ตาก 10 ก.พ.-ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดน จ.ตาก ติดตามการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามมาตรการแม่สอดโมเดล พร้อมบูรณาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งแก้ไขปัญหาในทุกมิติ
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมกับ พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติและผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางตรวจเยี่ยมกำลังพลและติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สอด และ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยมี พลตรี ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 3 และรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ
ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก พร้อมคณะฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์และการปฏิบัติงานที่สำคัญ จากกองกำลังนเรศวร พร้อมตรวจเยี่ยมกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 433 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ณ ฐานปฏิบัติการม่วงมี อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นจุดตรวจการณ์สำคัญบริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 2, จากนั้นคณะผู้บัญชาการทหารบกได้เดินทางไปตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดน ณ จุดสำคัญดังนี้ บริเวณท่าข้าม 34 (ท่าศาลเจ้า) ตำบลท่าสายลวด, จุดตรวจการณ์บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, จุดตรวจการสันยายหลู่ อำเภอแม่สอด และ จุดตรวจการบ้านช่องแคบ อำเภอพบพระ ซึ่งเป็นจุดตรวจการณ์ที่พบปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่แนวชายแดนฝั่งเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมา ปรากฎข่าวสารที่สำคัญ ได้แก่ การหลอกลวงออนไลน์/Call Center, การค้ามนุษย์, การลักลอบเข้าเมือง, การลักลอบขนยาเสพติดและอาวุธสงคราม
โดยในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ระบุว่า นโยบายที่เร่งด่วนในขณะนี้ คือ การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามแนวชายแดนที่ปัจจุบันในพื้นที่ อ.แม่สอด กองทัพบกได้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ใช้โมเดลการแก้ปัญหา 4 มาตรการ ได้แก่ การคัดกรองเข้าพื้นที่ อ.แม่สอด ของชาวต่างชาติ ทั้งทางบกและทางอากาศ, การจำกัดการเข้าพื้นที่ โดยการตั้งด่านตรวจร่วม บริเวณเส้นทางที่จะเข้าพื้นที่ อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ, การสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดน โดยบูรณาการกำลัง ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดตลอด 24 ชั่วโมง ในเส้นทางหลักและเส้นทางรองที่จะเข้าสู่ชายแดน และการตรวจสอบโรงแรมที่พักใน อ.แม่สอด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะโรงแรมที่ชาวต่างชาติเข้ามาพัก ซึ่งผลจากการใช้มาตรการดังกล่าวสามารถคัดกรองบุคคลต่างชาติ ที่มีแนวโน้มจะใช้ช่องทางเข้า-ออก ชายแดนผ่านไปยังประเทศที่ 3 ลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดการสกัดกั้น การลักลอบส่งออก แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องปั่นไฟ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการระงับการจ่ายกระแสไฟฟ้าของรัฐบาล พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ที่ปฏิบัติงานบริเวณแนวชายแดนจังหวัดตาก ที่ปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น และเสียสละ และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายช่วยกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศชาติ.-313.-สำนักข่าวไทย