“ประเสริฐ” ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ร่วมมือปราบภัยออนไลน์

กทม.18 ม.ค.-ไทย นำอาเซียน ขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัล “ประเสริฐ” เผยผลสำเร็จประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ร่วมมือปราบภัยออนไลน์-สร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ เดินหน้าสู่อนาคตสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างยั่งยืน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล (ASEAN Digital Ministers Meeting: ADGMIN) ครั้งที่ 5 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 17 มกราคม 2568 โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่เจรจาร่วมประชุมอย่างคับคั่งว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืน โดยที่ประชุมได้หารือและรับรองประเด็นสำคัญ ได้แก่ การป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ : ที่ประชุมรับรองรายงานการสำรวจการหลอกลวงออนไลน์ในอาเซียน (พ.ศ. 2566–2567) และข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินงานระดับชาติและภูมิภาค พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนในการจัดการปัญหานี้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะปัญหาการหลอกลวงที่มีต้นตอจากประเทศแนวเขตชายแดน เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์และการใช้โซเชียลมีเดีย เป็นเครื่องมือในการโกงเงิน ที่มักพบการเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำผิดในประเทศใกล้เคียง เช่น กัมพูชา เมียนมา และลาว การหารือจึงให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ และการเสริมสร้างศักยภาพเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกยังได้เสนอการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าร่วมกัน เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการหลอกลวงในภูมิภาค


นายประเสริฐยังระบุถึงความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ : รับทราบการจัดตั้งศูนย์ ASEAN Cert ณ สิงคโปร์ และรับรองเอกสาร ASEAN Checklist on Cyberspace Norms เพื่อสร้างมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาค โดยมีเป้าหมายลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานประสานงานเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ด้านไซเบอร์ในลักษณะเร่งด่วน

ส่วนเศรษฐกิจดิจิทัล : สนับสนุนการจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) เพื่อเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านดิจิทัล และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค


ขณะที่ธรรมาภิบาลข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ : รับรองแผนปฏิบัติการสำหรับ Global CBPR และเอกสารธรรมาภิบาล AI ที่ครอบคลุมถึง Generative AI เพื่อส่งเสริมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในภูมิภาคอย่างรับผิดชอบ โดยเน้นความโปร่งใส และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ พร้อมผลักดันการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในภูมิภาค

สำหรับกรณี​5G และการเชื่อมโยง : รับทราบความก้าวหน้าการใช้งาน 5G และหารือแนวทางลดค่าบริการข้ามแดน พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการควบคุมซิมการ์ด เพื่อป้องกันการหลอกลวงข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะการใช้งานซิมการ์ดที่ไม่ได้ลงทะเบียนในประเทศแนวเขตชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวข้ามแดนบ่อยครั้ง เช่น ไทย – กัมพูชา และ ไทย – เมียนมา

ปฏิญญาดิจิทัลกรุงเทพ : รับรองปฏิญญาฉบับนี้เพื่อกำหนดทิศทางอนาคตดิจิทัลของอาเซียนที่เน้นความมั่นคงปลอดภัย ไร้รอยต่อ และครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเน้นการขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโอกาสทางดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียม


นอกจากนี้การประชุมครั้งนี้ยังได้หารือกับคู่เจรจา เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย สหรัฐอเมริกา และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โดยมุ่งส่งเสริมมาตรฐานดิจิทัลและความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นอกจากนี้ยังเน้นย้ำความสำคัญของการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเพื่อต่อสู้กับการหลอกลวงออนไลน์ในระดับสากล รวมถึงการพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่สามารถใช้ร่วมกันได้ในภูมิภาค

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา และไทยกับฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัลในระดับภูมิภาค โดยเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่ การพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล ธรรมาภิบาลภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ และการป้องกันและการต่อสู้กับปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ด้วย

สำหรับ MOU ไทย-กัมพูชา เป็นความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ เช่น บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล สินค้าและบริการของรัฐบาลดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล และความปลอดภัยออนไลน์ รวมถึงการป้องกันการหลอกลวงทางดิจิทัล

ขณะที่ MOU ไทย-ฟิลิปปินส์ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความเข้าใจซึ่งกันและกัน การส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ธรรมาภิบาลภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ยุทธศาสตร์รัฐบาลดิจิทัลและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอุบัติใหม่ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง IoT และข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญ และการฝึกอบรมร่วมกัน

ทั้งนี้การประชุม ADGMIN ครั้งที่ 6 จะจัดขึ้นที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปี 2569 ซึ่งประเทศสมาชิกมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือเพื่อสร้างภูมิภาคดิจิทัลที่เข้มแข็ง และยั่งยืนอีกด้วย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน