เนียบ 4 ก.พ.- ปภ.ช. เข้ม หลังขนส่งฯ ระดมตรวจรถแล้วกว่า 5 หมื่นคัน สั่งห้ามใช้ไปกว่า 700 คัน ย้ำหาก ปชช. พบรถถูกพ่นสีว่า “ห้ามใช้” ยังฝืนวิ่ง แจ้งตำรวจหรือสายด่วน 1584
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) กล่าวว่ากรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้รายงานผลการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารทั่วประเทศเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมจำนวนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 3 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินการตรวจควันดำรถทั้งสิ้นไปแล้ว 55,234 คัน กรมฯ สั่งการห้ามใช้เนื่องจากมีค่าควันดำเกินมาตรฐานแล้วจำนวน 666 คันโดยการตรวจวัดควันดำตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 )มีผลการตรวจวัดควันดำรถโดยสารและรถบรรทุกทั่วประเทศ จำนวน 509 คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ราชการกำหนด จำนวน 5 คัน ให้ดำเนินการแก้ไข
“ปภ.ช.ขอกำชับผู้ประกอบการและเจ้าของรถทุกคันที่ถูกพ่นสีว่า “ห้ามใช้” ต้องนำรถไปแก้ไขและนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง หากฝ่าฝืนใช้รถโดยที่มีคำสั่ง “ห้ามใช้” มีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นสามารถส่งภาพรถบรรทุกและรถโดยสารควันดำ มาให้ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือ Line @1584DLT ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ”
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุว่าวันนี้ 43 จังหวัดทั่วประเทศยังมีค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศจมตัวและเกิดการสะสมในระดับผิวพื้น เช่นเดียวกับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้มหลายพื้นที่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันสำนักประยุกต์และบริหารภูมิสารสนเทศ GISTDA ได้แจ้งว่าพบพื้นที่ที่มีจำนวนจุดความร้อนมากสุด 5 ลำดับแรกกระจายอยู่ทั้งในพื้นที่ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ โดย 5 ลำดับแรก ได้แก่ จังหวัดตาก กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ และ ชัยภูมิ.-315 -สำนักข่าวไทย
