พรรคประชาชน นำ สส.กทม.-ส.ก. แถลงสู้ฝุ่นพิษ PM2.5

รัฐสภา 6 ก.พ.-พรรคประชาชน นำ สส.กทม.-ส.ก. แถลงสู้ฝุ่นพิษ PM2.5 ซัดรัฐบาล-กทม. เกิดช่องว่างประสานงาน ทำสถิติฝุ่นสูงกว่าปีที่แล้ว 20% ไร้มาตรการดูแลผู้สูงอายุ-เด็ก-กลุ่มเปราะบาง เป็นการฆ่าทางอ้อม เสนอให้ กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษจากการเผา ปล่อยควันดำรถยนต์ โรงงาน-ให้อำนาจ กทม. จัดหารถขนส่งสาธารณะเป็น EV ทั้งหมด

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วย สส. กทม. และ สก. ร่วมแถลงข่าวบริเวณชั้นดาดฟ้า อาคารรัฐสภา ถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า อยากให้ผู้นำทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่นคือกรุงเทพมหานครดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นอย่างจริงจัง ซึ่งมองว่าปัญหามาจากช่องว่างของการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นปีที่ 3 ของการบริหารงานของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 จนถึง 5 ก.พ. เป็นช่วงเวลาที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องอยู่ภาวะฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งถือเป็นวิกฤติปัญหาหลักในปัจจุบัน ซึ่งคนไทยรู้จักกับปัญหา PM 2.5 เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สถิติเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และ 2568 ปัญหาฝุ่นปีนี้ มีความหนักหน่วงเพิ่มขึ้นถึง 20% ปริมาณฝุ่นที่ได้รับจากการสูดอากาศเข้าไปทั้งวัน ตลอด 24 ชั่วโมง อาจจะเท่ากับการสูบบุหรี่ 1.7 มวนเลยทีเดียว ที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้พยายามผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ประชาชนทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด และการตั้งกระทู้ถามในสภา

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นไม่ได้กระทบแค่กับคนใดคนหนึ่ง แต่กระทบตั้งแต่ทารกในครรภ์มารดา จนถึงคนเฒ่าคนแก่ และผู้ป่วยติดเตียง นอกจากผลกระทบด้านสุขภาพแล้ว ยังสร้างมูลค่าความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริหารจำเป็นต้องดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง อุดช่องว่างในการแก้ปัญหา


นายณัฐพงษ์ กล่าวสรุปว่า มาตรการต่างๆ ที่คนในพรรคได้เสนอมานั้นแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1. ผู้บริหารทั้งสองระดับอาจทำมาแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ 2. อาจจะมีการสื่อสารมาแล้ว แต่ยังไม่เริ่มลงมือทำ 3. กลุ่มที่ยังไม่ได้มีการเริ่มดำเนินการใด คือ ยังไม่พอ ยังไม่ทำ ยังไม่เริ่ม

“ยังไม่พอ” นโยบาย Low Emission Zone หรือเขตควบคุมมลพิษต่ำยังไม่ครอบคลุม จำนวนที่บังคับใช้น้อยเกินไป จำนวนรถที่เข้าร่วมโครงการยังไม่มากพอ ข้อเสนอ คือ ต้องการให้มีการผลักดันการบังคับใช้มาตรการนี้ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

“ยังไม่พอ” อำนาจที่ยังไม่มากเพียงพอที่รัฐบาลส่วนกลางยังไม่ได้มอบให้กับท้องถิ่น ดังที่ กทม. สื่อสารว่ายังไม่มีอำนาจตรวจจับปรับรถที่มีควันดำ ซึ่งจะต้องอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก ซึ่งต้องสอดประสานกับรัฐบาลส่วนกลาง ที่จะมอบอำนาจให้กับท้องถิ่น


“ยังไม่พอ” การตรวจโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล นอกจากการติดตั้งเครื่องตรวจจับฝุ่นPM2.5 แล้ว การตรวจจับสารพิษสารเคมีต่างๆ ที่เป็นบ่อเกิดฝุ่นทุติยภูมิก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเตาเผาขยะของ กทม. ควรมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับมลพิษด้วย

“ยังไม่พอ” พื้นที่ปลอดภัยให้กับกลุ่มเปราะบาง เช่นห้องปลอดฝุ่นในสถานที่ศึกษา หรือสถานสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อดูแลประชากรกลุ่มเปราะบางทุกกลุ่มให้ได้รับการป้องกันอย่างทั่วถึง

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า “ยังไม่ทำ”เช่น การผลักดันพระราชบัญญัติรถเมล์อนาคต ที่กฤษฎีกาตีความว่ากทม. ไม่มีอำนาจในการทำเอง แต่เรายังมีรัฐบาลระดับประเทศที่มีอำนาจเต็มในการออกกฏหมายลำดับรองหรือประกาศต่างๆ เพื่อให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้รถโดยสารสาธารณะทุกสายต้องใช้พลังงานสะอาด หรือต้องใช้รถเมล์ไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้น

”ยังไม่ทำ“ การปรับมาตรฐานปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ ให้สอดคล้องกับอายุของรถ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานสะอาด

“ยังไม่ทำ” มาตรการเรือโดยสาร การควบคุมมลพิษเรือโดยสารทางน้ำ ที่ผู้ว่า กทม. ออกมาสื่อสารว่ายังมีอำนาจดำเนินการได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในขณะที่ “ยังไม่ได้เริ่ม” คือ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ วันนี้กรุงเทพมหานครยังขาดอำนาจการจัดการมลพิษที่มากเพียงพอ คือการรอประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษ ให้สามารถควบคุมมลพิษที่เกิดจากการปล่อยมลพิษจากภาคขนส่ง จากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาในพื้นที่ภาคการเกษตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล นี่คือข้อเสนอมาตรการทั้ง 3 กลุ่ม ที่พรรคประชาชนเชื่อว่าหากมีการดำเนินการทำอย่างจริงจังมากเพียงพอระหว่างผู้บริหารระดับประเทศและระดับท้องถิ่น จะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นPM2.5 ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พร้อมกันนี้ได้โชว์หนังสือเชิญชวนส่วนราชการทุกภาคส่วนและประชาชน ร่วมหาทางออกกำหนดแนวมาตรการนโยบายการดำเนินการทำทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยในวันที่ 13 กุมภาพันธ์คณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม และเชิญหน่วยงานราชการหารือร่วมกันในทุกส่วนมาตรการที่ได้นำเสนอไป

“ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้บริหารทั้งสองระดับ ทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะมาร่วมประชุมเองหรือส่งตัวแทนมา เพราะต้องการมีวิธีหาทางออกร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นวิกฤตร้ายแรงให้กับประชาชนได้ในทันที นอกจากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชื่อว่าหากแก้ไขปัญหานี้ได้จะเป็น โรลโมเดล ตัวอย่างต้นแบบที่สามารถแก้ไขปัญหาในจังหวัดอื่นๆของประเทศได้อีก ซึ่งไม่อีกกี่เดือนข้างหน้าพื้นที่ภาคเหนือจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งประชาชนในภาคส่วนต่างๆรอการแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกัน“ นายณัฐพงษ์ กล่าว

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาฝุ่นพิษมาอย่างยาวนานและที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่สามารถหาทางออกได้นั่นก็คือกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้เปราะบาง ซึ่งในกรุงเทพมหานครมีผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 1,240,000 ราย ถือเป็น 10% ของประชากรทั้งประเทศ ที่ต้องเผชิญชะตากรรมไปเช่นนี้ โดยเฉพาะในเขตบางแคที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากแต่ก็ยังไม่มีมาตรการใดๆ เปรียบเสมือนเป็นการฆ่าผู้สูงอายุเหล่านี้ทางอ้อม.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย