รมว.กลาโหม เล็งจัดทัพใหม่ ‘คณะพูดคุยสันติสุขใต้’

เชอราตัน 29 ม.ค.-รมว.กลาโหม เล็งจัดทัพ ‘คณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้’ ขึ้นใหม่ เหตุ 20 ปี เห็นทิศทางยังไม่จบ เลี่ยงตอบตัดงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ รอยุทธศาสตร์ใหม่คลอดก่อน เผยหลักประเมินคุย ‘ตัวจริง’ หรือไม่ ให้ดูคู่เจรจา ไม่ใช่คุยไปยิงไป

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเรียกร้องกระบวนการเริ่มต้นพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้สรุปกันแล้ว จะคุยในเรื่องกลุ่มยุทธศาสตร์ หลังหารือเรื่องงบประมาณบูรณาการของ สมช. โดยรับหลักการนโยบายไปว่าจะต้องพิจารณายุทธศาสคร์ใหม่ที่จะต้องปรับงบให้สอดคล้องกัน ซึ่ง สมช. คาดว่าจะหารือในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า หลังพูดคุยหน่วยงานต่างๆ ตนได้บอกไปว่าการรับรองกรอบงบของ สมช. เป็นในแง่หลักการเท่านั้น


ทั้งนี้การพูดคุยของ สมช. ช่วง 2 สัปดาห์นี้ ต้องดูว่าจะแก้ไขอย่างไร สิ่งที่คิดค้างอยู่คือสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายลงบางส่วน แต่ก็รุนแรงขึ้นบางส่วน หากได้ข้อสรุปอย่างไร ก็จะดำเนินการไปตามยุทธศาสตร์ใหม่ที่ออกมา เพื่อจัดสรรคนที่จะเข้าไปทำงานตรงนั้น

“เรามีข้อสังเกตุคงต้องมีการทบทวน เพราะกระบวนการตลอด 20 ปี แม้หลายเรื่องจะดีขึ้น แต่ดูทิศทางแล้วคงไม่จบลง ผมได้ฝากให้ไปดูว่าจะมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ในการมาแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ในวงจร ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงการทำงานก็จะเหมือนเดิม เมื่อจุดนี้ชัดเจนขึ้นก็จะสามารถจัดกระบวนทั้งหมดได้ ตอนนี้ทุกฝ่ายรับรู้ว่าผมจะจัดกระบวนเอง” นายภูมิธรรม กล่าว


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์ใหม่ไม่สามารถระบุได้ว่า จะเดินหน้าภายใน 2 สัปดาห์นี้หรือไม่ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากสรุปทิศทางว่าเราจะเดินหน้าอย่างไร เมื่อยุทธศาสตร์ชัดเจน กระบวนการทุกอย่างก็จะตามมา ทั้งคนที่จะต้องเจรจาและรายละเอียดต่างๆ

ส่วนจะมีการตัดงบของทหารลดลงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องดูยุทธศาสตร์ใหม่ที่จะออกมา เราไม่ได้ไปดูงบก็จะลดหรือเพิ่ม แต่คิดในเรื่องยุทธศาสตร์ว่าจะเดินอย่างไร ทิศทางใด ส่วนเรื่องงบประมาณมาณมาทีหลัง

สำหรับเรื่องตัวบุคคลที่จะมาร่วมกระบวนการพูดคุยสันติสุขก็ต้องดูตามยุทธศาสตร์ใหม่ที่เกิดขึ้น จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นคนเดิมหรือคนใหม่ ถ้าคนเดิมใช้ได้ ก็เดินต่อไป แต่ถ้าเป็นคนใหม่และทิศทางชัดเจน ก็จะเลือกคนใหม่ ในเบื้องต้นตนจะเป็นคนเคาะแผนงานทั้งหมด และ เรื่องใหญ่เช่นนี้ก็ต้องแจ้งนายกฯให้ทราบด้วย


ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการพูดคุยกัน เพราะปล่อยไว้ก็จะไม่ดี และขณะนี้เกิดเหตุการณ์ขึ้นบ่อย ที่ผ่านมามีการเจรจาเกิดขึ้น แต่การหยุดยิงก็ยังไม่เกิดขึ้น จึงทำให้เราไม่แน่ใจว่าการพูดคุยกับฝ่ายการเมือง และการทหารของเขา เป็นพวกเดียวกันหรือไม่ เพราะถ้าไม่ใช่ คุยไปก็ไม่เกิดผล แต่ถ้าคิดว่าเป็นทีมเดียวกัน การเจรจาที่ให้หยุดยิงช่วงใด ก็ต้องหยุด ก็จะแสดงให้เห็นว่าพวกนั้นเป็นตัวจริงในการพูดคุย เพราะถ้ายิงกันไป คุยกันไป ก็ไม่เป็นประโยชน์ในความคิดของตน

ส่วนการลดบทบาททหารและเพิ่มฝ่ายปกครองเข้าไปแทน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่สามารถไปพูดก่อนได้ ทุกอย่างต้องเป็นความเห็นร่วมกันของทุกส่วน เมื่อสรุปแล้วค่อยเดินตามนั้น โดยเอาข้อเท็จจริงและข้อสรุปใหม่เป็นตัวตั้ง.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]