“ภูมิธรรม” ขอรอฟังมติสมช. ค่ำนี้ ตัดไฟหรือไม่

กลาโหม 4 ก.พ.- “ภูมิธรรม” คุย ผู้ช่วย รมต.จีน ปมคอลเซ็นเตอร์ นานกว่าชั่วโมง รับจีนมีข้อมูลในมือเยอะ ขอไทยซีลชายแดนช่วยตัดเส้นทางลำเลียง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่ ขอพิจารณาก่อน ย้ำจีนไม่ได้กดดัน แต่ต้องเคารพอธิปไตยของไทย ผุดประชุม 3 ฝ่ายไทย-จีน-เมียนมา ขอรอฟังมติสมช. ค่ำนี้ ตัดไฟหรือไม่ ย้อน “โรม” เปิดชื่อมาเลยเดี๋ยวจัดการเอง อย่าบอกแค่อักษรย่อ ต.เต่า เพราะในสระ ก็มีเยอะ


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง และสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อถามว่าเหตุใดจึงหารือนาน ระบุว่า ที่คุยกันนานเพราะว่าคิดถึงกัน ก็ต้องคุยกันนานหน่อย ซึ่งทางการจีนมาประชุมกับกระทรวงกลาโหมในระดับปฏิบัติงาน โดยพูดคุยกับ พลเอก ธาราพงศ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ซึ่งได้คุยเรื่องงานที่จะต้องร่วมมือกัน แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานหลังจากการพูดคุย ทั้งนี้ทางจีนมาเยี่ยมตนเองอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำความปรารถนาดีของรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงของจีนมาให้กับตนเอง ซึ่งตนเองกับรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงจีนและอีกหลายคนได้พูดคุยกันมาต่อเนื่องเป็นเดือนแล้ว ในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นปัญหา เพราะคิดว่าปัญหาเหล่านี้หากประเทศใดประเทศหนึ่งดำเนินการแก้ไขคงไม่จบ แต่ต้องเกิดจากหลายหลายส่วนพูดคุยกัน ซึ่งเขาก็มีข้อมูลในหลายส่วนเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะจีนเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และเขาก็มาคุยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ได้รับความเสียหายกับทุกประเทศ ไทยเราเองก็เสียหายโดยในหนึ่งปีมีผู้เป็นเหยื่อ 557,500 ราย สูญเสียเงินกว่า 68,000 ล้านบาท หากคิดเป็นรายวัน ตกวันละ 80 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจัดการ ซึ่งการซีล ไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาชญากรรมและการค้ามนุษย์ ตามแนวชายแดน ซึ่งเขาก็อยากให้เราทำแต่เราทำไปก่อนแล้ว และจีนได้ขอบคุณและชื่นชมไทย

นอกจากนี้ จีนอยากให้ไทยช่วยตัดเส้นทางลำเลียง เพื่อช่วยสกัดกั้นทุกทาง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณา แต่ตนเองได้บอกไปแล้วว่าในการตัดสินใจเรื่องนี้ต้องเป็นความเห็นร่วมกันในฐานะที่มีปัญหาร่วมกัน และต้องเคารพอธิปไตยของประเทศไทยด้วย ซึ่งจีนก็ตอบรับ ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดจัดการประชุมก่อน ระหว่างไทย จีนและเมียนมา มาพูดคุยกัน ส่วนจะต้องมีสำนักงานหรือไม่อยู่ที่ปัญหา และความเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งนี้ปัญหายังลามไปถึงลาวและกัมพูชา ให้ว่าไปตามเนื้อที่เกิดขึ้นแต่จะเอาสามประเทศก่อน ส่วนที่อยากให้เรากดดันให้เกิดสิ่งนี้เราดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ตนเองจะเดินทางไปประชุม สมช.


ส่วนเรื่องการตัดน้ำตัดไฟตัดโทรศัพท์นั้นสิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการ เพราะตนเองดูจากกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ สามารถจัดการได้อยู่แล้ว ส่วนที่หลายคนมองว่าทำไปแล้วจะมีปัญหากับภาคธุรกิจ ที่ได้รับสัมปทานหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าถ้ากระทบกับความมั่นคงภายในสามารถจัดการได้ อย่างที่ตนเองนั้นย้ำ 500,000 กว่าราย กับ 68,000 ล้านบาท มันเสียหายอยู่แล้วเพราะเรื่องนี้คนไทยวัด ซึ่งที่ตนสั่งให้ สมช. ที่ประชุมวานนี้เขาชี้แล้วว่าเป็นปัญหาภัยความมั่นคง ซึ่งตนเองยืนยันว่ามันเป็น ดังนั้นวันนี้เพื่อให้ชัดเจนเป็นทางการมากยิ่งขึ้น ตนให้ความเห็นของคนที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคงและตนเองคิดว่าต้องเด็ดขาด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ วันนี้ตนเองจะใช้มติ สมช เพราะนายกรัฐมนตรีได้มอบให้กับตนวันนี้ ดูแลด่วน ตนก็จะคุย ส่วนคำสั่งตัดไฟนั้นจะเร็วสุดได้เย็นนี้หรือในวันพรุ่งนี้หรือหรือไม่นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องด่วน แต่จะแค่ไหนอย่างไรนั้นยังไม่ได้ประชุม

ส่วนที่จีนได้เสนอความช่วยเหลืออะไรในเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในชั้นต้น ตกลงกันว่าเราควรจะร่วมมือกัน เพราะไม่สามารถให้ประเทศใดประเทศหนึ่งจัดการได้ จัดการที่ไทยก็ไปโผล่ที่ประเทศอื่น โดยเราจะต้องทำหลายที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ จ.ตาก ยังมี จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงราย จ.กาญจนบุรี เพราะฉะนั้นมาตรการนี้จะเริ่มจากจุดต่างๆ นี้ไป

พร้อมยืนยันว่าการมาในครั้งนี้ไม่ใช่การกดดันประเทศไทย เพราะสิ่งที่ทำมาอยู่ในนั้นตนทำมาอยู่แล้วและการที่เขาเสนอมาก็ตรงกับที่เราเห็น ไม่ใช่อยู่ๆ เราประเทศแล้วมีคนมาว่าเรา ตนเองก็ยืนยันกับเขาแล้วว่า ทั้งหมดเรามีปัญหาร่วมกันจะแก้ปัญหาร่วมกันแต่ต้องเคารพ อธิปไตยของแต่ละประเทศ เขาก็บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องมา กดดันอะไรเราและก็เคารพในอำนาจอธิปไตยของบ้านเราแต่เรื่องนี้เขาอยากหารือ ว่าถึงขั้นไหนในการหารือร่วมกัน ส่วนขอความชัดเจนชัดๆว่ามติ สมช. วันนี้จะได้ความชัดเจนหรือไม่ เพราะเช้าวันนี้ นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังพูดอยู่ว่า กฟภ. ยังไม่สามารถตัดเองได้ต้องรอมติจาก สมช. โดยนายภูมิธรรมถึงกับยิ้ม และระบุว่า เมื่อเช้านี้ผมพูดชัดเจนแล้วฉะนั้นต้องรอดูโดยมารยาท ผมไม่ควรพูดอะไรที่เป็นความเห็นของตนเองอย่างเดียวก็ต้องประชุม สมช. ก่อน


ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาระบุว่า พลตำรวจตรี ต.เต่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันนั้น นายภูมิธรรม ย้อนว่าอย่าพูดเป็นแบบอักษรย่อ หรือดราม่า มาบอกผมเลย และเอาหลักฐานมาให้ด้วย ผมจัดการเอง มาพูดแบบนี้มันผมจะไปเดาได้อย่างไรว่า ต.เต่าที่ใด ตอเต่าเต็มไปหมดเลยในสระก็มี-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]