กกต. 4 ก.พ.- กกต.ชวนสมัครเป็น กกต.ประจำเทศบาล รองรับการเลือกตั้งระดับเทศบาล ที่จะครบวาระ 27 มีนาคม
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดรับสมัครคนเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 27 มีนาคม 2568 โดยผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาล จะมีการเปิดรับเทศบาลละ 3 คน เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2568 ระหว่างเวลา 8.30 – 16.30 น. สถานที่การรับสมัครผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลจะเป็นผู้กำหนด โดยสามารถขอรับใบสมัครได้ที่สำนักงานเทศบาลที่ต้องการสมัคร
ในการยื่นใบสมัครสามารถยื่นใบสมัครด้วยตัวเอง ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาล พร้อมเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วยใบสมัคร รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตาดำ ขนาด 2 นิ้วจำนวน 1 รูป สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำเนาทะเบียนบ้านหรือหลักฐานที่แสดงว่ามีภูมิลำเนา ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่เป็นบุคคลพิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ และติดยาเสพติดให้โทษ สำเนาหลักฐานที่แสดงวุฒิการศึกษาสูงสุด (ถ้ามี) เช่น สำเนาปริญญาบัตร หรือสำเนาหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษา
สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครเป็น กกต. ประจำเทศบาล ผู้สมัครจะต้องเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตอำเภอ ที่จะมีการรับสมัคร หรือเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีภูมิลำเนาในเขตอำเภอที่จะมีการรับสมัคร มีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ในวันที่สมัคร และมีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริต
ทั้งนี้ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม คือ ต้องไม่ติดยาเสพติดให้โทษ ไม่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช ไม่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ไม่วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไม่เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
ไม่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุด ว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ได้รับโทษ โดยพ้นโทษหรือต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้งแล้วแต่กรณี และไม่เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น .314.-สำนักข่าวไทย