ปชน.เปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม

ปชน.หาเสียง

สมุทรสงคราม 26 ม.ค. – ปชน. เปิดเวทีปราศรัยเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม ชวนชาวสมุทรสงครามร่วมเปลี่ยนจังหวัดสู่อนาคตที่ดีกว่า “พิธา” ชี้ “นันทิยา” คือ “ธนาธรเบอร์ 2” ความรู้-ประสบการณ์พร้อม พาสมุทรสงครามสู่จังหวัดทันสมัย-มีเสน่ห์


ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม พรรคประชาชนเปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม ซึ่งพรรคประชาชนส่ง นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน เบอร์ 2 โดยมีแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมการปราศรัยและพบปะประชาชนที่มาร่วมติดตามการหาเสียงในวันนี้อย่างคับคั่ง

ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวปราศรัยถึงเป้าหมายของพรรคประชาชนในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. ทั่วประเทศในครั้งนี้ ว่าตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เราอยากเห็นความเท่าเทียมกันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย ทุกคนควรเข้าถึงน้ำประปาที่สะอาด การรักษาพยาบาลที่ดี การเดินทางเพื่อสร้างโอกาสในชีวิต เราจึงมาทำงานการเมืองและตัดสินใจส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ เพราะพรรคประชาชนเชื่อว่าท้องถิ่นทำสิ่งนั้นได้ และพรรคประชาชนก็มีองค์ความรู้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงได้


แต่พรรคประชาชนก็ยังถูกค่อนแคะว่าขายฝัน นั่นคือสิ่งที่พวกเขาพยายามบอกกับเรา อยากให้เราหยุดฝัน ไม่พยายาม อยู่ที่เดิมเพื่อที่พวกเขาจะได้มีอำนาจเหมือนเดิม และให้สิ่งต่างๆ ยังคงเป็นอยู่แบบเดิม แต่ความฝันและความเชื่อของพรรคประชาชนต่างออกไป เราเชื่อในความเป็นไปได้และการเปลี่ยนแปลง ความเชื่อนี้ทำให้เราลุกขึ้นมาพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนความเป็นไปได้ให้เป็นความจริง

ศรายุทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่สมุทรสงคราม เราเคยแข่งขันมาแล้วในอดีต ในปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่นี่ เราแพ้ได้คะแนนมา 17,000 คะแนน ปี 2563 เลือกตั้ง อบจ. รอบก่อนเราก็ได้ส่งผู้สมัครเหมือนกัน แต่เราก็แพ้ได้ 13,000 คะแนน แต่เพราะเรามีความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง เราเชื่อว่ามนุษย์มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลง เราจึงยังคงมุ่งมั่นทำงาน และในปี 2566 เราก็ทำสำเร็จ ได้ความไว้วางใจมากว่า 40,000 คะแนน

ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ครั้งนี้เราจะปักธงที่นี่ไม่ได้ แน่นอนว่าชนชั้นนำพยายามทำให้เราหมดหวังสิ้นหวังตลอด ไม่ว่าจะหลังการเลือกตั้ง 2566 ที่มีการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว การยุบพรรคก้าวไกล หรือการจัดการเลือกตั้ง อบจ. ในวันเสาร์ สิ่งต่างๆ คือความพยายามของชนชั้นนำที่จะทำให้เราสิ้นหวัง แต่เราไม่เคยหมดหวัง เรายังคงมีความมุ่งมั่นและความเชื่อข้างต้นอย่างแน่วแน่มั่นคง


ศรายุทธิ์กล่าวต่อไปว่า เหลือเวลาอีก 5 วันเท่านั้น เราจะมาร่วมกันสร้างความหวังให้ประชาชนชาวสมุทรสงครามและคนไทย ที่จะมีอนาคตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันได้จริงในประเทศและในจังหวัดแห่งนี้ ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจรณรงค์เปลี่ยนความคิดคน เชิญชวนให้คนมาเลือกตั้ง กล้าที่จะเลือกพรรคประชาชน เปลี่ยนสมุทรสงคราม สร้างจังวัดสมุทรสงครามให้กลายเป็นบ้านที่ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขและยั่งยืน

ด้าน นันทิยา ระบุว่า จากประสบการณ์ในฐานะคนนำเที่ยว ได้เห็นการจัดการเมืองที่ดีในต่างประเทศ การจัดการการท่องเที่ยวที่ดีเป็นระบบที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวมาสู่พื้นที่ได้ คนสมุทรสงครามมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี สมุทรสงครามยังมีศักยภาพในเชิงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นดอนหอยหลอดที่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน รวมถึงอัมพวาที่เป็นพื้นที่เกษตรที่มีสินค้าที่น่าภาคภูมิใจไม่ว่าจะเป็นส้มโอหรือลิ้นจี่ สิ่งเหล่านี้ทำให้สมุทรสงครามมีศักยภาพอย่างมาก

แต่สมุทรสงครามเองก็ยังมีปัญหาอีกหลายด้าน จากการทำงานในพื้นที่มาหลายสิบปี ได้เห็นถึงปัญหาไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ปัญหาด้านสาธารณสุข การศึกษาที่พัฒนาศักยภาพไปไกลกว่านี้ได้ เศรษฐกิจที่พัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ นี่คือสิ่งที่ตนมองเห็นและทำให้วันนี้ตนมายืนอยู่ตรงนี้ สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย แต่ก็มีศักยภาพของพื้นที่ นี่คือสิ่งที่ทำให้จังหวัดของเราระเบิดศักยภาพขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศได้ไม่ยาก

นันทิยายังกล่าวต่อว่า วันนี้พร้อมที่จะอาสาเข้ามารับใช้ชาวสมุทรสงคราม นำความรู้ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิศวกรรม เพื่อมาดูแลงานโครงสร้างพื้นฐานของสมุทรสงครามได้เป็นอย่างดี ทางด้านเศรษฐกิจในฐานะที่ศึกษาด้านการบริหารธุรกิจมา และทางด้านการท่องเที่ยวในฐานะเจ้าของบริษัททัวร์ที่ได้เห็นการพัฒนาเมืองในหลายๆ ประเทศที่สามารถนำรายได้เข้าประเทศ สมุทรสงครามวันนี้มีรายได้จากการประมง การเกษตร และอยากมีรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยว นี่ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเข้ามาดูแลจังหวัดสมุทรสงครามให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้

วันนี้เรามารวมตัวกันเพราะอยากเห็นสมุทรสงครามพัฒนาไปไกลได้มากกว่านี้ ทีมงานของเรามีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ที่อยู่ในวงการเศรษฐกิจ ดนตรี กีฬา ของจังหวัดสมุทรสงคราม และยังมีคนของพรรคประชาชนที่มีความรู้ความสามารถจากระดับประเทศ ที่พร้อมจะนำความรู้มาช่วยพัฒนาจังหวัดสมุทรสงครามของเรา

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่าที่ผ่านมาสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ตนเคยมาขอคะแนนจากพี่น้องประชาชนมาแล้วหลายครั้ง และชาวสมุทรสงครามก็ทำให้เราได้ สส. ในฝ่ายนิติบัญญัติไปกำหนดกฎหมาย เป็นปากเป็นเสียง และตรวจสอบรัฐบาล แต่ สส. เป็นตำแหน่งที่ไม่มีงบประมาณของตัวเอง ไม่เหมือนกับนายก อบจ. มีอำนาจบริหารงบประมาณที่มาจากภาษีหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชนทุกคน

สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่จิ๋วแต่แจ๋ว แม้จะเล็กที่สุด แต่ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แล้วถ้าเป็น อบจ. พรรคประชาชนจะสามารถเค้นศักยภาพของจังหวัดได้มากกว่านี้อีกเท่าไหร่ นันทิยาเป็นทั้งวิศวกร และมีประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ ดูประวัติแล้วเรียกได้ว่าเป็น “ธนาธรภาค 2” บริหารก็ได้ เป็นวิศวกรก็ได้ ถ้าใครจะเอาประสิทธิภาพออกจากงบประมาณของจังหวัดสมุทรสงครามและทำให้โปร่งใสได้ ก็ต้องเป็นคนคนนี้
.
พิธากล่าวต่อไปว่า จุดแข็งของสมุทรสงครามที่ทำให้ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่เด็ก นักเรียนสมุทรสงครามสอบโอเน็ตได้ติด 5 อันดับแรกของประเทศ สมุทรสงครามมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรอาหาร สมุทรสงครามต้องการนายก อบจ. ที่สามารถเค้นประสิทธิภาพจากงบประมาณ 4 ปี เกือบ 1,000 ล้านบาทออกมาให้ได้ ซึ่งนันทิยาสามารถทำให้สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ทั้งทันสมัยและมีเสน่ห์ได้ คือเป็นทั้ง hi-tech และ hi-touch

หมายความว่าการศึกษาที่นี่ดีอยู่แล้ว มีประวัติศาสตร์ มีการท่องเที่ยว เราสามารถทำให้ทันสมัยมากขึ้นได้ด้วย augmented reality และ virtual reality การเกษตรที่มีลิ้นจี่และมะพร้าวสามารถดึงศักยภาพออกมาทำเป็นเหล้าชุมชน ให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นได้ การศึกษาที่ติด 5 อันดับแรกของประเทศอยู่แล้ว เอา STEM education, AI หรือ machine learning มาใส่เข้าไปอีกได้

พิธายังกล่าวต่อว่า ถ้าชาวสมุทรสงครามเลือกนันทิยา ทุกคนจะยังได้ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านที่เก่งเรื่องดิจิทัลมาช่วยอีกด้วย นันทิยาคือธนาธรเวอร์ชันสองที่จะทำให้สมุทรสงครามทั้งทันสมัยและมีเสน่ห์ มีทั้งเทคโนโลยีและมีเสน่ห์ในการท่องเที่ยว สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม นันทิยาเป็นวิศวกรหญิงที่จะมาขับประสิทธิภาพของสมุทรสงครามให้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้ – 312 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]