“ศึกษิษฏ์” ชี้ไม่ต้องกังวล “ฟอกเงิน-ทุนสีเทา” สถานบันเทิงครบวงจร

ทำเนียบ 15 ม.ค.- “ศึกษิษฏ์” ย้ำร่างกฎหมาย “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ผ่านความเห็นประชาชาชนแล้ว แต่ยอมรับความเห็นต่าง ชี้ไม่ต้องกังวล “ฟอกเงิน-ทุนสีเทา” เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนมืออาชีพ ถูกกำกับโดยโลก เผยสเปกเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท หวังสร้างการลงทุน-ยกระดับท่องเที่ยวไทย ระบุมีมาตรการป้องกันติดการพนัน ขึ้น Negative list คนในครอบครอบครัวห้ามเข้า ขณะที่ค่าเข้ากาสิโน รอ คกก.เคาะ ขั้นต่ำ ป้องกันกลุ่มเปราะบาง แจงออก พ.ร.บ.ใหม่ เหตุกฎหมายพนันไทยล้าหลังไม่ครอบคลุม โวนักลงทุนตั้งตารอหลังทั่วเอเชียมีหมดแล้ว


นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนส่วนหนึ่งออกมาคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยอมรับว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการพนันได้ 100% ซึ่งมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันพบว่า มีคนไทยออกไปเล่นการพนันตามประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจไม่ใช่การถูกกฎหมายเลยทีเดียว และยังเป็นเรื่องสีเทา ส่งผลให้เงินเหล่านี้หลุดออกไปนอกระบบ และไปก่อตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงประชาชน แต่ถ้าประเทศไทยมีสถานบันเทิงครบวงจรจะสามารถดึงเม็ดเงินเหล่านี้กลับมายังประเทศไทยได้ และมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

นายศึกษิษฏ์ ยังยกตัวอย่าง ประเทศสิงคโปร์ที่สามารถนำเงินจากการเก็บค่าใบอนุญาต (License) เพื่อมาเป็นรางวัลนำจับในการพนันผิดกฎหมายได้ และพบว่า การก่ออาชญากรรมลดลง พร้อมย้ำว่า เงินที่ถูกเล่นตามแนวชายแดนที่มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งใบอนุญาตจะสามารถช่วยลดปัญหาการพนันได้ และนอกจากเป็นรางวัลนำจับแล้ว ยังตั้งโครงการบำบัดการติดพนันด้วย ซึ่งหลายประเทศทำกัน


ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นแหล่งฟอกเงินนั้น นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า ในร่าง พ.ร.บ.กำหนดไว้ว่า การลงทุนจะต้องมีเงินขั้นต่ำ 1 หมื่นล้านบาท และการลงทุนจะต้องเป็นขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่า สังคมมีข้อกังวลในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รัฐบาลจึงบอกว่า ควรจะต้องดึงผู้ประกอบการที่ดูแล และกำกับในระดับโลก ซึ่งจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ถูกกำกับโดยประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ในพื้นที่ลาสเวกัส, มาเก๊า และสิงคโปร์ ดังนั้นบริษัทเหล่านี้จะกลัวมากกว่า เพราะไม่สามารถมาสร้างความเสียหายในประเทศไทยได้ โดยหากมีปัญหาการฟอกเงินในไทย มีการติดการพนันส่งผลกระทบต่อสังคม บริษัทเหล่านี้อาจจะต้องถูกถอนใบอนุญาต ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่รัฐบาลบอกว่า การลงทุนในรอบแรก ที่เป็นสิ่งใหม่ประเทศไทยจึงต้องนำบริษัทที่มีประสบการณ์ ที่เคยทำงานมาแล้ว และสามารถบริหารจัดการการฟอกเงิน และ บริหารหนี้ติดการพนันได้ ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบที่มีการป้องกัน และมีกฎเกณฑ์ ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุม

ขณะที่มาตรการการป้องกันกลุ่มจีนสีเทา เนื่องจากมีความสนใจในเรื่องนี้นั้น นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่าเราจะมีมาตรการ ตั้งแต่การขออนุมัติ เมื่อมีการจัดตั้งสำนักงานที่ดูแลด้านนี้โดยตรง ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ก็จะต้องยื่นแผนประกอบการลงทุน ระบุรายละเอียดผู้ถือหุ้นเป็นใคร ดังนั้นก็จะตรวจสอบได้ว่าใครคือ ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีระบบที่ระบุอยู่ใน พ.ร.บ.ว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต้องแจ้งให้กับคณะกรรมการนโยบายทราบ พร้อมย้ำว่า จะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึงผู้ถือหุ้น และบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกก็ให้ความสนใจ ก็จะไม่เสี่ยงในเรื่องเหล่านี้ เพราะหากเกิดความเสียหายจะส่งผลกระทบต่อบริษัท ทำให้รัฐบาลคิดว่า แนวทางในการ ตามที่คณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้ ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพมากทั้งด้าน การดึงดูด, การลงทุน และการกำกับดูแล

ส่วนมีการตั้งเป้าว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายในปี 2572 นั้น นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า ตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุ เข้าใจว่า จะเป็นการเปิดให้มีการเริ่มลงทุน และเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นความตั้งใจไว้เช่นนั้น โดยขณะนี้ในเรื่องของกฎหมายหากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเสร็จ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงในหลักการ ก็จะสามารถส่งเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไปได้ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงในหลักการก็ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ถือว่า เรื่องนี้ทุกพรรคให้การสนับสนุน


ทั้งนี้มองว่าหากร่าง พ.ร.บ. เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ แล้ว จะถือเป็นโอกาสให้ผู้แทนของประชาชนได้พิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบ และให้มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่า เป็นส่วนหนึ่งในการรับฟังความเห็นเพื่อให้กฎหมายดังกล่าวดีขึ้น

สำหรับกรณีที่มีการเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติ เนื่องจากเรื่องนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น นายศึกษิษฏ์ เห็นว่า เรื่องนี้มีการรับฟังความเห็นไปแล้ว และผ่านการโหวตจากสภานิติบัญญัติแล้ว ซึ่งก็ถือว่า เป็นตัวแทนของประชาชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็พร้อมรับข้อสังเกตจากประชาชน ซึ่งไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย และมองเป็นประเด็นทางการเมืองมากเกินไป แต่อยากให้มองเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่า ซูร่วงนี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ และยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยที่จะมาพร้อมกับมาตรการการป้องกันผลกระทบทางสังคมที่บริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่แล้ว, การฟอกเงิน, และจีนเทา ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว โดยที่ส่วนตัวเข้าใจว่า จะมีคนเห็นต่าง

นายศึกษิษฏ์ ยังระบุอีกว่า หากใครที่ไม่อยากให้คนในครอบครัวเข้ามา ก็สามารถส่งรายชื่อให้เป็น Negative list ได้

ส่วนการกำหนดค่าเข้า 5,000 บาท นายศึกษิษฏ์ชี้แจงว่า เป็นการระบุในบัญชีแนบท้าย ซึ่งเป็นเพียงเพดานอาจต่ำกว่านั้นได้ ซึ่งต้องรอดูผลการศึกษา หากกฎหมายผ่านจะมีการจัดตั้งสำนักงานว่า ค่าเข้าควรจะเป็นเท่าไหร่ หรือตั้งที่ใด ค่าอนุญาตอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะมีจุดสมดุล เช่น ในประเทศสิงคโปร์ เก็บค่าเข้า 10,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นการคำนวณโดยใช้ค่าตั๋วเครื่องบิน ที่จะเดินทางไปยังกาสิโนที่ใกล้ที่สุด ส่วนแนวคิดของเราจะเป็นอย่างไร ยังไม่ได้มีการคิดออกมา รวมถึงจุดสมดุลในการป้องกันทางสังคม ซึ่งหากใช้แนวคิดเดียวกันกับสิงคโปร์ อาจจะคิดในลักษณะที่คนไทยนั่งรถตู้ไปกาสิโนปอยเปต เพื่อแลกกับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ

นายศึกษิษฏ์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องค่าเข้าแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ เพื่อป้องกันกลุ่มเปราะบางเข้าไปเล่น ส่วนราคาเท่าไหร่จะเหมาะสม จะขึ้นอยู่กับสำนักงานที่จัดตั้งเป็นผู้พิจารณา

ส่วนสถานที่ตั้งจะอยู่ที่ใดกรรมาธิการ เคยศึกษาในเบื้องต้นว่า ควรจะอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติ และมีการคมนาคมขนส่งที่พร้อม และสถานที่เที่ยวอื่นซึ่งจะเป็นสมดุลของ Demand และ Supply ว่ารัฐ และผู้ประกอบการต้องการที่ใด โดยสำนักงานจะต้องมีการศึกษาอีกครั้งว่า พื้นที่ใดต้องการ Man-made destination (สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น) อย่างไร

ส่วนวางไทม์ไลน์กฎหมายไว้เป็นเมื่อใดนั้น นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า ตนยังไม่มั่นใจในไทม์ไลน์ แต่อยากให้ทุกอย่างรอบครอบ และให้เวลาคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุงกฎหมายให้เต็มที่ พร้อมย้ำว่าความเห็นของกฤษฎีกาเป็นความเห็นที่ดี เพราะกฎหมายเป็นกฎหมายใหม่ และเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับประเทศไทย จึงจำเป็นต้องให้เวลาในการรวบรวม และปรับปรุง พ.ร.บ. ทั้งนี้ตั้งใจให้เวลาเป็นไปตามที่ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุว่า จะสามารถเริ่มได้ในปี 2572 แต่จะพยายามเร่งให้เหมาะสม

ส่วนเหตุใดไม่ใช้ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ที่มีอยู่แล้ว นายศึกษิษฏ์ อธิบายว่า เราเป็นอะไรที่ต่างกันเนื่องจาก พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งเก่ามาก ไม่ทันกับรูปแบบใหม่ และสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมากกว่าแค่การพนัน เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ มีอะไรบ้างอย่างที่ต้องปลดล็อก และมีมาตรฐานความปลอดภัย และเปิด 24 ชั่วโมงได้หรือไม่ ซึ่งเป็นกรณีปลีกย่อย จึงจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. เป็นพิเศษ

นายศึกษิษฏ์ยืนยันว่า เท่าที่คุยมีผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาสอบถามถึงข้อกฎหมาย และทุกคนก็ตั้งตารอว่า เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมี เพราะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมีเกือบทุกประเทศแล้ว ส่วนลูกค้าที่จะใช้บริการ จัดเน้นที่คุมต่างประเทศเป็นหลัก โดยยกตัวอย่างจากโมเดลของสิงคโปร์ เจาะกลุ่มไปที่ลูกค้าวีไอพี ซึ่งจะต้องไปพูดคุยรายละเอียดว่า หากต้องการดึงดูดลูกค้าเหล่านี้เข้ามาการเก็บภาษีจะต่างจากลูกค้าธรรมดาอย่างไร พร้อมยืนยันว่า กลุ่มลูกค้าที่มาไม่ใช่คุ้มค่าทั่วไปอยู่แล้ว

นายศึกษิษฏ์ เปิดเผยถึงนักลงทุนว่า เป็นเรื่องของการแข่งขันทุกกลุ่มที่จะยื่นโครงการเข้ามาในคณะกรรมการซึ่งมีโอกาสเท่ากัน ซึ่งปัจจุบันเรามีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ใช้ดึงดูดกลุ่มนักลงทุน พร้อมกับยอมรับว่า มีนักลงทุนระดับโลกหลายเจ้าให้ความสนใจ .-314- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย