“วิชิต” สู้เต็มที่เลือกตั้ง อบจ.ศรีสะเกษ รับหนักใจ นายใหญ่เพื่อไทยลุยเอง

25 ม.ค.- “วิชิต” สู้เต็มที่ ศึกเลือกตั้ง อบจ.ศรีสะเกษ ไม่ให้ค่าคู่แข่ง เชื่อยังไม่เสียเปรียบ แต่รับหนักใจ นายใหญ่เพื่อไทยลุยเอง เพราะไม่ใช่คนธรรมดา ขณะ “ไตรศุลี” ซัด ผิดสโลแกน “ทักษิณ” ทำพิธี “ไล่หนูตีงูเห่า” บอกเก็บไว้ใช้ตอนหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ดีกว่า


วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ในนามกลุ่มฅนท้องถิ่น นำผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ (ส.อบจ.) พร้อมด้วยนางสาวไตรศุลี​ ไตรสรณกุล ลูกสาวของ​นายวิชิต ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง มาลงพื้นที่หาเสียง ตรงข้ามกับร้านเจียวกี่ ซึ่งเป็นจุดที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมารับประทานอาหารเช้า ก่อนที่จะลงพื้นที่หาเสียงและปราศรัยในเวทีจ.ศรีสะเกษ เป็นวันที่ 2

นายวิชิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หาเสียง จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ว่า คู่แข่งในอดีตส่วนตัวไม่ให้ค่า แต่ในปัจจุบันไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่จะมีพรรคการเมืองโดยเฉพาะหัวหน้าใหญ่ลงมา


“ยอมรับว่ามีความหนักใจ เพราะว่าคนที่มาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ตนในฐานะที่เป็นคนศรีสะเกษ ก็จะลองดูว่าระหว่างกลุ่มของเราในท้องถิ่น สามารถฝ่าอะไรมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทันกระแสหรือทันกระสุน ก็คิดว่าจะสู้เต็มที่”

เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหน นายวิชิต เผยว่า เท่าที่พบปะพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ ก็ยังสนับสนุนตน ส่วนเมื่อวานที่ นายทักษิณ ยอมรับว่าพื้นที่นี้ค่อนข้างสูสี นายวิชิต มองว่า ช่วงนี้เรายังไม่เสียเปรียบ ยังสามารถทำคะแนนสูสีได้ แล้วจะไปหาเสียงอีกครั้งตอนนายใหญ่กลับไปแล้ว จะต้องดูว่า กระแสมากน้อยแค่ไหน แต่ปัจจุบันเชื่อว่ายังชนะอยู่

เมื่อถามว่า มีจุดอะไรที่จะมาสู้ได้บ้าง นายวิชิต กล่าวว่า เราเป็นคนท้องถิ่น จะพยายามช่วยคนศรีสะเกษ การเมืองระดับชาติผ่านไปแล้ว แต่ตรงนี้เป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่น การบริหารงานท้องถิ่น มีกรอบมีกฎหมายให้ทำอยู่แล้ว ไม่สามารถทำตามหรือเอานโยบายของรัฐบาลมาทำได้ ท้องถิ่นมีหน้าที่ทำอะไร คนก็รู้อยู่แล้วว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน สิ่งสำคัญ คือ การใกล้ชิดประชาชน บางเรื่องไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของเรา แต่ก็ต้องทำ เรามีความผูกพันที่ต้องช่วยแก้ปัญหา ไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องส่วนรวม


ด้าน นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล​ กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่มาช่วยหาเสียง ว่า นายอนุทิน เป็นเจ้านาย ตนก็อยู่พรรคนายอนุทิน แต่พ่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ก็อยากให้กำลังใจตน ขอบคุณคุณอนุทินมากๆ ที่สำคัญพ่อตนชัดเจน เขาเล่นการเมืองมาก่อนมีพรรคภูมิใจไทย อยากให้ประชาชนแยกแยะ “กวางก็ส่วนกวาง พ่อก็ส่วนพ่อ” ลุยเต็มที่ช่วงโค้งสุดท้าย สู้สุดใจ ช่วยคุณพ่อในฐานะลูกสาว ทำในฐานะลูกสาว

ส่วนเมื่อวานนี้ (24 ม.ค) ที่นายทักษิณ ชูนโยบายต้องเปลี่ยนนายก อบจ. คนใหม่ นส.ไตรศุลี ระบุว่า เปลี่ยนต้องดูว่าเปลี่ยนได้อะไรที่ดีกว่าหรือไม่ เปลี่ยนแล้วเราจะไปเสี่ยงในสิ่งที่ไม่เคยรู้ว่าเป็นอย่างไร จะเปลี่ยนทำไม ฝากประชาชนด้วย ลองคิดดูว่าในสิ่งที่เราทำอย่างที่บอกเสมอว่าพวกเราทุกคนช่วยกันทำจนศรีสะเกษพัฒนามาได้ขนาดนี้ และเมื่อวานนี้ ก็ขอบคุณนายทักษิณ ที่ชื่นชมว่าศรีสะเกษพัฒนา และเจริญขึ้นเยอะ นั่นคือสิ่งที่พวกเราทำมาตลอด

เมื่อถามถึง วาทะ ของนายทักษิณ ที่กล่าวตอนหาเสียง ทำพิธีไล่หนูตีงูเห่า นางสาวไตรศุลี ย้ำว่าอย่างที่บอก ตนเล่นการเมืองครั้งแรกก็อยู่พรรคภูมิใจไทย ส่วนพ่อเล่นการเมืองครั้งแรกไม่เคยมีพรรค ได้มาเพราะประชาชนช่วยเหลือมาตลอด ลงพื้นที่ก็จะรู้ว่าเขาจะเล่นการเมืองได้ ประชาชนไปขายข้าวขายนามาให้เขาเล่น ฉะนั้นเขาไม่เคยมีพรรคการเมือง อาจจะผิดสโลแกนหรือไม่ เอาไว้ใช้ตอนหาเสียงใหญ่ดีกว่า .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยัน ไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุนมาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้วนั้น นายอนุทิน ระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน แต่เมื่อถึงจุดที่เราต้องรักษาผลประโยชน์ […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]