ทำเนียบ 11 ก.พ.- นายกฯ สั่งการ ย้ำที่ประชุม ครม.ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้าน “ภูมิธรรม” รายงาน ยังไม่พอใจกสทช. ตัดสัญญาณสื่อสารฝั่ง อ.อรัญประเทศ ตรงข้ามปอยเปต ชี้ ต้องเข้มข้นกว่านี้ ลั่นวันนี้ เตรียมลงนามย้ายด่วน ขรก.ไทยระดับสูงเอี่ยวคอลเซ็นเตอร์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม คณะรัฐมนตรีวันนี้ (11 ก.พ.) นายกรัฐมนตนี มีขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หน่วยงานความมั่นคง เร่งรัดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติออนไลน์ โดยประสานงานกับทางการจีนอย่างโดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สั่งการดำเนินการก่อนการเดินทางไปที่ประเทศจีน
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในที่ประชุมครม.วันนี้ ว่าก่อนเวลา 12.00 น. จะมีการออกคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงของไทย ที่มีส่วนพัวพันหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการคอลเซ็นเตอร์
ส่วนการตัดสัญญาณในระบบสื่อสารโทรคมนาคมต่างๆของ รักษาการเลขาธิการ กสทช.ที่ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจนักโดยเฉพาะฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามปอยเปต กสทช.ยังไม่ตอบสนองมากนัก ขณะเดียวกันในฝั่งตะวันตกตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ขอให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ส่วนด้านมนุษยธรรม รัฐบาลไทยได้เปิดรับผู้ป่วยจาก ประเทศเมียนมาให้เข้ามารักษาตัว ในโรงพยาบาลของไทยได้ และยังอนุญาตให้รถยนต์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเติมน้ำมันได้ โดยจะเพิ่มมาตรการในการจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีผู้อื่นมีอิทธิพลหนุนหลังให้สิ้นซาก ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวในที่ประชุมว่า ขณะนี้เตรียมสรุปมาตรการที่รัฐบาลไทยดำเนินการไปภายในเวลา 15 วัน และครั้งที่2 ภายในเวลา 30 วันโดยประสานงานกับ ดีเอสไอ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ กสทช.เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและกำหนดมาตรการต่อไป นอกจากนี้ยังสั่งการให้กสทช.ดำเนินการหากพบว่ามีการเชื่อมสัญญาณไปยังตึกใดๆที่ส่อลักษณะไปเอื้อสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆให้ดำเนินการตัดสัญญาณได้ทันทีและจะกำชับส่วนราชการอื่นๆอย่างใกล้ชิดทันที .-316 -สำนักข่าวไทย