เชียงยืน 20 ม.ค.-“ทักษิณ” บอกชาวสารคาม คิดฮอดมากไม่เจอกันนาน ขอบคุณคนเสื้อแดง ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ชม “สุทิน” มีสปิริต ปรับพ้น ครม. ไม่มีอิดออด แย้มรอบหน้ามีรัฐมนตรีจากมหาสารคามอีก เผยเงินหมื่นเฟส 3 เงินทยอยเข้า มี.ค.-เม.ย.นี้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงลงพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยวันนี้เป็นคิวของจังหวัดมหาสารคาม เวทีแรก ณ โดมเทศบาล อ.เชียงยืน เพื่อช่วยนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร น้องชายนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ลงชิงนายกฯ อบจ.มหาสารคาม โดยวันนี้มี สส.และอดีต สส.พรรคเพื่อไทยมาช่วยหาเสียงจำนวนมาก และภายในเวทีหาเสียง ยังมีการแจกโปสเตอร์หาเสียงให้ผู้ที่มาฟังการปราศรัย โดยด้านหนึ่งเป็นการแนะนำตัวผู้สมัครแต่อีกด้านหนึ่งเป็นรูปผู้สมัครที่ถ่ายคู่กับนายทักษิณ พร้อมข้อความที่นายทักษิณ เขียนว่า ” อยากเห็น พลพัฒน์ ได้รับใช้ชาวมหาสารคาม สมความตั้งใจ” ลงวันที่ 20 ม.ค.68
โดยทันทีที่นายทักษิณ มาถึงพี่น้องประชาชนได้เขาไปรุมเพื่อขอจับมือและถ่ายรูป โดยหลายคนเข้าไปโอบกอดด้วยความคิดถึง และก่อนที่จะเดินขึ้นเวทีได้มีผู้ชายหนึ่ง ซึ่งเป็นคณะทำงานของนายสุทิน คลังแสง ได้ยกมือนายทักษิณ ขึ้นมาหอมด้วยรัก
จากนั้นนายทักษิณ ขึ้นเวทีปราศรัยโดย กล่าวว่า สวัสดีพี่น้องชาวมหาสารคามที่เคารพรักทุกท่าน ตนคิดฮอดพี่น้องหลายแท้น้อ มาเจอพี่น้องวันนี้มีความสุขมาก ไม่เจอกันนาน ผมแก่ไปเยอะไหม แต่ใจมันยังหนุ่มอยู่ ยังพอมีแรงอยู่ พร้อมทำงานให้อยู่ อยากใช้งานตนอีกนานไหม ตอนนี้ 75 ปีแล้ว ย่าง 76 มีเวลาไม่นานอีก 40 ปี ที่จะได้รับใช้พี่น้อง
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตนไปหาเสียงที่ขอนแก่น และมาที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ปรากฏว่าได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า มีเหตุการณ์สึนามิเกิดขึ้นที่ จ.ภูเก็ต วันนั้นตนก็อยู่กับพี่น้องชาวสารคาม และคิดวิธีแก้ไขเรื่องที่ภูเก็ตอย่างไร จากนั้นเมื่อสนามบินภูเก็ตเปิด ตนก็บินจากจ.ขอนแก่นไปประชุมที่ จ.ภูเก็ตเพื่อแก้ไขปัญหา และปีเดียวภูเก็ตฟื้นเลย วันนั้นประทับใจมาก
“พอประชุมเสร็จดึกมาก ไฟฟ้าดับหมด ไปค้นหาคุณ “พุ่ม เจนเซ่น” พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ โดยตนไปถึงดึกก็มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งเป็นพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน โดยไปพร้อมกับทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ เพื่อตามหาคุณพุ่ม ซึ่งไปกันตอนดึกก็เจอกันในที่มืดไม่รู้ว่าท่านเสด็จมา จึงได้ไปกราบท่านที่นั่น และเห็นว่าท่านทรงงานหนักตลอด”
นายทักษิณ ยังเล่าเรื่องชีวิตคนอีสาน ว่า วันนี้คนอีสานโดยเฉพาะจังหวัดมหาสารคาม เห็นว่าหน้าตาพอจะมีสตางค์กันแล้ว หรือมีหนี้ แล้วยาเสพติดเยอะไหม วันนี้ (20 ม.ค.) ได้นั่งคุยกับผู้บัญชาการภาค 4 เพิ่งย้ายมาใหม่ ปีนี้จะจัดการยาเสพติดอย่างจริงจัง ให้หมดไปให้ได้ เพราะนายกฯอิ๊งค์ ประกาศแล้วว่า จะจะจัดการ พร้อม ๆ กับการจัดการหนี้สิน
“วันนี้คนเสื้อแดงมาเยอะ หลายคนตนเองรู้จัก และทราบข่าวต่อสู้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่าขอบคุณมากๆ ที่เราช่วยกันรักษาประชาธิปไตยให้กับประเทศ เห็นพี่น้องมากันเยอะ เต็มใจต้อนรับตนเอง บอกอย่างเดียวว่ารักและห่วงใยพี่น้องตลอดเวลา เมื่อคืนนี้เจอเด็กผู้หญิงอายุ 34 – 35 ปี ซึ่ง 24 ปีที่แล้วตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีเขาได้ใช้บริการจักรยานยืมเรียน ซึ่งตนเองลืมไปแล้ว เพราะถามว่ามีใครอายุ 30 กว่าและได้ใช้โครงการนี้ ตอนนั้นการคมนาคมไม่ค่อยดี เหมือนตอนนี้ เด็กต้องเดินทุ่งนาไปเรียนหนังสือ ซึ่งตนเองเคยอยู่บ้านนอก รู้ว่าถ้าเราจะให้จักรยานไว้ประจำโรงเรียน ให้นักเรียนยืมขี่มาเรียนหนังสือจนจบแล้วค่อยหมุนรุ่นไป สมัยก่อนจักรยานราคาไม่กี่บาท ประมาณ 700 ถึง 800 บาท ปรากฎว่าได้ผล เด็กจำได้ และมาเล่าให้ฟังถึงประโยชน์ของโครงการ ตนเองเลยมาเล่าให้ฟังว่าได้ประโยชน์จากจักรยานยืมเรียน”
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ไม่สนใจการเมืองท้องถิ่น เพราะไม่คิดว่าต้องใช้ประโยชน์ เตรียมใช้เป็นต้นทางคัดคน-อบรม สร้างโอกาสคนไทยเท่าเทียมชาติอื่น ตนอยากสร้างให้เด็กต่างจังหวัดมีโอกาส ตนมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าเด็กที่เกิดนิวยอร์ก อเมริกาหรือโกสุมพิสัยเกิดมาเท่ากัน แต่โตขึ้นต่างกันเพราะสภาพแวดล้อมและโอกาส วันนี้เราพยายามสร้างสภาพแวดล้อมและโอกาสให้เด็กไทยโตมาสามารถทำอะไรก็ได้ ที่ตนมาวันนี้ตนจริงจังมาก เรื่อง อบจ. เมื่อก่อนไม่ได้จริงจังมากเพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้ประโยขน์จากการเมืองท้องถิ่นมากขนาดนี้ วันนี้เห็นชัดว่าเราจะต้องพัฒนาคน ต้องมีกลไกท้องถิ่น เพื่อคัดคนที่อยากพัฒนาตัวเอง ในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ หากอยากทำกับข้าวฝรั่ง ญี่ปุ่นได้ เพื่อไปเป็นเชฟในโรงแรมใหญ่ๆ หรือในต่างประเทศ ซึ่งภัตตาคารที่มีชื่อเสียงในอังกฤษคือ กอร์ดอน แรมซี่ ซึ่งตนไปเจอมา พบว่าหัวหน้าเชฟ หัวหน้าแม่ครัวคือคนไทย น่าภูมิใจมาก และตนเคยไปภัตตาคารญี่ปุ่นที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย พบว่าเชฟเป็นคนอีสาน ดังนั้น เราจะสร้างโอกาสเหล่านี้ให้คนไทย รวมถึงเรื่องกีฬา ความสามารถด้านอื่นๆ จะพัฒนาทักษะ จึงต้องอาศัย อบจ. รวมทั้งมหาวิทยาลัยในพื้นที่ทั้งคัดและอบรม
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนอยากได้คนไทย ทั้งผู้หญิง หรือผู้ชาย ที่ต้องสวยแบบคนไทย ไม่จำเป็นต้องมีเงินแต่งตัว หรือผ่าตัดศัลยกรรมเป็นคนเกาหลี เราอยากได้ไทยแท้ๆ ก่อนที่นายทักษิณ จะจับจมูกตัวเอง และพูดว่า ผู้ดั้งแหมบ ภาษาเหนือ เขาเรียกจมูกแบนๆ ก็ไม่เป็นไร สวยแบบเรามีเสน่ห์แบบเรา เราต้องนำเสน่ห์แบบเราไปโชว์ชาวโลก เราจะหานางแบบระดับโลกไปช่วยฝึก แล้วไปแข่ง ให้มีโอกาสได้ทำงาน ฝรั่งเดินแบบทีได้เป็นล้าน ดังนั้น เราต้องเริ่มหาแมวมอง คัดเอาไปฝึก แล้วไปเรียนระดับโลก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ตนอยากได้นักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นเพื่อไทย ที่จะได้ช่วยกันคัด และพี่น้องจะได้ช่วยกันใช้นักการเมืองท้องถิ่นของเรา ส่งข้อมูลข้อความทั้งหมดไปยังรัฐบาล จึงขอพี่น้องช่วยคัดมือไม้ให้ตนหน่อย มือไม้ของตนก็คือนายก อบจ. และสมาชิกสอบจ.
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า พี่ชายของผู้สมัครคนนี้คือ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ตนใช้งานเขาเยอะ จริงๆเที่ยวนี้เกือบจะเป็นรัฐมนตรีว่าการแล้ว พลาดนิดหน่อย แต่ยังได้เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ใช้พี่ชาย ใช้น้องชาย ใช้ทั้งครอบครัว
“คนเชียงยืนต้องมีความภูมิใจ เพราะมีตัวแทนเป็นถึงรัฐมนตรีกลาโหม โดยที่ไม่มียศเป็นพลเรือนก็เป็นรัฐมนตรีกลาโหมได้ อันนี้คือความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนายสุทิน ก็ทำหน้าที่ได้ดี มีสปิริตสูง ถึงเวลาที่รัฐบาลและพรรคต้องเปลี่ยนตัว สับตัว ไม่เคยมีอาการไม่พอใจอะไรเลย เป็นคนมีน้ำใจมาก ตอนเป็นรัฐมนตรี ก็มีแต่ทหารรัก วันนี้จังหวัดมหาสารคามก็มีอดีตรัฐมนตรีหลายคน อนาคตก็จะมีรัฐมนตรีอีก และหากปี 2570 นายกฯ อิ๊งค์ กลับมารอบ 2 จะเจอแบบไทยรักไทยแน่นอน พวกเรามีผลงาน เวลาพูดอะไรทั้งหมด “
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ใครอายุ 60 ปีบ้าง วันที่ 27 มกราคมนี้ เงิน 10,000 บาท จะเข้าบัญชี ส่วนคนอายุต่ำกว่า 60 ปี - 16 ปี รอนิดนึง หลังจากเทคโนโลยีเรียบร้อย ประมาณช่วงมีนาคม-เมษายน ก็จะทยอยเข้าบัญชี เพื่อไทยพูดอะไรไว้ทำหมด แต่วันนี้อาจจะช้ากว่าเดิม เพราะพรรคไม่ได้คุมทุกกระทรวงเหมือนเมื่อก่อน และระบบราชการก็เปลี่ยนไปเยอะ ซึ่งเราก็ทำได้แต่เสียเวลานิดนึง วันนี้ตนอยากเห็นจริงๆว่าชาวมหาสารคามต้องเปลี่ยนนายกอบจ. ได้แล้ว เปลี่ยนมาอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย จะได้เชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่น
นายทักษิณ ยืนยันว่า เรื่องการพนัน ในการเก็บภาษีไม่ใช่รัฐบาลสิ้นไร้ไม้ตอก แต่มันคือผลพลอยได้ สิ่งที่เราจะทำ นั้นเป็นผลประโยชน์ต่อบ้านเกิดเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ มีบางคนไปพูดคำว่า เปิดแค่กาสิโน แต่สถานบันเทิงครบวงจร มันมีอะไรบ้างล่ะ มันมีทั้งการจัดคอนเสิร์ต มีโรงแรมเป็นพันๆห้อง ลงทุนทีเป็น แสนล้าน มีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศไทยอีกเยอะ และการจ้างงานแต่ละที่ก็ 20,000 คน มีเงินเดือนขั้นต่ำ 20,000 บาท และกาสิโนก็เป็นเพียงพื้นที่ไม่ถึง 10% ของสถาบันบันเทิงครบวงจรทั้งหมด แค่นิดเดียว คนที่ไปบอกว่ากาสิโน กาสิโนมันคือบิดเบือน
“ผมคิดเรื่องนี้ก่อนสิงคโปร์อีก ตอนสมัยไทยรักไทย ผมคิดปุ๊บปรากฏว่าประเทศไทยค้านทันที เพราะคนไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะไอ้พวกมือถือสากปากถือศีล สุดท้ายสิงคโปร์ไปทำก่อน ปรากฏว่ามีต่างชาติมาท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ของเราทำตาปิบๆไป 20 ปี วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและเข้าใจสนับสนุน เราก็ควรจะต้องทำ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ไปวันๆ บังคับให้เขาทำงาน ทำไร่ ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเอง”
นายทักษิณ กล่าวว่า การลงทุนใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ ตนเป็นคนชอบของใหม่ อยากให้มีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้น แต่ก็ชอบคนเก่าของเรานี่แหละ อย่าลืมเรา ยังไงก็อย่าลืมเพื่อไทย อย่าลืมเอาตนไปใช้งานนานๆ ให้กำลังใจตนด้วยการเลือกนักการเมืองของตน เลือกอบจ. ไปให้ใช้งาน ตนจะได้ทำงานง่ายหน่อย คนแก่ทำงานมากๆก็ไม่ไหว จะได้มีไม้มีมือในการใช้งาน อย่างนี้ถ้าเป็นพรรคอื่นหรือคนอื่นมาเป็นนายกอบจ. ตนก็ใช้ไม่ค่อยได้ ตนใช้คนที่เราไว้ใจได้ วางใจได้ ที่คัดแล้ว ขอให้พี่น้องช่วยสนับสนุน ผู้สมัครเรา แล้วอย่าลืมเลือก สจ.ให้ด้วย ไม่งั้นทำงานไม่ได้ เลือกตั้งทั้งทีอย่าขี้เหนียว ทุ่มมาเลย เพื่อไทยอย่างเดียวเลย เบอร์เดียวเลย ทีนี้เราจะได้ทำงานกันได้อย่างเต็มที่ อย่าไปรักพี่เสียดายน้อง ทุ่มให้เลยรับรองว่าไม่เคยผิดหวัง ลองมองผ่านมา 20 ปีใครทำงานรับใช้พี่น้องให้เศรษฐกิจดี ส่วนที่มีปัญหาทุกรอบก็เพื่อไทยมาแก้ทั้งนั้น
นายทักษิณ กล่าวว่า เศรษฐกิจเที่ยวนี้หนักกว่า ต้มยำกุ้ง ปี 2540 เพราะว่าฐานรากคือคนชนบท ถูกทำลายทางเศรษฐกิจ แต่ยังแก้ได้อยู่ ตอนสมัยต้มยำกุ้ง เอาหัวแยก แต่ ข้าแข็งแรง มันก็ฟื้นง่ายเหมือนบ้านที่ลมพัดหลังคาปลิว แต่ฐานยังอยู่ก็ซ่อมไปจนเสร็จ แต่ตอนนี้เสาเอี่ยงการซ่อมมันยากขึ้น แต่ก็ยังทำได้ ผมอยู่ ผมมั่นใจว่าทำได้ รับรองเลยว่าปี 2570 เพื่อไทยกลับมาใหม่ รอบ2 มือจะยัดไม่ลงกระเป๋า ขอช่วยกรุณาให้กำลังใจตน ครั้งนี้อีกครั้งนึง ให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย
นายทักษิณ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ถามจริงๆ ไม่ได้เจอกันนาน โทรมไปหรือไม่ แก่ไปหรือไม่ วันนี้ชีวิตลำบากมาก กลับมาเมืองไทย มีเงินเดือนแค่ 700 บาท เพราะเป็นคนชรา จึงมาช่วยหาเสียง รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 300 บาท ช่วงนี้โลกเปลี่ยนแปลงเยอะ หลังจากที่ โดนัล ทรัมป์ ประกาศจะเอาเงินคริปโท มาเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งโลกตื่นตัวหมด แต่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ก่อน เรารู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิด ตอนเลือกตั้ง ทั้งเรื่องคริปโต บล็อกเชน ประเทศอื่นเตรียมตัวไม่ทัน แต่เราพร้อมแล้ว ถ้าเรารับสิ่งเหล่านี้เข้ามา โดยตัดความเสี่ยงออกไป จะเกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจมากมาย ถ้าเราช้า เม็ดเงินก็ไปที่อื่น เราก็เอาเงินมาสร้างเราก็เอาเงินมาสร้าง เศรษฐกิจ เพื่อที่ในปี 70 จะได้ยัดมือเข้ากระเป๋าไม่ลง นายกฯ อิ๊งค์ ไปหาตนเองอยู่เมืองนอกทุกเดือน เราก็คิดแต่เรื่องบ้านเมือง จนวันนี้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้มาแก้ปัญหา เรารู้ว่ามันเหนื่อยยาก แต่เรามั่นใจว่าเราทำได้ และปี 70 จะเป็นปีที่เก็บเกี่ยวสิ่งที่เราทำในรอบนี้ ขอไว้วางใจและเชื่อผมและให้มือผมไปทำงานอีกรอบหนึ่ง.-313.-สำนักข่าวไทย