มท.สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด คุมเข้มการเผา-ทำความเข้าใจเกษตรกร

ทำเนียบ​ 27 ม.ค. – “ธีรรัตน์” เผย ก.มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด คุมเข้มการเผา-ทำความเข้าใจเกษตรกร หวังเห็น สส.-รมต.เป็นส่วนหนึ่ง ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทำงาน หลัง สก.เริ่มแล้ว ชี้ดรามาใช้งบฯ 140 ล้าน “รถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี” วันนี้ใครทำอะไรได้ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน


นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า รัฐบาลได้นำปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานได้นำข้อมูลมาศึกษาหาแนวทางในการแก้ไข ซึ่งดำเนินการมาทุกระดับตั้งแต่ปรึกษาหารือ เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแนวทางช่วยกันที่จะลดฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะช่วงในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูหนาวเป็นฤดูต่อไป

ส่วนในเรื่องของพื้นที่ที่มีการเผาได้มีการประกาศและการชดเชยเยียวยาให้เกษตรกร ส่วนในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมที่มีกิจกรรมทั่วไป ก็ขอให้งดในช่วงที่สภาพอากาศปิดถูกปกคลุมด้วยฝุ่น ในส่วนของกรุงเทพมหานครพื้นที่ที่มีฝุ่นปริมาณมาก ได้มีการติดตามการทำงานทั้งรัฐบาลเอง และประสานกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการต่างๆที่ประกาศไปแล้ว ทั้งผู้ประกอบหารและประชาชนได้ตอบรับ และความร่วมมือ ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการติดตามอยู่ตลอด อย่างกระทรวงคมนาคมให้ทุกคนสามารถใช้รถขนส่งมวลชนได้ฟรีช่วงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการ รวมไปถึงสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้มีความขอความร่วมมือ ให้เดินทางมาทำงานด้วยระบบขนส่งมวลชนเพื่อให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่น ขณะที่เมื่อวานนี้ทางสมาชิกกรุงเทพมหานครได้เดินทางลงพื้นที่ไปแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนด้วย


สำหรับวันนี้สภาพอากาศดีขึ้นแล้ว หลักๆเห็นได้จากบรรยากาศหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีเวลาควบคุมอากาศไม่สามารถถ่ายเท แต่วันนี้ท้องฟ้าเปิด สภาพอากาศดีขึ้น ดังนั้นส่วนตัวคิดว่า ในส่วนของปีที่แล้วที่มีปัญหาเรื่องฝุ่น ถือว่ารอบนี้มีระยะเวลาของปัญหาสั้นลง

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้มีการพูดคุย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยบ้างหรือไม่ นางสาวธีรรัตน์ ระบุว่า ตลอดที่ผ่านมาได้ทำงานลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และได้เน้นย้ำทางผู้ว่าฯของจังหวัดต่างๆ ให้ดูเรื่องของการป้องกันฝุ่น การเผาหญ้าในพื้นที่ และให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกร ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กำชับพื้นที่ไหนที่มีการฝ่าฝืนเผาหญ้า โดยขาดความระมัดระวัง ต้องมีการพูดคุยกัน และบังคับใช้กฎหมายกับคนที่ฝ่าฝืน ในส่วนของกรุงเทพ เห็นว่ามีผู้ประกอบการบางรายฝ่าฝืนไม่ใช้สแลนมาปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้าง ทางสมาชิกสภากรุงเทพมหานครก็ลงพื้นที่ไปพูดคุย เพื่อให้มาตรการทุกอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ

ส่วนการประชุมผ่านทางออนไลน์ และวงประชุมต่างๆ ได้มีการกำชับอยู่ตลอด รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนที่มีการพบเห็นการเผาหญ้า และโรงงานที่มีการปล่อยควัน สามารถแจ้งเข้ามาที่แอปพลิเคชัน “ทราฟฟี่ฟองดูว์” ในส่วนของกทม. ได้ เพื่อที่จะเข้าระงับเหตุไม่ให้ลุกลามเพิ่มขึ้น


ส่วนจะมีการขยายให้ สส. และรัฐมนตรีร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะด้วยหรือไม่ นางสาวธีรรัตน์ บอกว่า หากสามารถทำได้ก็อยากให้ทุกคนมี อยากให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่ง เพราะในอนาคตต่อไปการเดินทาง อย่าให้ประชาชนได้ใช้ระบบขนส่งได้อย่างสะดวกมากขึ้น ซึ่งเริ่มที่ดำเนินการอยู่หลังจากได้ทราบจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะใช้ระบบ feeder เชื่อมต่อการเดินทาง ให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนได้สะดวกยิ่งขึ้น และจะหาพื้นที่จอดรถส่วนตัวเพิ่มขึ้รสำหรับประชาชนที่อยู่ไกลจากสถานีให้มีความสะดวกสบาย ดังนั้นอยากขอให้ทุกคนร่วมกันเป็นส่วนหนึ่ง และพยายามที่จะรณรงค์ให้เห็นว่าประเทศไทยมีมาตรฐานเป็นสากล

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณ 140 ล้านบาท ที่ใช้รถไฟฟ้า และรถเมล์ ขสมก.ฟรี นางสาวธีรรัตน์ มองว่า วันนี้หากทุกคนทำอะไรได้ก็ขอให้ช่วยกัน และยังมีนโยบายในเรื่องของการสร้างห้องเรียนปลอดฝุ่นไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการและกรุงเทพมหานคร ที่เราดำเนินการอยู่แล้ว บางโรงเรียน จะเห็นได้ว่าไม่มีการปิดการเรียนการสอนเพราะมีห้องเรียนปลอดฝุ่นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มเติมลงไปคือการแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง เช่นการแจกหน้ากากอนามัยเอ็น 95 ป้องกันฝุ่นเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวก็จะหามาตรการ ที่จะทำให้ปัญหาของฝุ่นหมดไปให้มากที่สุด

นางสาวธีรรัตน์ ยังกล่าวต่อว่า ยังมีไอเดียใหม่ คือ ป้ายรถเมล์ปลอดฝุ่น หลังจากไปศึกษาดูงานจากต่างประเทศ จะเห็นว่ามีห้องเป็นแบบปิด และมีเครื่องปรับอากาศภายใน ให้คนสามารถไปยืนรอรถประจำทางอยู่ภายในห้องนั้นได้ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถใช้ได้ทั้งในฤดูร้อนและช่วงที่มีปัญหาฝุ่น.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย