พัฒนาแพลตฟอร์มกลางผลิต AI วินิจฉัยโรค

ทำเนียบ 3 ก.พ.- รัฐบาล เดินหน้ายกระดับทางการแพทย์เพื่อสุขภาพคนไทย พัฒนา “Medical AI Data Platform” แพลตฟอร์มกลางผลิต AI วินิจฉัยโรคที่มีความแม่นยำและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ และลดเวลาในการดูแลผู้ป่วย


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมมือกับกรมการแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้ง “Medical AI Consortium” หรือภาคีเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ขึ้น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมเทคโนโลยีสำคัญสำหรับสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายฯ โดยภายในแพลตฟอร์มประกอบด้วยเทคโนโลยีหลัก 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกคือเทคโนโลยี “Open-D” สำหรับจัดเก็บและเผยแพร่ภาพถ่ายทางการแพทย์จากทั่วประเทศ ที่มีฟังก์ชันกำหนดระดับการเผยแพร่ข้อมูลได้ทั้งแบบสาธารณะ (Open Data) และแบบแบ่งปันเฉพาะกลุ่ม (shared data)ส่วนที่สองคือ “RadiiView” เทคโนโลยีสำหรับกำกับข้อมูล (Annotation) ภาพถ่าย ที่รองรับไฟล์ภาพได้หลากหลายประเภท ทั้งภาพถ่ายทั่วไป ฟิล์มเอกซเรย์ และภาพสแกน 3 มิติ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับนำไปใช้ในการผลิตโมเดล AI และส่วนที่สามคือ “NomadML” เว็บแอปพลิเคชันสำหรับผลิตโมเดล AI แบบไม่ต้องเขียนโค้ด ที่ผู้ใช้งานสามารถนำภาพที่ผ่านการกำกับข้อมูลแล้วมาเทรนโมเดล AI ได้ง่าย โดยสามารถเลือกกำหนดพารามิเตอร์เองหรือให้ระบบกำหนดให้โดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ ทุกเทคโนโลยีที่นำมาให้บริการใน Medical AI Data Platform ได้ผ่านการออกแบบและพัฒนาต่อยอดร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์หรือกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะเป็นผู้ใช้งานระบบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว รวมทั้งยังออกแบบให้สามารถปรับเสริมเพิ่มฟังก์ชันเพื่อรองรับความต้องการที่อาจมีมากขึ้นในอนาคตได้ โดยรูปแบบการให้บริการจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารแพลตฟอร์มข้อมูลเปิดเพื่อการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและดูแลความปลอดภัยของข้อมูล ภายใต้การกำกับของกรมการแพทย์ ปัจจุบัน Medical AI Data Platform ได้พัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว และในปี 2567 ภาคีเครือข่ายฯ ได้รับความร่วมมือในการนำภาพถ่ายทางการแพทย์เข้าสู่ระบบมากกว่า 1 ล้านภาพ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนภาพให้ได้ถึง 3 ล้านภาพภายในเฟสแรกของการดำเนินงาน (2566-2569) ขณะที่ในปี 2568 นอกจากจะเป็นช่วงประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัย สถานพยาบาล บริษัทซอฟต์แวร์ และผู้พัฒนาจากทั่วประเทศเข้าร่วมภาคีเครือข่ายฯ แล้ว ยังเป็นช่วงที่เริ่มดำเนินงานกำกับข้อมูลภาพถ่ายทางการแพทย์ที่ได้รับการสนับสนุนด้วย


“การผลิตโมเดล AI เพื่อคัดกรองโรค สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ และบุคคลทั่วไปจากภายนอก จะเริ่มดำเนินงานหลังจากที่มีภาพคุณภาพสูงที่ผ่านการกำกับข้อมูลเรียบร้อยแล้วจำนวนมากเพียงพอ โดยจำนวนภาพขั้นต่ำสำหรับเทรนโมเดล AI เพื่อคัดกรองแต่ละรอยโรคคือ 10,000 ภาพ ซึ่งระดับความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับจำนวนภาพถ่ายคุณภาพสูงที่ผ่านการกำกับข้อมูลอย่างถูกต้อง รวมทั้งการมีส่วนร่วมของแพทย์ นักวิจัย นักพัฒนา และผู้ใช้งานที่นำ AI ไปใช้งานจริงในการตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้กลับมาใช้ปรับปรุงโมเดล AI ให้มีความแม่นยำและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ และลดเวลาในการดูแลผู้ป่วย” นายคารม กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน