กองทัพอากาศ 25 ม.ค.-ทอ. เปิดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมเร่งช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
พล.อ.ท. ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากรายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในประเทศไทยเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) มีปริมาณเกินค่าเกณฑ์มาตรฐาน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากสถานการณ์ดังกล่าว พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงสั่งการให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ เพื่อประชุมวางแผน ติดตามสถานการณ์และบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
1.ภาคอากาศ ให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ จัดเครื่องบิน BT-67 จำนวน 2 เครื่อง จากกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก วางกำลัง ณ ที่ตั้ง จำนวน 1 เครื่อง และวางกำลัง ณ ฝูง 509 (หัวหิน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 เครื่อง ระหว่าง 26-30 ม.ค.68 ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองร่วมกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการเจาะชั้นบรรยากาศ ในรูปแบบการโปรยน้ำแข็งแห้งและสารฝนหลวง ซึ่งแต่ละเที่ยวบินสามารถบรรทุกน้ำแข็งแห้งหรือสารฝนหลวงประมาณ 2,000 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน สำหรับแผนการปฏิบัติการบินในครั้งนี้ กองทัพอากาศกำลังเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดพื้นที่และวางแผนการบินที่เหมาะสมต่อไป
2.ภาคพื้น ให้พิจารณาการปฏิบัติงาน Work from Home ของกำลังพลให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวกับกำลังพลในการดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำให้ใช้รถยนต์สาธารณะหรือ BTS ในการเดินทาง โดยการปฏิบัติหน้าที่ต้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กองทัพอากาศพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน ด้วยการระดมทรัพยากรที่มีอยู่อย่างสูงสุดและมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ.-313.-สำนักข่าวไทย