นายกฯ เตรียมร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง FTA ไทย-EFTA

สมาพันธรัฐสวิส 23 ม.ค.-นายกฯ เตรียมร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง FTA ไทย-EFTA มุ่งทำให้การค้าไทย-ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป มีปริมาณมากขึ้น จากการปรับลดกำแพงภาษี ด้านประธานาธิบดีสวิส ยินดีกับโอกาสของไทย เชื่อจะเป็นประโยชน์การขยายตัวการค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.68) เวลาประมาณ 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ตรงกับเวลา 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ณ ศูนย์ประชุม Congress Center เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนางคาริน เคลเลอร์-ซุทเทอร์ (Karin Keller-Sutter) ประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิส ในโอกาสเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 (WEF AM25)


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การเข้าร่วมการประชุม WEF 2025 ในครั้งนี้ว่า ประเทศไทย โดยพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน (Thailand Reception) โดยนำเมนูอาหารไทยที่เป็นที่ยอดนิยมมานำเสนอให้กับผู้ร่วมประชุมและสื่อมวลชน เป็นที่น่าดีใจที่ได้รับเสียงชี่นชม ทั้งนี้ อาหารไทยเป็นหนึ่งใน Soft power ไทยที่มาจากภูมิปัญญาของคนไทย โดยเกษตรกรและผู้ประกอบการกิจการร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆ ร่วมกันสรรค์สร้างจนทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก

ด้านประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิส กล่าวแสดงความยินดีในความสำเร็จของไทยในการจัดงาน Thailand Reception ในครั้งนี้ รวมถึงความสำเร็จของไทย ในการบรรลุความตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA (เอฟต้า) ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์และจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการขยายตัวการค้า-การลงทุนระหว่างไทย-สวิสด้วย


นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการยกเว้นการตรวจลงตรา และการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสีเขียวของไทย หรือ green transition

ขณะที่วันนี้ (23 ม.ค.) นายกรัฐมนตรี จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง FTA ไทย-EFTA ในเวลา 09.00 น. ตามเวลากรุงดาวอส ซึ่งตรงกับเวลา 15.00 น. ในประเทศไทย ที่ House of Switzerland) ซึ่งประเทศที่จะร่วมข้อตกลงครั้งนี้ ประกอบด้วย ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การค้าระหว่างไทยกับประเทศกลุ่มนี้ในสหภาพยุโรปมีปริมาณมากขึ้น จากกำแพงภาษีที่ปรับเปลี่ยนลดลงอยู่ในข้อตกลงต่างๆ.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง