ปชน.เปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม

ปชน.หาเสียง

สมุทรสงคราม 26 ม.ค. – ปชน. เปิดเวทีปราศรัยเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม ชวนชาวสมุทรสงครามร่วมเปลี่ยนจังหวัดสู่อนาคตที่ดีกว่า “พิธา” ชี้ “นันทิยา” คือ “ธนาธรเบอร์ 2” ความรู้-ประสบการณ์พร้อม พาสมุทรสงครามสู่จังหวัดทันสมัย-มีเสน่ห์


ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม พรรคประชาชนเปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม ซึ่งพรรคประชาชนส่ง นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน เบอร์ 2 โดยมีแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมการปราศรัยและพบปะประชาชนที่มาร่วมติดตามการหาเสียงในวันนี้อย่างคับคั่ง

ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวปราศรัยถึงเป้าหมายของพรรคประชาชนในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. ทั่วประเทศในครั้งนี้ ว่าตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เราอยากเห็นความเท่าเทียมกันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย ทุกคนควรเข้าถึงน้ำประปาที่สะอาด การรักษาพยาบาลที่ดี การเดินทางเพื่อสร้างโอกาสในชีวิต เราจึงมาทำงานการเมืองและตัดสินใจส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ เพราะพรรคประชาชนเชื่อว่าท้องถิ่นทำสิ่งนั้นได้ และพรรคประชาชนก็มีองค์ความรู้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงได้


แต่พรรคประชาชนก็ยังถูกค่อนแคะว่าขายฝัน นั่นคือสิ่งที่พวกเขาพยายามบอกกับเรา อยากให้เราหยุดฝัน ไม่พยายาม อยู่ที่เดิมเพื่อที่พวกเขาจะได้มีอำนาจเหมือนเดิม และให้สิ่งต่างๆ ยังคงเป็นอยู่แบบเดิม แต่ความฝันและความเชื่อของพรรคประชาชนต่างออกไป เราเชื่อในความเป็นไปได้และการเปลี่ยนแปลง ความเชื่อนี้ทำให้เราลุกขึ้นมาพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนความเป็นไปได้ให้เป็นความจริง

ศรายุทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่สมุทรสงคราม เราเคยแข่งขันมาแล้วในอดีต ในปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่นี่ เราแพ้ได้คะแนนมา 17,000 คะแนน ปี 2563 เลือกตั้ง อบจ. รอบก่อนเราก็ได้ส่งผู้สมัครเหมือนกัน แต่เราก็แพ้ได้ 13,000 คะแนน แต่เพราะเรามีความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง เราเชื่อว่ามนุษย์มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลง เราจึงยังคงมุ่งมั่นทำงาน และในปี 2566 เราก็ทำสำเร็จ ได้ความไว้วางใจมากว่า 40,000 คะแนน

ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ครั้งนี้เราจะปักธงที่นี่ไม่ได้ แน่นอนว่าชนชั้นนำพยายามทำให้เราหมดหวังสิ้นหวังตลอด ไม่ว่าจะหลังการเลือกตั้ง 2566 ที่มีการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว การยุบพรรคก้าวไกล หรือการจัดการเลือกตั้ง อบจ. ในวันเสาร์ สิ่งต่างๆ คือความพยายามของชนชั้นนำที่จะทำให้เราสิ้นหวัง แต่เราไม่เคยหมดหวัง เรายังคงมีความมุ่งมั่นและความเชื่อข้างต้นอย่างแน่วแน่มั่นคง


ศรายุทธิ์กล่าวต่อไปว่า เหลือเวลาอีก 5 วันเท่านั้น เราจะมาร่วมกันสร้างความหวังให้ประชาชนชาวสมุทรสงครามและคนไทย ที่จะมีอนาคตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันได้จริงในประเทศและในจังหวัดแห่งนี้ ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจรณรงค์เปลี่ยนความคิดคน เชิญชวนให้คนมาเลือกตั้ง กล้าที่จะเลือกพรรคประชาชน เปลี่ยนสมุทรสงคราม สร้างจังวัดสมุทรสงครามให้กลายเป็นบ้านที่ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขและยั่งยืน

ด้าน นันทิยา ระบุว่า จากประสบการณ์ในฐานะคนนำเที่ยว ได้เห็นการจัดการเมืองที่ดีในต่างประเทศ การจัดการการท่องเที่ยวที่ดีเป็นระบบที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวมาสู่พื้นที่ได้ คนสมุทรสงครามมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี สมุทรสงครามยังมีศักยภาพในเชิงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นดอนหอยหลอดที่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน รวมถึงอัมพวาที่เป็นพื้นที่เกษตรที่มีสินค้าที่น่าภาคภูมิใจไม่ว่าจะเป็นส้มโอหรือลิ้นจี่ สิ่งเหล่านี้ทำให้สมุทรสงครามมีศักยภาพอย่างมาก

แต่สมุทรสงครามเองก็ยังมีปัญหาอีกหลายด้าน จากการทำงานในพื้นที่มาหลายสิบปี ได้เห็นถึงปัญหาไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ปัญหาด้านสาธารณสุข การศึกษาที่พัฒนาศักยภาพไปไกลกว่านี้ได้ เศรษฐกิจที่พัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ นี่คือสิ่งที่ตนมองเห็นและทำให้วันนี้ตนมายืนอยู่ตรงนี้ สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย แต่ก็มีศักยภาพของพื้นที่ นี่คือสิ่งที่ทำให้จังหวัดของเราระเบิดศักยภาพขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศได้ไม่ยาก

นันทิยายังกล่าวต่อว่า วันนี้พร้อมที่จะอาสาเข้ามารับใช้ชาวสมุทรสงคราม นำความรู้ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิศวกรรม เพื่อมาดูแลงานโครงสร้างพื้นฐานของสมุทรสงครามได้เป็นอย่างดี ทางด้านเศรษฐกิจในฐานะที่ศึกษาด้านการบริหารธุรกิจมา และทางด้านการท่องเที่ยวในฐานะเจ้าของบริษัททัวร์ที่ได้เห็นการพัฒนาเมืองในหลายๆ ประเทศที่สามารถนำรายได้เข้าประเทศ สมุทรสงครามวันนี้มีรายได้จากการประมง การเกษตร และอยากมีรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยว นี่ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเข้ามาดูแลจังหวัดสมุทรสงครามให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้

วันนี้เรามารวมตัวกันเพราะอยากเห็นสมุทรสงครามพัฒนาไปไกลได้มากกว่านี้ ทีมงานของเรามีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ที่อยู่ในวงการเศรษฐกิจ ดนตรี กีฬา ของจังหวัดสมุทรสงคราม และยังมีคนของพรรคประชาชนที่มีความรู้ความสามารถจากระดับประเทศ ที่พร้อมจะนำความรู้มาช่วยพัฒนาจังหวัดสมุทรสงครามของเรา

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่าที่ผ่านมาสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ตนเคยมาขอคะแนนจากพี่น้องประชาชนมาแล้วหลายครั้ง และชาวสมุทรสงครามก็ทำให้เราได้ สส. ในฝ่ายนิติบัญญัติไปกำหนดกฎหมาย เป็นปากเป็นเสียง และตรวจสอบรัฐบาล แต่ สส. เป็นตำแหน่งที่ไม่มีงบประมาณของตัวเอง ไม่เหมือนกับนายก อบจ. มีอำนาจบริหารงบประมาณที่มาจากภาษีหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชนทุกคน

สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่จิ๋วแต่แจ๋ว แม้จะเล็กที่สุด แต่ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แล้วถ้าเป็น อบจ. พรรคประชาชนจะสามารถเค้นศักยภาพของจังหวัดได้มากกว่านี้อีกเท่าไหร่ นันทิยาเป็นทั้งวิศวกร และมีประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ ดูประวัติแล้วเรียกได้ว่าเป็น “ธนาธรภาค 2” บริหารก็ได้ เป็นวิศวกรก็ได้ ถ้าใครจะเอาประสิทธิภาพออกจากงบประมาณของจังหวัดสมุทรสงครามและทำให้โปร่งใสได้ ก็ต้องเป็นคนคนนี้
.
พิธากล่าวต่อไปว่า จุดแข็งของสมุทรสงครามที่ทำให้ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่เด็ก นักเรียนสมุทรสงครามสอบโอเน็ตได้ติด 5 อันดับแรกของประเทศ สมุทรสงครามมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรอาหาร สมุทรสงครามต้องการนายก อบจ. ที่สามารถเค้นประสิทธิภาพจากงบประมาณ 4 ปี เกือบ 1,000 ล้านบาทออกมาให้ได้ ซึ่งนันทิยาสามารถทำให้สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ทั้งทันสมัยและมีเสน่ห์ได้ คือเป็นทั้ง hi-tech และ hi-touch

หมายความว่าการศึกษาที่นี่ดีอยู่แล้ว มีประวัติศาสตร์ มีการท่องเที่ยว เราสามารถทำให้ทันสมัยมากขึ้นได้ด้วย augmented reality และ virtual reality การเกษตรที่มีลิ้นจี่และมะพร้าวสามารถดึงศักยภาพออกมาทำเป็นเหล้าชุมชน ให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นได้ การศึกษาที่ติด 5 อันดับแรกของประเทศอยู่แล้ว เอา STEM education, AI หรือ machine learning มาใส่เข้าไปอีกได้

พิธายังกล่าวต่อว่า ถ้าชาวสมุทรสงครามเลือกนันทิยา ทุกคนจะยังได้ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านที่เก่งเรื่องดิจิทัลมาช่วยอีกด้วย นันทิยาคือธนาธรเวอร์ชันสองที่จะทำให้สมุทรสงครามทั้งทันสมัยและมีเสน่ห์ มีทั้งเทคโนโลยีและมีเสน่ห์ในการท่องเที่ยว สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม นันทิยาเป็นวิศวกรหญิงที่จะมาขับประสิทธิภาพของสมุทรสงครามให้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้ – 312 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]