“อนุทิน” บินเชียงใหม่ กำชับผู้ว่าฯ เข้มใช้ กม.ห้ามเผา

27 ม.ค.- “อนุทิน” ขึ้น “เชียงใหม่” คุย “ผู้ว่าฯ ภาคเหนือ-เกษตรกร” กำชับใช้กฎหมายห้ามเผาเด็ดขาด ย้ำความร่วมมือทุกฝ่ายคือทางออก งดเผาเปลี่ยนตอซังข้าวโพดเป็นนางกวัก ลดมลพิษ สร้างรายได้


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ พล.ต.ชายแดน กฤษสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ โรงเรียนบ้านเนินวิทยา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และเดินทางต่อไปยังสหกรณ์การเกษตรแม่แจ่มจำกัด​เพื่อมอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า สิงห์ไฟ กรมการปกครอง เสือไฟ เหยี่ยวไฟ อาสาสมัครภาคประชาชน พร้อมพบปะผู้นำชุมชน เกษตรกร ประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และเยี่ยมชมการทำกิจกรรมทำปุ๋ย อาหารสัตว์ และเปลือกข้าวโพดอัดก้อน

นายอนุทิน ระบุตอนหนึ่งว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่ได้นำทั้งผู้บริหารผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงทหารฝ่ายความมั่นคงลงมาอยู่กับพี่น้องประชาชน เพื่อที่จะบอกว่าเรื่องของฝุ่นควันกลายเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลกำลังเร่งจัดการ​ปัญหานี้มาจากฝีมือมนุษย์เป็นสำคัญ และเป็นสิ่งที่เราช่วยกันได้ ปัจจุบัน วิถีทางการเกษตรเปลี่ยนไปมีการปลูกพืชล้มลุกและใช้การเผาแทนการไถกลบเพื่อให้ปลูกได้เร็วขึ้น ปลูกได้มากขึ้น แต่ผลกระทบ จากพฤติกรรมเช่นนี้หนักหนาสาหัสมาก ทำลายสุขภาพทั้งคนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ การท่องเที่ยวแย่ เศรษฐกิจแย่ ทุกวันนี้ประเทศไทย ต้องประสบกับภัยพิบัติตลอดปี พอต้นปีก็เป็นเรื่องของฝุ่นควัน จากนั้นก็ภัยแล้ง ตามมาด้วยน้ำท่วม จบที่ภายหนาว และเริ่มปีใหม่ด้วยปัญหาฝุ่นควันอีกครั้ง เราจะยอมรับให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ มีการถมเงินมากมายเพื่อเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แต่ตอนนี้ต้องคิดถึงเรื่องการป้องกันแล้ว ที่ทำได้เลย คือบังคับใช้กฎหมาย ตอนนี้ ตนเอาจริง


“ทั้งส่วนกลางและข้าราชการส่วนท้องถิ่น ท่านต่างก็มีกฎหมายอยู่ในมือ ถึงเวลาที่ท่านต้องใช้มันแล้ว พี่น้องประชาชนและเกษตรกรท่านต้องเข้าใจว่าตอนนี้เราต้องเอาจริงเอาจังเพราะเป็นปัญหาระดับประเทศ ไม่สามารถอะลุ่มอล่วยได้ เราต้องเข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน และแก้ปัญหาไปด้วยกัน” นายอนุทิน​กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ ตนนำความห่วงใยของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มายังพี่น้องประชาชนชาวแม่แจ่มและชาวเชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันจะให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ และรมว.มหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จะร่วมกับทุกภาคส่วนมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดเข้มงวดและเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย

“วันนี้เราต้องการมาแสดงพลังให้เห็นว่า ปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะจากการเผาไหม้เศษซากพืชผลทางการเกษตรเป็นปัญระดับชาติที่ต้องร่วมกันแก้ไข ทั้งฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานทุกภาคส่วน ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ พี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ต้องร่วมกันในปฏิบัติการป้องกันการเผา ปัญหาหมอกควันไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพียงเพราะต้องการเร่งรีบให้เกิดผลผลิตจากการเกษตรให้เร็ว เกิดรายได้จำนวนหนึ่ง แต่กลับสร้างมลภาวะทางอากาศ ฝุ่นพิษ ควันพิษ กระทบต่อสุขภาพร่างกายของประชาชนเอง กระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ภาคเหนือและทั่วประเทศ” นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะทำให้ประเทศไทยเรามีภาวะภัยพิบัติตลอดปีไม่ได้ ต้นปีก็เจอฝุ่นละอองหมอกควันไฟป่า เดือนเมษายนเจอภัยแล้ง กลางปีเจอน้ำท่วม พอสิ้นปีเจอภัยหนาว แต่ต้องให้ความสำคัญกับการป้องกัน และรับมือ ภัยธรรมชาติอาจส่งผลระดับหนึ่ง แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนมีส่วนทำให้มีความรุนแรงขึ้น และเมื่อเกิดภัยขึ้นใช้งบประมาณมากเพียงใดก็ไม่พอ ดังนั้นเราต้องปรับปรุงพฤติกรรมของเราให้เกิดสิ่งที่ดีต่อจังหวัดและประเทศของเรา

“ถึงอย่างไรเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ทุกจังหวัดอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยในฐานะกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ นายอำเภอต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และร่วมกันระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดอีกกลไกหนึ่ง คือ กลไกกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะท่านคือผู้ที่มีความสัมพันธ์กับชาวบ้านโดยตรง ต้องประกาศห้ามเผาในที่โล่ง ห้ามเผาอย่างเด็ดขาด เราต้องช่วยกันหาวิธีการที่จะช่วยทำให้เกิดมลภาวะน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการไถกลบฟางข้าวโพด “เปลี่ยนตอซังข้าวโพดเป็นนางกวัก” ให้เขามาเจอธรรมชาติแบบนี้ อากาศแบบนี้ เราต้องร่วมกันกวักเงิน กวักทอง กวักนักท่องเที่ยวให้มาช่วย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างประเทศก็ล้วนแล้วแต่เข้ามาทำประโยชน์ให้กับพวกเรา” นายอนุทิน กล่าว.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]