“ทักษิณ” บุกบึงกาฬ ลั่นอีกไม่นานผลงานรัฐบาลโป้งป้างแน่

บึงกาฬ 19 ม.ค.- “ทักษิณ” บุกบึงกาฬ ระบุเป็นคนยกเลิกมติ ครม. “ชวน” เพิ่มพื้นที่ปลูกยางพารา 1 ล้านไร่ ชี้ ที่ผ่านมาประเทศ ถูกบริหารแบบธุรการ อยู่ไปวันๆ ลั่นอีกไม่กี่เดือน ผลงานรัฐบาลโป้งป้างแน่นอน ยันโครงการใหม่ มีแน่ ตราบใด “ทักษิณ” ยังมีชีวิตอยู่ ขายนโยบาย “บ้านเพื่อคนไทย” ล้านยูนิต เผย เห็นอย่างนี้ ไม่ได้เข้มแข็ง ต้องการกำลังใจ ขอให้เลือกเพื่อไทยแบบถล่มทลาย ไม่ต้องเกรงใจใคร ขอชนะขาด จะได้ไม่อาย กลับมากินไข่กระทะ รับรางวัล


นายทักษิณ​ ชิน​วัตร ​อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ยังคงลงพื้นที่ภาคอีสานเพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยวันนี้เป็นคิวของจังหวัดบึงกาฬ เวทีแรกเดินทางมาที่โรงเรียนบึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ เพื่อช่วยว่าที่ ร.ต.ภูมิพันธ บุญมาตุ่น ชิงนายกอบจ.บึงกาฬ โดยมีนาย​สุริยะ​ จึง​รุ่งเรือง​กิจ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​คมนาคม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และมีพี่น้องประชาชนมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก

โดยทันทีที่นายทักษิณ​ มาถึงได้เดินทักทายพี่น้องประชาชน มีหลายคนเข้าไปมอบดอกกุหลาบและผูกผ้าขาวม้าให้ และได้ถ่ายรูปร่วมกับมวลชนบนเวทีก่อนจะเริ่มต้นกล่าวปราศรัย ว่า สวัสดีครับพี่น้องชาวบึงกาฬ ที่รักเคารพทุกท่าน เมื่อเช้าตนตื่นมา อากาศดีจังเลย แต่ว่าบรรยากาศเช้านี้ ที่เข้ามาเจอพี่น้องบึงกาฬทำให้ตนมีความสุขมาก เป็นการมาบึงกาฬที่ประทับใจที่สุด ก่อนจะถามมวลชนว่า ความเป็นอยู่ชาวบึงกาฬเป็นยังไงบ้าง “ตนคิดถึงจังเลย” และวันนี้หลายคน ก็บอกว่า “คิดถึงตน”


นายทักษิณ กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่ตนมีความเกี่ยวข้องกับคนบึงกาฬตรงๆ เลยก็คือ ปี 2546 ตอนนั้นตนเป็นนายกฯ ไปประชุมครม. สัญจรที่ จ.ภูเก็ต ตนได้สั่งยกเลิก มติครม. สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ที่บอกว่าจะไม่ขยายพื้นที่ปลูกยางพารา แต่ตนสั่งเพิ่มพื้นที่ปลูกยางพาราอีก 1 ล้านไร่ ซึ่งวันนี้บึงกาฬอย่างเดียวก็ล้านไร่ไปแล้ว วันนั้นยางราคาตก รัฐบาลสมัยนั้นรับซื้อยางพาราที่ 22 บาท แต่มาขาย 16 บาท ก็ขาดทุนเยอะแยะ เขาว่ารัฐบาลเดือดร้อน เพราะต้องอุดหนุนยางพาราจำนวนมาก แต่ตนกลับมองตรงข้ามมองว่าเรากลับหาตลาดไม่ดี ตนมีความมั่นใจว่ามีตลาดใหญ่กว่านี้ แต่เราหาตลาดไม่เป็น เลยไปคุยกับบริษัทพลิตยาง คุยว่าเขาจะรับซื้อในราคา 60 บาทก็ไม่มีปัญหา เพราะการปลูกยางพาราจะเป็นรายได้ที่มั่นคง เนื่องจากเป็นพืชยืนต้น กรีดยางได้ ขายยางได้ เดือนนึงก็สองรอบ จึงอยากให้พี่น้องมีแบบนี้อีก พยายามหาพืชยืนต้นและเอกสารสิทธิ์ที่ดินมาให้ เพราะการปลูกพืชล้มลุกมันไม่ค่อยได้แน่นอน จึงพยายามดูแลเรื่องเอกสารสิทธิ์เป็นพิเศษ เพราะถ้าไม่มีก็ไม่อยากลงทุน

นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ตนแก่แล้ว อีก 6 เดือนก็อายุ 76 ปีแล้ว แต่ก็ยังพอมีแรงอยู่ ผมมาอีสาน พรรคเพื่อไทย เลือกตั้งได้ที่หนึ่งตลอดเพราะพี่น้องไม่เคยลืมตน ตนก็ลืมพี่น้องไม่ได้ กลับมาก็ต้องมารับใช้พี่น้อง และมีลูกสาวเป็นนายกฯ พ่อก็คอยช่วยเหลืออยู่

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงปัญหายาเสพติดว่า วันนี้บ้านเมืองถูกบริหาร โดยไม่ได้บริหาร ถูกบริหารแบบธุรการ อยู่ไปวันๆ ไม่มียุทธศาสตร์มาหลายปีแล้ว แก้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องง่ายมาก แต่ไม่ทำกัน ใครจำได้สมัยที่ตนเป็นนายกฯ 6 เดือนเกลี้ยงไม่มีเหลือ


“หลายคนร้องไห้ ไม่รู้จะเอาลูกหลานคืนกลับมาได้ยังไง แล้วก็ยังมีคนหลอนไปทำร้ายญาติพี่น้อง วันนี้ตั้งแต่ตนประกาศเอาจริงเอาจัง รัฐบาลนายกฯอิ๊งค์ ก็จัดการ เบาลงไปเยอะ เรื่อนหลอนๆทั้งหลาย เบาไปเยอะ วันนี้จะเอาคนที่ติดยาออกจากชุมชนให้เร็วที่สุด เอาไปบำบัดให้เร็วที่สุด และเอาพ่อค้ายาเสพติดออกจากอาชีพนี้ให้เร็วที่สุด ขืนปล่อยไว้มันหาเงินง่ายเกินไป ให้รู้ว่าที่หามาหมดตูดแน่นอน ไม่ให้เหลือเลย ซื้อบ้านยึดบ้าน ซื้อรถยึดรถ และติดคุกด้วย เหล่านี้จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือน ผลงานรัฐบาลต้องโป้งป้างเต็มที่”

นายทักษิณ ย้ำว่าเรื่องโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ คนอายุเกิน 60 ปี วันที่ 27 มกราคมนี้ มาแน่ ส่วนคนอายุต่ำกว่า 60 ปี ให้รอก่อน กำลังจัดระบบเทคโนโลยี รัฐบาลนี้พูดอะไรแล้วทำ แต่บางที บางครั้ง ก็มีอุปสรรค คนนั้นขวางนิด ขวางหน่อยสะกิดนิดสะกิดหน่อยเราฟัง ฟังเสร็จทำต่อไป ไม่สน เพราะเราคิดดีแล้วว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อประชาชน เมื่อคิดดีแล้ว เรารับฟัง แต่ไม่วอกแวก ทำแน่นอน

นายทักษิณ​ กล่าวอีกว่า วันนี้นายกฯอิ๊งค์ ไปประกาศเรื่องบ้านเพื่อคนไทย ปรากฏว่ามีคนสนใจ 31 ล้านคน จองมาเป็นแสน ซึ่งโครงการแรกเพิ่งสร้าง 7000 ยูนิต ซึ่งเราก็จะขยายการสร้างให้เร็วที่สุดปีนี้ 100,000 ยูนิต ปีหน้าอีก 100,000 ยูนิต แต่ก็ยังไม่พอ ต้องเป็น 1,000,000 ยูนิต วิธีการคือ คนไทยอยากมีบ้าน จบการศึกษามาแล้ว มีเงินเดือนแล้ว ต้องไปเช่าบ้านอยู่ จะไปซื้อบ้านเงินดาวน์ก็ไม่ไหว บางทีแบงก์ก็ไม่อนุมัติ เงินดาวน์ก็ไม่พอ ซึ่งตนคิดไว้ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยว่า ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะถ้ามีคอนโดให้อยู่ ต่อไปก็นั่งรถไฟฟ้า 20 บาทสาย แล้วก็มาขยายถึงรถไฟต่างจังหวัดด้วย เพื่อให้คนได้ใช้บริการรถไฟเยอะๆ ซึ่งเหล่านี้สร้างแล้วก็ไม่ต้องให้ดาวน์ รัฐบาลก็ไม่เป็นหนี้ ธนาคารต้องมาช่วยให้ประชาชนผ่อนถูกๆ ไม่ต้องเงินดาวน์ กระเป๋าใบเดียวเข้าไปอยู่ได้เลย มีเฟอร์นิเจอร์พร้อม แอร์พร้อม มีส้วมไฟฟ้าที่ต่อไปใช้มือล้างเอง

“โครงการดีๆเรื่องดีๆ จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตราบใดที่เพื่อไทยยังเป็นที่ไว้วางใจ ตราบใดที่ทักษิณ ยังมีชีวิตอยู่ คิดแต่เรื่องจะให้ประเทศอย่างเดียว แต่ทักษิณต้องการกำลังใจ เห็นแบบนี้ไม่ได้เข้มแข็งอะไรมากมาย ต้องการกำลังใจ ดังนั้นเลือกตั้งทุกครั้งเวลาเพื่อไทยส่งทักษิณไปหาเสียง ช่วยเลือกหน่อยเถอะ แล้วเลือกแบบไม่เกรงใจ เลือกแบบให้ถล่มทลาย เลือกทั้งทีเลือกทั้งทีม ช่วยเลือกหน่อยนะครับ ถือเป็นกำลังใจให้ทักษิณ มาบึงกาฬทั้งที มาขอคะแนนเอาหน่อยนะ แล้วไปบอกเพื่อนฝูงญาติพี่น้องด้วย เลือกเบอร์ 1 ให้ทักษิณหน่อยเถอะ”

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้หลายๆอย่างที่ปล่อยผ่าน เลยนานมา ก็ต้องกลับมาแก้ไข ตนยังพอไหว อายุ 75 เดินเหินยังพอได้ ยังคิดนู่นคิดนี่ให้พี่น้องได้อยู่ ขอเพียงพี่น้องอย่าลืมผม 17 ปีอยู่เมืองนอก ไม่ลืมกลับมาแล้วจะลืมได้ยังไง ต้องเอาตนไปใช้ ตราบใดที่ยังมีแรงอยู่ทำงานได้อยู่ต้องเอาผมไปใช้ ตอนนี้ก็ 75 แล้วเหลือเวลารับใช้พี่น้องได้อีก 40 ปีเอง ตนให้กำลังใจตัวเองได้มีแรง

นายทักษิณ กล่าวว่า ตนมาเมื่อวานนี้ที่ จ.นครพนม ปราศรัย 3 เวทีและมานอนที่ จ.บึงกาฬ เมื่อเช้าต้องยอมรับว่าไข่กระทะที่นี่อร่อย อยากให้ตนกลับมากินไข่กระทะอีกหรือไม่ กลับมาผมกลัวอาย พอมาถึงแล้วนั้นอุตส่าห์หาเสียงให้อบจ. แต่ถ้าสอบตกตนก็อาย ต้องเอาให้ชนะ สู้ให้ขาด ตนจะได้ไม่อายเมื่อกลับมาเยี่ยมและกลับมาเยี่ยมมาวันนั้น พี่น้องจะบอกว่าดีใจที่ยาเสพติดหายไปแล้ว ราคายางมันต้องดีขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

นายทักษิณ กล่าวว่า วันวันนึงตนคิดแต่เรื่องบ้านเมือง ยังไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย อย่างวันนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดี วันจันทร์นี้ อย่างเป็นทางการ นโยบายของทรัมป์นั้นเป็นนโยบายที่กระทบทั้งโลกในทางบวกและลบ สิ่งหนึ่งที่ทรัมป์ จะยอมรับคือเรื่องเงินคริปโตเคอร์เรนซี อย่างพวกบิทคอยน์ ที่มีหลักทรัพย์รองรับ ทรัมป์จะรับตรงนี้ ข้อดีคือถ้าเราตามทัน เราจะสามารถเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะวันนี้พี่น้องชนบทเงินไม่พอ เงินหาได้ถูกดูดเข้ากรุงเทพฯ เงินไม่ได้อยู่ในบริเวณนี้ ตนอยากให้พี่น้องกลับมาต่างจังหวัด ผู้ชายก็หล่อขึ้น ผู้หญิงก็สวยขึ้น ไม่ต้องเสริมสวยมีตังค์ก็หล่อก็สวยเอง แต่เวลามันไม่มีตังค์ หน้าแห้งแก้มไหม้

ดังนั้นต้องเติมเงินเข้าในระบบ ซึ่งกำลังคิดแก้ไขปัญหาอยู่ว่าคนที่เปิดร้านขายของในต่างจังหวัดจะทำให้เงินหมุนในต่างจังหวัดอย่างไร ก็กำลังหาวิธีคิดอยู่ ตนอยากเห็นต่างจังหวัดเติบโตมีตึกสูงๆอยู่ พี่น้องมีงานทำไม่ใช่ว่า ทำไร่ไถนาซะอย่างเดียว ลูกหลานเรียนหนังสือจะได้มีกำลังใจว่าเรียนจบมาแล้วมีงานทำ มีเงินเดือนใช้ดูแลพ่อแม่ได้นี่คือสิ่งที่มันต้องเกิดขึ้น ตนยังมีเวลาจะคิดว่าจะช่วยทำให้เต็มที่

นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า พี่น้องแดดออก ก็ยัง เอาผ้าคลุมหัว อย่างงี้รักตาย ก่อนจะถามว่าหนาวไหม หนาวก็ไม่หนาว ดีจัง แต่ดี อากาศดีมาก PM2.5 ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เพราะพัดไปทางใต้ กรุงเทพฯ จะรับเยอะหน่อย วันก่อนคุยกันว่าการเผาอ้อยเผาหนักมาก ปล่อยฝุ่น PM2.5 โรงงานอ้อยมารับรับผิดชอบด้วย เพราะชาวอ้อยเป็นลูกไล่ของโรงงานอ้อยเท่านั้น เพราะฉะนั้น ต้องมารับผิดชอบกันด้วย วันนี้สังคมต้องรับผิดชอบ ต้องไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน แต่ทำเยอะยังไงก็ต้องขอเวลามาเยี่ยมพี่น้องที่บึงกาฬ วันนี้ดีใจการต้อนรับอบอุ่นมาก ขอบคุณพี่น้องอีกครั้ง สิ่งที่บอกจะทำให้ดีที่สุด เร็วที่สุด ตนเองต้องการให้ท้องถิ่นเชื่อมโยงกับรัฐบาล และสิ่งที่ นายกฯ อิ๊งค์ พยายามทำเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ คือ เพิ่มความชำนาญให้กับพี่น้องประชาชนให้มีรายได้ดีขึ้นกว่าการเป็นลูกจ้างขั้นต่ำ

“ขอกันอีกครั้ง คราวที่แล้ว สส.บึงกาฬ เพื่อไทย ได้ที่เดียว ขี้เหนียวจังเลย คราวหน้าอย่าขี้เหนียวนะ ขอเพื่อไทย 3 เขตและครั้งนี้ทดลองก่อน คนบึงกาฬใจกว้าง เลือกเบอร์หนึ่ง เลือกสจ.ให้เป็นทีมเดียวกัน ขอบคุณที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นและจะมาอีก ในวันที่พี่น้องบอกว่ายาเสพติดได้รับการปราบปรามแล้ว ผมจะมารับรางวัล ถ้ายาเสพติดเกลี้ยง หรือเกือบเกลี้ยงจะขอมารับรางวัลไข่กระทะ 1 ชุด เศรษฐีชาวบึงกาฬทั้งหลายเลี้ยงไข่กระทะสักชุด ก็น่าจะได้นะ คนบึงกาฬคงลงขันกันไหว เพราะเป็นเศรษฐีชาวสวนยางทั้งนั้น” -313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]