“โรม” จี้ “อนุทิน” ตัดไฟคู่สัญญานอมินี “หม่องชิตตู่”

รัฐสภา 23 ม.ค.-“โรม” จี้ “อนุทิน” ตัดไฟคู่สัญญานอมินี “หม่องชิตตู่” หวั่นถูกนินทาเอี่ยวอาชญากรข้ามชาติ ขณะปลัด มท. เบี้ยวแจง กมธ.มั่นคงฯ ส่ง กฟภ.แจงแทน เผยส่งข้อมูลให้ ปปง.-ป.ป.ส.-ดีเอสไอ-ตร. ตรวจสอบคุณสมับติคู่สัญญาเป็นภัยความมั่นคงหรือไม่ เล็งสรุปแนวทางตัดไฟ 29 ม.ค.นี้

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมพิจารณาศึกษาและติดตามความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการฟอกเงินการใช้บัญชีม้า และการซื้อขายไฟฟ้าบริเวณชายแดนแม่สาย


โดยวันนี้มีการเชิญปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอแม่สาย แต่ปรากฏว่า วันนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้เข้ามาชี้แจง แต่ได้มอบหมายให้ตัวแทนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชี้แจงแทน โดยให้เหตุผลว่า ติดภารกิจที่จังหวัดสงขลา

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กมธ.มีการประชุมพิจารณาปัญหานี้หลายครั้งแล้ว ซึ่งครั้งนี้จะมุ่งไปที่การใช้ทรัพยากรของไทยอย่างไฟฟ้า ที่ถูกป้อนให้กับอาชญากรข้ามชาติ พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย ที่สัมพันธ์กับเครือข่ายยาเสพติด และในเรื่องเปิดบริษัทนอมินีเพื่อรับสัญญาแทน ซึ่งการที่ไทยยังต้องอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มค้ายาเสพติด โดยที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นผู้ขายไฟให้ จึงเห็นว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า มีข้อมูลใหม่ ตั้งแต่ยุครัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่มีคำสั่งทบทวนการพิจารณาตัดสาธารณูปโภคพื้นฐานแล้ว และมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยในการพิจารณาให้ติดตามตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีคำสั่งหลายอย่างที่ควรเดินหน้าได้ แต่ขณะนี้ติดอะไร ทำไมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคถึงพิจารณาตัดไฟยากเย็น ทั้งที่หลักฐานหลายอย่างประจักษ์ชัดแจ้ง

นายรังสิมันต์ ยังฝากไปถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีอำนาจดำเนินการได้เลย แต่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อยากให้ประชาชนซุบซิบนินทาว่า สุดท้ายแล้วอาจจะมีส่วนร่วมกับขบวนการหรือเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ

ส่วนที่นายอนุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงถึงขั้นตอนการขายไฟฟ้าให้เมียนมา หากมีการนำไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องเป็นสิ่งที่เมียนมาร์แก้ไขดำเนินการนั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า บริษัทที่เป็นคู่สัญญากับการไฟฟ้า เป็นบริษัทนอมินีของ นายหม่อง ชิตตู่ ผู้นำของกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA ซึ่งเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และไฟฟ้าเหล่านี้ถูกนำไปจำหน่ายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งการที่บอกว่า บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทของตัวแทนทางเมียนมา ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่สถานการณ์ในเมียนมา และรัฐบาลเมียนมาวันนี้ล้มเหลว มีการสู้รบเป็นสงครามกลางเมือง จะมองว่า เป็นประเทศปกติไม่ได้ นายอนุทินต้องเข้าใจ ซึ่งที่ผ่านมา ตนเคยเปิดเอกสารในสภาว่า มีหนังสือส่งมาที่กระทรวงมหาดไทยซึ่งมีการอ้างมติ ครม. คำถามคือแล้วกระทรวงมหาดไทยไม่ต้องทำตามมติครม. หรือใช่หรือไม่ และปลัดกระทรวงมหาดไทยก็เคยทำหนังสือส่งตามไปด้วยเช่นกัน แล้วทำไมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงขายไฟฟ้าได้ต่อ ส่วนตัวคิดว่าการตัดไฟสามารถทำได้ แต่วันนี้ที่ตัดไม่ได้เพราะมีผลประโยชน์หรือไม่


เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลทหารเมียนมา ออกมาเปิดเผยว่า เพื่อนบ้านทำให้ปราบคอลเซนเตอร์ไม่ได้นั้น นายรังสิมันต์ ยอมรับว่า ก็เข้าใจในทางปฏิบัติรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่สามารถจะเข้าไปปราบปรามได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย เพราะฉะนั้นการปราบปรามก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่รัฐบาลทหารเมียนมาพูดมาก็ถือเป็นการยืนยันว่า ปัญหาที่ตนเคยพูดมาตลอดว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องมีการตัดไฟเป็นเรื่องจริง ซึ่งสื่อที่มีการเผยแพร่ออกมาก็เป็นสื่อที่เป็นกระบอกเสียง ให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา ตนจึงคิดว่า ไทยต้องทบทวนตัวเองว่าน่าละอายใจขนาดไหน ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และวันนี้ไทยไม่ใช่แบตเตอรี่ธรรมดา แต่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างคอลเซนเตอร์ขึ้นมา

ขณะที่การชี้แจงนั้น ตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ชี้แจงว่า การไฟฟ้าได้รับนโยบายและข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการ โดยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2567 ได้หารือกับ ป.ป.ส. และ ปปง. เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่จะทำการซื้อขายไฟฟ้าหรือคู่สัญญา ที่จะซื้อขายไฟฟ้ากับไทย ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้ให้การไฟฟ้าส่งข้อมูลของผู้ที่จะซื้อไฟฟ้า เข้าสู่การตรวจสอบ เพราะ ป.ป.ส.และ ปปง. มีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบคุณสมบัติของนิติบุคคล คณะกรรมการบริหาร ผูุ้ถือหุ้นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ หลังตรวจสอบเสร็จจะส่งให้การไฟฟ้าพิจารณา และเพื่อความครบถ้วนทึ่ประชุมยังให้ การไฟฟ้าส่งข้อมูลให้กับ ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย จากนั้นในวันที่ 9 ธ.ค.2567 กฟภ. ได้ส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ถึงแนวทางงดจำหน่ายไฟฟ้า ในวันที่ 24 ธ.ค.2567 กฟภ.ได้ประชุมร่วมกับ สมช.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดการ พื้นที่ชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและวันที่ 25 ธ.ค.2567 คณะกรรมการของ กฟภ.ลงไปสำรวจ ณ จุดซื้อขายไฟฟ้า ในพื้นที่ จ.ตาก ซึ่งเหลืออยู่ 2 จุด ในวันที่ 26 ธ.ค. 2567 กฟภ.ได้จัดประชุมกับแนวงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแนวทางปฎิบัติ กรณีงดจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ เพื่อรวบรวมและนำเสนอต่อ ครม. กระทั่ง 7 ม.ค.2568 กฟภ.ได้ส่งข้อมูลผู้ขอซืัอไฟฟ้าไปถึง ป.ป.ส. ปปง. ดีเอสไอและ ตร. ให้ช่วยตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ในขณะที่ กฟภ.ได้ดำเนินการประสานกับคู่สัญญา เพื่อขอข้อมูลระบบจำหน่ายไฟฟ้าจากประเทศใกล้เคียง ที่เราให้บริการ

ซึ่งในวันที่ 29 ม.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ กฟภ. เพื่อเสนอแนวทางการงดจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับประเทศใกล้เคียง ในกรณีที่มีผลกระทบเรื่องความมั่นคงของประเทศ เพื่อเสนอเป็นความเห็นให้ ครม.พิจารณา

ขณะที่ตัวแทน สมช.ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า จากการประชุมหารือกับ กฟภ. รวมถึงการตรวจสอบล่าสุด ยังไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะยืนยันว่า บริษัทที่นำกระแสไฟฟ้า จาก กฟภ.ไปใช้ กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แต่สมช.ก็เข้าใจว่า การใช้ไฟฟ้าก็ต้องวนกันไป ดังนั้น สมช.จะประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคง รวมถึงการไฟฟ้า เพื่อให้ได้ความชัดเจนว่า สรุปแล้วการใช้ไฟฟ้ากระทบต่อความมั่นคงหรือไม่.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย