“ทักษิณ” ของขึ้นถูกหาว่าโกง ลั่น “ตอนกูรวย มึงเพิ่งขอตังค์พ่อใช้”

มหาสารคาม 20 ม.ค.-“ทักษิณ” ย้อนอดีตสัมพันธ์ “จรัสเสถียร” สั่งสอนได้เหมือนลูกขอให้ไว้ใจใช้ทำงาน ของขึ้นถูกหาว่าโกง ลั่น “ตอนกูรวย มึงเพิ่งขอตังค์พ่อใช้”

ผู้สื่อข่าวรายงานการหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังปราศรัยจุดแรกที่อำเภอเชียงยืน ได้เดินทางต่อมายัง โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ สถาบันการพละศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่อนายทักษิณ เดินทางมาถึงเพื่อปราศรัยต่อเป็นเวทีที่ 2 มีประชาชนมารอให้การต้อนรับและรอฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่


นายทักษิณ กล่าวปราศรัยว่า พี่น้องต้อนรับอบอุ่นมาก อยากให้ตนเองมาบ่อย ๆ หรือไม่ ตนเองแก่แล้ว แต่ยังพอมีแฮงอยู่ ที่นี่มี นปช. เยอะ มันดีใจบอกไม่ถูก และพี่น้องคงดีใจที่ได้เจอตนเอง หลังจากที่ไม่เจอกันมาเกือบ 20 ปี ตนเองว่าเรามีความรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองตายไปแล้ว เกิดมาใหม่ มาอยู่ใกล้ ๆ กันใหม่ มีความรู้สึกว่ามันผูกพัน ตนเองเคยทำงานให้พี่น้อง และวันนี้กลับมาในยามที่บ้านเมืองค่อนข้างมีปัญหาทางเศรษฐกิจเยอะ พี่น้องคงมั่นใจว่าตนเองคงมาช่วยแก้ไขปัญหาได้ และตนเองก็มั่นใจว่าตนเองแก้ได้

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เราต้องทำเรื่องใหม่ ๆ แต่ก็มีคนคัดค้านมาก โดยเฉพาะขาประจำ ว่างๆ ตนเองจะชวนมากินไวน์ เผื่อจะเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัยบ้าง เผื่อเปลี่ยนแล้วจะเข้าใจตนเองบ้าง และเข้าใจประเทศ เพราะเรามีเนรื่องดีๆ เยอะ ต้องค่อยๆ ปล่อย ขนาดค่อยๆ ปล่อย ยังมีคนไม่เข้าใจ อย่างพวกขาประจำ แค่หายใจก็ผิด ตนเองหายใจก็ผิด หายใจไม่ได้ แต่พวกที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ค่อย ๆ อธิบาย เดี๋ยวนี้ต้องใจเย็น ไปไหนก็ต้องท่องคาถา ใจเย็นนะโยม เมื่อก่อนปากร้ายปากไว เดี๋ยวนี้เย็นไว้นะโยม เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ คนที่ยังคิดแบบเก่าก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ วันนี้อยากแก้ปัญหาให้พี่น้อง จึงต้องมีวิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่


“เพื่อไทยต้องทำให้พี่น้องอยู่ดีกินดี เหมือนสมัยไทยรักไทยที่ผมอยู่ วันนี้ผมกลับมาแล้ว ต้องเอาความมั่งคั่งของคนไทยกลับคืนมาให้ได้ ผมจากไป 17 ปี ไอ้พวกปฏิวัติไล่ผมไป นึกว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่วันนี้กลับแย่ลง และเกิดควายโผล่มาหลายตัว ควายเขาเก คอยไล่ขวิดอยู่เรื่อย พี่น้องเราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ได้“ นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันที่ตนทำกองทุนหมู่บ้าน ตนถูกพรรคตรงข้ามด่า บอกว่าประเทศลำบากขนาดนี้จะเอาเงินจากไหน ตนเคยบริหารบริษัทเล็ก ๆ ชินวัตรคอมพิวเตอร์ กู้เงินมา 30,000 ล้าน ใช้เวลานิดเดียวก็ปิดได้หมด ทำกองทุนหมู่บ้านใช้ 80,000 ล้าน ทุกคนบอกทำยาก แต่ที่ตนเองพูดคิดมาแล้วว่าทำได้ ถ้าพูดแล้ว ต้องทำได้อย่างแน่นอน เพราะคิดมาแล้ว

ขณะนี้โลกร้อน ทำให้น้ำแข็งละลาย ทั้งน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ดังนั้น ถ้าไม่ป้องกันไว้น้ำท่วมกรุงเทพ พังเลยเศรษฐกิจทั้งประเทศ เพราะฉะนั้น เราต้องคิดว่าจะต้องป้องกันอย่างไร ตนเองคิดอยู่นานว่าจะเอาตังที่ไหนไปป้องกัน เราสามารถถมทะเลสร้างเขื่อนกันน้ำเข้ากรุงเทพ โดยไม่ต้องลงทุนสักบาท วันนี้ต้องคิดว่าทำอย่างไร ถึงจะมีแนวร่วมพัฒนาประเทศ โดยให้เขาได้ประโยชน์ชนิดที่ไม่เอาเปรียบคนไทย ให้ได้ประโยชน์จากการทำมาค้าขายของเขาเอง ไม่ใช่มาเอาประโยชน์จากคนตัวเล็กตัวน้อย ตนเองกำลังจะเปิดเรื่องของการไม่ให้มีการผูกขาด และลดรายจ่ายให้ประชาชน 2 ปีกว่านี้ เสร็จแน่นอน คะแนนเบอร์ 4 และตนจะใช้งานให้หนัก ให้รับใช้ประชาชน มี 2 สิ่งที่อยากจะขอ คือขอให้ไปบอกพ่อค้ายา ว่ามึงหยุดได้แล้ว และทักษิณขอมือไม้ ให้เลือกเบอร์ 4 และสจ.ให้ทักษิณ


วันนี้ตนพยายามเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในประเทศ แต่ยิ่งใหม่ยิ่งถูกต่อต้าน ขอให้พี่น้องหนักแน่นไว้ว่า ตนไม่โง่แน่นอน ตนเองรักพี่น้องประชาชนแน่นอน ตนเองรักประเทศแน่นอน และตนเองจงรักภักดีกับพระเจ้าอยู่หัวของตนเองแน่นอน 4 ข้อนี้ ใครจะด่าจะว่า ตนเองก็ได้ยินและรับฟัง พี่น้องก็ฟังหูไว้สองหูก็ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะต้องมีคนไม่เห็นด้วย และเห็นด้วย แต่ขอให้มั่นใจ 4 ข้อนี้ ตนเองมั่นใจว่าตนเองสามารถทำให้ประเทศนี้เจริญได้ โดยนายกฯ อิ๊งค์ เป็นกองหน้า และตนเองเป็นกองหลัง คอยคิดคอยนำเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และมีมือไม้ใน ครม. สส. และต่อไปเป็นองค์กรท้องถิ่น ซึ่งก็ขอให้เลือกนายก อบจ. เป็นของเพื่อไทย

ทั้งนี้ ตอนตนตั้งพรรคไทยรักไทย ปี 2542 นายศุภกร จรัสเสถียร หรือกำนันตง พ่อของนายยุทธพงศ์ ได้พาตนตะเวนอีสาน เป็นคนที่บุกเบิกอีสานให้ตน วันนี้ลูกชายคนหนึ่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอีกคนเป็นผู้สมัคร นายก อบจ. ถือว่าเป็นคนที่ที่ตนไว้ใจได้อย่างแน่นอน สั่งสอนเหมือนลูกหลานได้ ถ้าพี่น้องเชื่อใจตน ขอให้เอามือไม้ของตนรับรอง มหาสารคามเจริญแน่นอน หลายครั้งพรรคเพื่อไทยแข่งอบจ. ไม่สำเร็จ แต่เที่ยวนี้ตนมาขอคะแนนด้วยตัวเอง หวังว่าชาวมหาสารคามจะยกให้ เพื่อให้เข้ามาทำงาน เพราะตนไม่ต้องการอะไร ชีวิตนี้สบายแล้ว มีเงินเดือน 700 บาท และรำไพ่วันละ 300 บาท

นายทักษิณ ระบุว่า มีเรื่องอีกเยอะ ที่ต้องการกำลังใจจากพี่น้อง วันนี้มีเรื่องต้องทำอีกเยอะ แต่กำลังใจจากพี่น้องเป็นเรื่องสำคัญ เพราะตังค์มีเยอะแล้วไม่เดือดร้อน มีคนบอกว่า “ผมโกง โกงพ่อมึงสิ ผมเช้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช. ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินมาแท้ ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม่มีเงินเดือน 700 บาท กับรำไพ่วันละ 300 บาท ก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุข คือการทำให้บ้านเมือง และพี่น้องพ้นทุกข์”

นายทักษิณ กล่าวว่า คนสารคามหล่อสวย หลังปี 70 หล่อสวยแน่ เพราะมีตังค์แล้วมันหล่อสวย ไม่ต้องไปศัลยกรรม มีตังค์แล้วผัวเมียก็ไม่ทะเลาะกัน ตอนไม่มีตัง พูดจาอะไรหงุดหงิดไปหมด ตนโดนมาหมดแล้ว เคยเห็นมาทั้งนรก ทั้งสวรรค์ ตอนนี้อยู่บนดิน ไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่ประสบการณ์ในนรก จะนำมาแก้ไขเพื่อช่วยเหลือพี่น้อง ให้มีความสุข เหมือนที่ตนเคยประสบความสำเร็จในชีวิตการทำธุรกิจ.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย