แจงหนังสือสอบถาม สมช. ปมจำหน่ายไฟฟ้าให้เมียนมา

กทม.1 ก.พ. – ปลัด มท. ยืนยัน กรณีหนังสือสอบถาม สมช. เป็นกระบวนการปกติ เพราะ มท. และ กฟภ. เป็นเพียงผู้จำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านตามที่รัฐบาลมอบหมายเท่านั้น การจะงดจำหน่ายไฟฟ้าต้องสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป


นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้ลงนามหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่การจำหน่ายพลังงานให้กับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สืบเนื่องจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นนโยบายรัฐบาลที่มีมิติด้านความมั่นคงและมนุษยธรรมมาเกี่ยวข้องด้วย

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่ากระทรวงมหาดไทยจะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านความมั่นคง “แต่เป็นหน่วยงานรักษาความมั่นคงภายในประเทศ” ในขณะที่กรณีที่เกิดปัญหาในขณะนี้ เป็นกรณีที่เกิดขึ้นนอกประเทศไทย การจะดำเนินการใด ๆ กระทรวงมหาดไทยในฐานะกระทรวงที่กำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องได้รับข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงตามกฎหมาย ทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป เพราะ กฟภ. ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้จัดทำระบบจำหน่ายและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่เท่านั้น


“การดำเนินการของ มท.และ กฟภ. เป็นไปตามกระบวนการปกติ คือ การแสวงหาข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินการ ซึ่งภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติห้ามจำหน่ายถ้าพบว่ามีการกระทำผิดสัญญาและส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ดังนั้น มท. จึงต้องมีการประสานกับหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการพิจารณาในการงดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องมีข้อมูลประกอบการพิจารณาที่รอบด้าน” นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายอรรษิษฐ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า มท. ในฐานะผู้กำกับดูแล กฟภ. และ กฟภ.ในฐานะผู้จำหน่ายกระแสไฟฟ้า พร้อมปฏิบัติตามข้อมูลและคำแนะนำของฝ่ายความมั่นคง จึงเป็นที่มาของการจัดทำหนังสือสอบถามฉบับดังกล่าว และในวันที่ 6 ก.พ.68 ที่จะถึงนี้ กฟภ. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 25 หน่วยงาน ร่วมประชุมหารือ เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการพิจารณาอีกทางหนึ่งด้วย.-319-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ