กองทัพบก 22 ม.ค. – ทบ. ขานรับนโยบายรัฐบาลปราบยาเสพติด เติมทหาร 6 กองกำลัง ซีลชายแดนเหนือ-อีสาน วัดเคพีไอ 10 ก.พ.-10 มิ.ย. รับลูก กห. ด้าน ผบ.ทบ. ย้ำหน่วยงานช่วยเหลือประชาชนต้องมาก่อน
พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ว่าสำหรับการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาตินั้น กองทัพบกได้ดำเนินการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตลอดแนวชายแดนอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง โดยในเดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิด 170 คน ยึดของกลางได้ยาบ้า 69,729,105 เม็ด, ไอซ์ 1,534.515 กิโลกรัม, เฮโรอีน 3.425 กิโลกรัม และเคตามีน 445.08 กิโลกรัม ซึ่งส่วนมากยังคงพบการลักลอบลำเลียงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ล่าสุดที่รัฐบาลมีนโยบายเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดน ในพื้นที่ 14 จังหวัด (51 อำเภอ) ตั้งแต่เดือน ก.พ. 68 เป็นต้นไปนั้น ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้ขออนุมัติจัดกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยงที่ยังคงพบการลักลอบลำเลียงต่อเนื่อง รวม 6 หมวด ประกอบด้วย กองกำลังสุรสีห์ 1 หมวด, กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี 2 หมวด, กองกำลังผาเมือง 2 หมวด และกองกำลังนเรศวร 1 หมวด เพื่อปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.-10 มิ.ย. 68
สำหรับการบำบัดรักษาผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด กองทัพบกได้สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ร่วมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 และปัจจุบันได้มอบให้หน่วยทหารทั่วประเทศรวม 33 แห่ง จัดตั้งเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เพื่อรับผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด ทั้งระบบสมัครใจและตามคำสั่งศาล ในการเข้าบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ผ่านกิจกรรมอบรมให้ความรู้และกลุ่มบำบัดต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมด้านอาชีพ ตลอดจนการช่วยเหลือเพื่อกลับสู่สังคมหลังการบำบัด ซึ่งตั้งแต่เริ่มดำเนินการได้รับตัวเพื่อบำบัดรักษารวม 182,824 ราย ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการบำบัด 990 ราย โดยกองทัพบกพร้อมนำศักยภาพของทุกทรัพยากรที่มีอยู่ ร่วมสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ในทุกมิติ
นอกจากนั้น ผบ.ทบ. ยังเน้นย้ำเรื่องของการทำงานช่วยเหลือประชาชน งานจิตอาสา ให้ย้ำกำลังพลได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ และดูความต้องการของสังคม ถ้าสิ่งใดที่กองทัพบก และกำลังพลทำได้ ก็ให้ดำเนินการทันที-.313-สำนักข่าวไทย