นายกฯ เผยหลัง “ตัดไฟ-น้ำมัน-เน็ต” ฝั่งเมียนมา ทำใช้ไฟลด 40-50%

ทำเนียบ 11 ก.พ.-นายกฯ เผยหลังเข้มปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ตัดไฟ-น้ำมัน-เน็ต” ฝั่งเมียนมาทำใช้ไฟลด 40-50% บอกคนทำผิดต้องได้รับโทษ มองฟรีวีซ่าไม่เกี่ยวทำจีนเทาทะลัก แจงต้องแยกส่วน ชี้ดันตัวเลขท่องเที่ยวดีขึ้น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังมีมาตรการตัดไฟ น้ำมันและอินเตอร์เน็ตฝั่งเมียนมา ว่า ที่เห็นชัดคือการใช้ไฟที่ลดลง โดยไฟฟ้าลดปริมาณลงไป 40-50% โดยนายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า ประมาณ 2 สัปดาห์ จะได้ตัวเลขที่นิ่ง แต่อาจจะเก็บข้อมูลยากเล็กน้อย เพราะเมื่อเราตัดไฟ แต่ผลที่เกิดขึ้นคือฝั่งเมียนมา ในขณะที่ฝั่งไทยจะต้องดูว่าจำนวนที่คอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกลวงในฝั่งไทยน้อยลงหรือไม่


ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการเอาผิดอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินการแน่นอน คนที่ทำผิดต้องได้รับโทษ

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่า นโยบายฟรีวีซ่า เปิดช่องให้จีนเทาเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องมองคนละส่วน เราเปิดฟรีวีซ่าไม่สามารถจำกัด ว่าคนที่เข้ามาในประเทศคนนี้หลอกได้คนนี้ห้ามหลอก แต่ผลที่เกิดจากการท่องเที่ยวคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าไปบอกว่าต่อไปนี้ฟรีวีซ่า ไม่ได้ แล้วเพราะจีนเทาเข้ามา ตรงนี้ต้องแยกเป็นคนละส่วน โดยตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมื่อปี 2567 จำนวน 35 ล้านคน ถามว่าเกิดอะไรกับประเทศบ้าง และจีดีพีของประเทศขยับหรือไม่ การท่องเที่ยวเข้ามาโรงแรมต่างๆได้ประโยชน์ และธุรกิจเอสเอ็มอี ได้ประโยชน์มากแค่ไหน ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ด้วยการยกเลิกฟรีวีซ่า เป็นคนละส่วนจะส่งผลให้การท่องเที่ยวเสียแน่นอน เพราะวันนี้การท่องเที่ยวดีขึ้นมากเนื่องจากฟรีวีซ่า


ส่วนการพูดคุยถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในการช่วยเหลือผู้ที่ถูกหลอก ทั้งในเมียนมาและกัมพูชา มีความคืบหน้าอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พูดถึง กลุ่มคณะทำงาน ที่จะทำงานร่วมกัน 2 ประเทศ ไทยและจีน โดยทางจีน น่ารักกับเรา และเสนอมาว่าจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง การเป็นคณะทำงานจะทำให้เกิดความรวดเร็ว ในการจัดการปัญหาเหล่านี้คนที่ถูกหลอกจะแบ่งสัญชาติก็ยาก เพราะมีแก๊งหลอกกันไปมาจึงอยากให้คณะทำงาน ตรงนี้สามารถทำงานระหว่างประเทศได้ โดยเรื่องนี้พูดคุยผ่านทางรัฐมนตรี ต่างประเทศ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม

แอนแทรกซ์

สธ.เผยติดเชื้อแอนแทรกซ์โอกาสตายสูงถึง 80%

สธ. เผยแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ส่วน จ.เลย ชาวบ้านพบวัวตายตัว สำนักงานปศุสัตว์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไป ทำให้อุดตันทางเดินอาหาร ไม่น่าเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลืออยู่ ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี