กรุงเทพฯ 16 ม.ค.- ผบช.สอท. เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋น “นายกฯ อิ๊งค์” มีฐานอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เร่งสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกว่า ขณะนี้กำลังรอการประสานข้อมูล แต่การหลอกลวงลักษณะนี้คือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลายคน ฝากเตือนประชาชนว่าการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการข่มขู่ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกว่าเป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ รวมถึงใช้เสียงในรูปแบบเอไอ ขอให้ประชาชนระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมเหล่านี้
ส่วนกรณีของนายกรัฐมนตรี แสดงว่ามีข้อมูลส่วนตัวหลุดออกไปใช่หรือไม่ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า ลักษณะนี้ปลอมเป็นเสียงของบุคคลที่อ้างว่ารู้จักมาหลอกลวงเป้าหมาย ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีฐานปฏิบัติการที่ประเทศเพื่อนบ้าน จะหว่านเป้าหมาย และใช้การโทรหลอก ข้อมูลของบุคคลเป้าหมายก็เป็นข้อมูลที่สามารถหาได้บนระบบออนไลน์ในปัจจุบัน เช่น กรณีที่มีอดีตผู้บังคับบัญชาท่านหนึ่งที่เป็นมือปราบก็ออกมายอมรับว่าพลาดท่าตกเป็นเหยื่อกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เสียง เอไอหลอก อย่างไรก็ตามยืนยันว่า หน่วยงานปราบปรามทั้งรัฐบาลและ สอท. ทำอย่างเต็มที่ในทุกมิติ แต่อาจมีประชาชนอีกหลายคนที่รู้ไม่เท่าทัน
ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเสนอให้มีการดำเนินการตัดสัญญาณแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของประเทศเพื่อนบ้าน พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า เรื่องนี้มีความคืบหน้าเราได้มีการดำเนินการทันที โดยร่วมกับหลายหน่วยงานเปิดปฏิบัติการได้ในระดับหนึ่ง แต่มีความยากลำบาก เมื่อเรามีการดำเนินการพวกนี้จะมีการลักลอบกระทำความผิดอีก จากความทันสมัยของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน
ส่วนกรณีของนายกรัฐมนตรีจะต้องมีการเพิ่มการป้องกันด้านต่าง ๆ หรือไม่ นั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า คงต้องมีการตรวจสอบ สอบสวนสืบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบถึงแก๊ง แต่เรามีข้อมูลอยู่แล้วส่วนหนึ่งที่ฐานปฏิบัติการอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน
นายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับหรือขีดเส้นตายในเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอาชญากรรมออนไลน์ เรามีการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นมาตลอด ทั้งการปราบปรามอย่างจริงใจและจริงจัง รวมถึงการป้องกัน อย่างไรก็ตามเราต้องดูหลายมิติ เพราะไม่ใช่ปัญหาของไทยเพียงประเทศเดียว จะเห็นว่าการกระทำความผิดเป็นรูปแบบองค์กรอาชญากรรมมีผู้ร่วมกระทำความผิดหลายชาติ
ส่วนล่าสุดทางเมียนมามีการพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ได้ลงทุนในเมียนมาในเรื่องนี้นั้นถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ พล.ต.ท. ไตรรงค์ มองว่า เป็นสัญญาณที่ดี และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลวันนี้ ก็จะมีการพูดคุยยกระดับ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์
ทั้งนี้ การประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องนี้นั้น พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า เป็นระดับรัฐบาลและรัฐมนตรีที่จะดำเนินการ ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว .314.-สำนักข่าวไทย