ปชน.ลุยยื่น กกต.ตรวจสอบบัตรเสียที่เชียงใหม่-สมุทรปราการ

กทม. 2 ก.พ. – ปชน.แถลงหลังทราบผลเลือกตั้ง อบจ. “เท้ง ณัฐพงษ์” ขอโทษประชาชน รับยังรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิได้ไม่มากเท่าที่ควร เตรียมลุยงาน อบจ.ลำพูน เดินหน้าพิสูจน์การทำงานท้องถิ่นแบบ ปชน. “ศรายุทธิ์” เผยเลือกตั้งวันเสาร์ทำจำนวนผู้ใช้สิทธิลดถึง 2 ล้าน ลุยยื่น กกต.ตรวจสอบบัตรเสียที่เชียงใหม่-สมุทรปราการ


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน และ นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ร่วมแถลงข่าวหลังทราบผลการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. อย่างไม่เป็นทางการ พร้อมเปิดแผนการทำงานในอนาคตของพรรคประชาชน หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่จังหวัดลำพูน

โดยนายณัฐพงษ์ระบุว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ตนต้องขอโทษประชาชน ที่พรรคประชาชนยังไม่ประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นได้มากเท่าที่ควร และวันนี้พรรคประชาชนก็ยังไม่สามารถบรรลุการมีนายก อบจ. ในหลายจังหวัดได้อย่างไรก็ตาม ตนขอขอบคุณประชาชนชาวลำพูนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จนมีสัดส่วนผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสูงที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่งเมื่อเทียบกับอีก 47 จังหวัดที่เหลือ และเป็นที่มาที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาชนได้นายก อบจ. ในจังหวัดลำพูน แต่ก็ยังเป็นที่น่าเสียดายโอกาส ที่หากพรรคประชาชนสามารถรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิได้มากกว่านี้ ก็อาจจะชนะการเลือกตั้งในระดับ อบจ. ได้อีกหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ นครนายก สมุทรปราการ ตราด และสมุทรสงคราม ที่พรรคประชาชนแพ้ผู้ชนะอันดับที่ 1 ไปไม่ถึง 10% เท่านั้น


ส่วน ส.อบจ. พรรคประชาชนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนรวม 132 คนจาก 33 จังหวัด มาจากจังหวัดที่พรรคประชาชนส่งผู้สมัครนายก อบจ. 80 คน และจังหวัดที่ไม่มีผู้สมัครนายก อบจ. 52 คน ซึ่งพรรคประชาชนยืนยันว่าการทำงานในระดับ ส.อบจ. สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณของ อบจ. ได้อย่างแข็งขัน รวมถึงผลักดันการบรรจุบงบประมาณและโครงการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชานในพื้นที่ได้

นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับการทำงานไปข้างหน้าของพรรคประชาชนในจังหวัดลำพูน มีทั้งสิ่งที่พร้อมทำงานขับเคลื่อนทันทีในนโยบายที่พรรคประชาชนได้นำเสนอไว้ ลงรายละเอียดนโยบายไปถึงระดับพื้นที่ ภายใต้ฐานข้อมูลการพัฒนาเมือง (City Data Platform) รวมทั้งข้อมูล GIS หรือข้อมูลเชิงพื้นที่ เช่น จุดกำเนิดไฟป่า พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ความกระจุกตัวของชุมชนหมู่บ้าน โครงข่ายถนน จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ในการจัดทำนโยบายต่อจากนี้ 

ยกตัวอย่างเช่น การยกระดับ รพ.สต. ให้สอดคล้องกับความกระจุกตัวของชุมชน เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาลศูนย์ต่างๆ ในจังหวัด รวมถึงการปรับปรุงถนนหนทางและไฟส่องสว่าง แก้ปัญหาน้ำท่วม สิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ ฯลฯ ซึ่งว่าที่นายก อบจ.ลำพูนพร้อมลงมือทำงานต่อจากนี้ ทั้งในช่วงที่มีการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมกลางปี 2568 รวมถึงการปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำงบประมาณปี 2569 


โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงพฤษภาคม 2568 เป็นช่วงที่พรรคประชาชนจะเดินทางไปทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัดลำพูน เพื่อสอบถามประชาชนว่าจุดไหนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนมากน้อยกว่ากัน นำแพลตฟอร์มการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมมาใช้ และเปิดเผยการใช้และตั้งงบประมาณอย่างโปร่งใส โดยนำองค์ความรู้ที่มีจากคณะก้าวหน้ามาผนวกกับการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อพัฒนาจังหวัดลำพูนให้ดีกว่าเดิม

นายณัฐพงษ์ยังกล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้พรรคประชาชนจะยังคงมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานการเมืองระดับท้องถิ่นต่อไป ทั้งในระดับ อบจ. รวมถึงระดับเทศบาลและ อบต. ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้นี้ ภายใต้แนวทางการทำงานเชิงพื้นที่ที่พร้อมลงไปเก็บเกี่ยวปัญหา รวบรวมประเด็น เปิดให้มีประชาชนมีส่วนร่วม โดยตนเชื่อว่า อบจ.ลำพูนจะเป็นสนามแรกที่จะพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า การทำงานการเมืองท้องถิ่นแบบพรรคประชาชนจะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ประชาชนชาวไทยได้

นายงศรายุทธิ์ ระบุว่า ที่ผ่านมามีประชาชนและสื่อมวลชนหลายคนอยากทราบว่าการเลือกตั้งวันเสาร์มีผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบข้อมูลที่น่าสนใจคือสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิลดลงจาก 62% มาอยู่ที่ประมาณ 55% หมายความว่าคะแนนหายไป 7-8% หรือราว 2 ล้านกว่าคนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งน่าจะมีผลมาจากการเลือกตั้งวันเสาร์ โดยบางจังหวัดมีผู้มาใช้สิทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ที่จันทบุรีสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งลดลงถึง 15% ภูเก็ตลดลงกว่า 11% นนทบุรีลดลงกว่า 9% สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี ชลบุรี และระยอง ลดลงกว่า 7-8% ซึ่งจำนวนตัวเลขผู้ไม่ได้มาใช้สิทธิแต่ละที่อาจจะส่งผลต่อผลการเลือกตั้งด้วย

จากสิ่งที่เกิดขึ้น กกต. ควรต้องทบทวนการประกาศเลือกตั้งในวันเสาร์ ว่าสอดคล้องกับการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนหรือไม่ การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นบทพิสูจน์หนึ่งว่าการเลือกตั้งวันเสาร์ไม่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตจริงและการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน

นายศรายุทธิ์ยังกล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ มีสองจังหวัดที่พรรคประชาชนยังมีความสงสัย นั่นคือกรณีเชียงใหม่และสมุทรปราการ โดยเฉพาะประเด็นการมีบัตรเสียจำนวนมาก โดยทั้งผู้สมัครนายก อบจ. รวมถึงกองอำนวยการเลือกตั้งจะติดตามตรวจสอบต่อไป ซึ่งบ่ายนี้ทางพรรคประชาชนจะดำเนินการยื่นเรื่องกับ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบบัตรเสียว่ามีจำนวนถูกต้องตามที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]