กต. 7 ก.พ.-ก.ต่างประเทศ ยืนยันการตัดไฟฟ้าในเมียนมา ไม่กระทบต่อการเจรจาช่วยเหลือ 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกคุมขังบนเกาะสอง บอกมีการเจรจาร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติกับประเทศต่างๆ รวมทั้งหารือเมียนมา ยันเดินหน้าเจรจาทุกมิติเกิน 100%
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีไทยตัดไฟฟ้าในเมียนมา จะส่งผลกระทบต่อการเจรจาช่วยเหลือลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เกาะสองหรือไม่ ว่า ไม่น่าจะกระทบ เพราะการตัดไฟฟ้า เป็นผลจากการเจรจาร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการดำเนินการของไทย มีการหารือกับประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น จีน ประเทศเพื่อนบ้านและเมียนมา
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาพูดคุยกับเมียนมา ในการปล่อยลูกเรือประมงนั้น นายนิกรเดช กล่าวว่า ไม่สามารถบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ แต่ยืนยันว่าดำเนินการเกิน 100% ว่ากระทรวงการต่างประเทศ มีการดำเนินการทุกมิติ ทั้งทางการเมืองการหารือและพบผู้แทนในหลายระดับของเมียนมา และการดำเนินการด้านกงสุล ยืนยันว่า ดำเนินการเกิน 100% รวมถึงการช่วยเหลือให้ญาติได้พบกับลูกเรือประมงที่ถูกจับกุม และเรียกร้องขอให้มีการปล่อยตัวลูกเรือประมงจากทางการเมียนมา
นายนิกรเดช ยังกล่าวถึงการเดินทางเยือนอิสราเอลของ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเยี่ยมคนไทยทั้ง 5 คน และบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ตัวประกันคนไทยในอิสราเอลทั้ง 5 คนได้รับการปล่อยตัวและได้รับการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ ที่ศูนย์การแพทย์ชาเมียร์ในกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางไปเยี่ยมตัวประกันทั้ง 5 คน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. จึงพบว่าทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงและมีสภาพจิตใจที่ดี
ขณะเดียวกัน ระหว่างการเยือนอิสราเอล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศยังได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Isaac Herzog ประธานาธิบดีแห่งรัฐอิสราเอล รวมถึงพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิสราเอลด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขอบคุณฝ่ายอิสราเอลที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และขอให้รับความสนับสนุนในการช่วยเหลือตัวประกันคนไทยที่เหลืออยู่อีก 1 คน รวมทั้งขอให้เร่งนำร่างของคนไทยอีก 2 คนที่เสียชีวิต กลับสู่ประเทศไทย ตลอดจนขอให้ดูแลความปลอดภัย และสวัสดิภาพของพี่น้องแรงงานไทยอิสราเอลด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ กระทรวงการต่างประเทศยังได้ประสานในการนำครอบครัว 4 ครอบครัวของตัวประกันไทย เดินทางไปเยี่ยมตัวประกันคนไทยด้วย ส่วนอีก 1 ครอบครัวไม่ประสงค์เดินทางไป
สำหรับกำหนดการเดินทางกลับไทยของตัวประกันคนไทยทั้ง 5 คน จะเดินทางถึงประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates ในเวลา 07.35 น. ของวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยมี นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ รอให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ.-315.-สำนักข่าวไทย