กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค เชิญ 7 หน่วยงานเกี่ยวข้องแอปกู้เงินเข้าแจง

รัฐสภา 24ม.ค.-กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค เชิญ 7 หน่วยงานเกี่ยวข้องแอปกู้เงินบนมือถือเข้าแจงกรรมาธิการ ชี้ต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ถูก กม.มากขึ้น พร้อมชวนผู้เสียหายเข้าร้องเรียน สคบ. เหตุ บริษัทนำเข้าโทรศัพท์จะเยียวยาเป็นรายกรณี

นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกรรมาธิการ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า ได้มีการเชิญหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงในเรื่องของแอปพลิเคชันกู้เงินบนมือถือ โดยหน่วยงานที่เชิญมามีทั้งหมด 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สภาองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้ามือถือจากต่างประเทศ


ทั้งนี้ จากการที่ได้มีการพูดคุยกันในกรรมธิการ พบว่าใน 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายประมาณ 44 ราย ที่มีปัญหาการกู้เงินจากแอปพลิเคชันสินเชื่อความสุข จึงได้มีการสอบถามอีก 6 หน่วยงานว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว เช่น จะมีการระงับการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ หรือ จะมีการลบแอปพลิเคชันต่างๆ ที่อาจมีการเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะทาง ธปท.บอกว่า การขอสินเชื่อมูลค่า 1,000-2,000 บาท ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของ ธปท. ฉะนั้นในการทำแอปพลิเคชันอาจจะมีช่องทางมาทำให้ประชาชนเดือดร้อนได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องมีการไปพูดคุยในเรื่องของการแก้ไขกฎหมายด้วย

ขณะที่ การกู้เงิน นายกันต์พงษ์ กล่าวว่า หากเรากู้เงินมา 10,000 บาท เขาจะหักดอกเบี้ยไป 4,000-5,000 บาท เราจะได้เงินเพียง 5,000-6,000 บาท เป็นการหักดอกเบี้ยไปแล้วร้อยละ 40 จึงถือว่าผิดพระราชกำหนด( พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง พ.ศ. 2527 แต่ตอนนี้อยู่ในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว


ที่สำคัญแอปพลิเคชันเหล่านี้หากลบแล้วก็ยังอยู่ เพราะเป็นแอปพลิเคชั่นที่ฝังตัวมาจากการผลิตในต่างประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราต้องเข้าไปขับเคลื่อนร่วมกัน ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ส่วนการแก้ปัญหาระยะกลางจะต้องมีการทำกฎหมายขึ้นมาเพื่อตรวจสอบแอปพลิเคชันต่างๆ และสำหรับในระยะยาว ต้องทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างถูกกฎหมายมากขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความยั่งยืนทางด้านการเงิน

ส่วน บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด จะมีการเยียวยาอย่างไรนั้น สิ่งที่กรรมาธิการสอบถามและได้รับคำตอบมา เป็นคำตอบที่ไม่ค่อยตรงประเด็น เพราะบริษัทดังกล่าว บอกว่าเขาจะขยายระยะเวลา การรับประกันเครื่องให้มากขึ้น หรือ หากหน้าจอแตกเขาก็จะดูแลประมาณ 1 ปี ดังนั้นขอย้ำว่าหากมีผู้ใดได้รับความเสียหายขอให้เข้าไปร้องเรียนต่อ สคบ. โดยตรง เนื่องจากบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด จะพิจารณาเยียวยาเป็นรายกรณี.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน