราเสนอมาโดยตลอด เพียงแต่ขณะนี้มีอุปสรรคใหญ่ ของศาลปี 2564 ที่ตีความไม่เหมือนกัน เราอยากให้ปัญหานี้ยุติเสียที จึงสนับสนุนญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพื่อจะได้ดูคำวินิจฉัยของศาลว่าออกมาในทิศทางใด เพื่อที่จะทำให้สำเร็จ


“กล่าวโดยสรุป คือ ขณะนี้ญัตตินี้ยังอยู่ ยังไม่ตกไป เราต้องคิดหากันว่าจะเดินต่อไปอย่างไร ก็จะนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ได้” นายชูศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรเพราะอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราอยากจะเคลียร์ปัญหานี้ให้ได้ ว่าที่เขาให้ผ่านไปไม่ได้เป็นเพราะอะไร แต่เท่าที่ทราบ ไม่ใช่ไม่อยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหา คือวิธีการและกระบวนการไม่ถูกต้อง พรรคเพื่อไทยเลยหันมาดูว่า ให้กระบวนการมันชัดเจนขึ้น ขณะนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในประเด็นนี้ เราจึงอยากให้ศาลมาเคลียร์ปัญหาให้ หากปัญหานี้ยังไม่จบ ต่อไปหากจะเสนอญัตติใหม่ ปัญหานี้ก็จะวนเวียนกลับมาอีก

นายสุทิน กล่าวเสริมว่า ไม่ลำบาก เพราะสังคมและประชาชนเริ่มมองออก กลุ่มแรก คือกลุ่มที่ไม่แก้เลย คือพรรคภูมิใจไทย และ สว. ส่วนหนึ่ง กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่อยากแก้และเสนอตัวว่าจะแก้ แต่ก็มีกลุ่มย่อยลงไปอีกว่า แก้จริงหรือไม่ การที่จะพยายามผลักดันต่อไปทั้งๆ ที่รู้ว่าจะตก สังคมจะรู้ว่าแก้เพื่อผลสำเร็จหรือไม่ กับกลุ่มที่สาม ของพรรคเพื่อไทย ที่เดินเต็มที่ แต่เมื่อเจออุปสรรคแล้ว เราก็ชะลอ เพื่อที่จะหาทางสู้ใหม่ ประชาชนก็มองออกว่าใครคือกลุ่มที่อยากจะแก้จริงๆ แก้โดยหวังผลสำเร็จ กับ สักแต่ว่าได้แก้แล้ว เราอยากจะพูดคำนี้ว่า แก้ได้แล้วนะมากกว่า.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]