“วิโรจน์” จี้ กกต. ตีปี๊บปลุกคนตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต. 14 ม.ค.-“วิโรจน์” จี้ กกต.ส่งหนังสือขอโรงงาน-สถานประกอบการทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกลูกจ้างออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ซัด กกต.ออกเอกสารราชการ 1 หน้า A4 ไม่พอ กระวีกระวาด ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ ควรตีปี๊บกระตุ้น ปลุกคนตื่นตัวหย่อนบัตร

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคพรรคประชาชน ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อขอให้ออกหนังสือถึงโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ให้อนุญาตลูกจ้างลาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก หรือสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า พรรคประชาชนได้มีข้อสังเกตว่าการที่ กกต.จัดการเลือกตั้ง อบจ.ให้เป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 ซึ่งในวันดังกล่าวสถานประกอบการรวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งก็มีการทำงานในวันเสาร์ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคทำให้ประชาชนไม่ได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่หลายคนมีความประสงค์ที่จะออกมาใช้สิทธิ


โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 6 พ.ย.2567 กกต.ได้มีหนังสือชี้แจงต่อสาธารณชน ว่าจะมีหนังสือแจ้งไปยังสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด สถานประกอบการ และห้างร้านต่างๆ ให้อำนวยความสะดวกกับลูกจ้างพนักงานให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. แต่เท่าที่ตรวจสอบในขณะนี้ก็ยังไม่มีหนังสือยังไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ จากทาง กกต. ตนจึงมายื่นหนังสือต่อเพื่อเตือน กกต.ให้ทำหนังสือรีบประสานและเน้นย้ำกับผู้ประกอบการต่างๆอำนวยความสะดวกให้กับลูกจ้างออกไปใช้สิทธิ

“ถ้า กกต.ไม่มีความกระตือรือร้น หรือกระตุ้นให้นายจ้างช่วยอำนวยความสะดวกต่อลูกจ้าง ก็มีความกังวลว่าผู้ที่ออกมาใช้สิทธิจะน้อยกว่าที่ควรจะเป็น สุดท้าย กกต.ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ก็จะถูกสังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ ซึ่งหลายๆ ครั้ง กกต.ก็มักจะให้เหตุผลว่า ในมาตรา 117 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ได้กำหนดว่าห้ามนายจ้างขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท แต่โลกแห่งความเป็นจริงจะมีจะมีลูกจ้างคนไหนจะไปแจ้งความเอาผิดนายจ้าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้” นายวิโรจน์ กล่าว


เมื่อถามว่าทราบความคืบหน้าเรื่องที่เลขาฯ กกต.ได้ส่งหนังสือถึงปลัดกระทรวงแรงงาน และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอความร่วมมือให้ลูกจ้างสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.2568 โดยตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.2568 แล้วหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็เป็นการประสานราชการต่อราชการ แต่ตนเห็นว่า กกต. ควรทำหนังสือประสานตรงไปยังผู้ประกอบการต่างๆ เลย และอาจจะอธิบายมาตรา 117 ด้วยว่า นายจ้างมีความจำเป็นต้องอำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 เช่น อาจจะไม่นับเป็นวันลาหรือมีมาตรการใดๆ จูงใจ หรือสนับสนุนให้พนักงานในสังกัดของตนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ต้องทำงานทำหน้าที่ให้มากกว่านี้ ไม่ใช่แทงหนังสือไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแค่นั้นแล้วจบ คิดว่าต้องทำทั้งระบบ และกระวีกระวาดมากกว่านี้

เมื่อถามว่า การที่ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานราชการด้วยกันเองยังไม่เพียงพอในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและกระตุ้นให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าหน่วยงานอาจจะรู้ แต่ถ้าไปถามห้างร้าน สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกที่มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก ซึ่งเท่าที่ สส.ของพรรคประชาชนไปสอบถามก็ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการ อาจจะรู้บ้างคือรู้ด้วยตัวเอง รู้จากบริษัทบอกต่อๆ กันมา แต่ไม่ได้มีหนังสือตรงจากหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีหนังสือตรงจาก กกต.เลย และสิ่งสำคัญที่สุด

“สิ่งที่ กกต.ทำได้มากกว่าการทำหนังสือคือ การทำสื่อประชาสัมพันธ์ออกมา ที่ต้องมีน้ำหนักในการสื่อสารอย่างกว้างขวาง ซึ่งเรายังไม่เห็นการกระทำนั้นอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่โพสต์ๆ เดียวในเฟซบุ๊ก หรือทำหนังสือ 1 หน้า A4 ถึงกระทรวงแรงงาน หรือกรมกองที่เกี่ยวข้องแล้วคิดว่าจบ อย่างนั้นเท่ากับว่า กกต.ก็คำนึงถึงแค่ตัวเองได้ทำอะไร ออกประกาศเป็น A4 1 แผ่นก็พอแล้ว แต่ผมว่ามันไม่พอ มันต้องคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ เช่น ผู้ประกอบการในวงกว้าง ภาคประชาชนในวงกว้างทราบดีว่าในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568 ผู้ประกอบการ ห้างร้านต่างๆ ต้องพร้อมอำนวยความสะดวกและเปิดให้ประชาชน ซึ่งเป็นพนักงานนั้นไปใช้สิทธิ์ เรายังไม่เห็นฝ่ายทรัพยากรบุคคลในการวางแผนสลับกะการทำงานว่าเปิดให้พนักงานไดลาไปเลือกตั้งโดยไม่นับเป็นสิทธิ์การลากิจ เรายังไม่เห็นภาพแบบนี้ในวงกว้าง” นายวิโรจน์ กล่าว


เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะไปติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงแรงงาน และอุตสาหกรรมที่ดูแลสถานประกอบการ และแรงงานโดยตรง หรือไม่ว่าดำเนินการอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลังจากวันนี้จะต้องมีการติดตามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานที่มาสนธิกำลังกันได้ดำเนินการกระตุ้น หรือแจ้งให้สถานประกอบการทราบหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าหัวเรี่ยวหัวแรงหลักคือ กกต. ซึ่งคาดหวังว่า กกต.จะทำสื่อประชาสัมพันธ์ออกมาในกว้าง เพราะคนที่ตัดสินใจเลือกในวันเสาร์ ก็เป็น กกต.เอง ดังนั้น กกต.ก็พึงที่จะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว กกต.จะอ้างว่าไม่ทราบว่า สถานประกอบการ หรือโรงงานหลายแห่งทำงานในวันเสาร์ไม่ได้ คิดว่าเรื่องนี้ประชาชนก็น่าจะคาดการณ์ได้อยู่แล้ว แต่พอ กกต.ไปคาดการณ์เชิงลบว่าการออกมาใช้สิทธิอาจจะน้อย แต่กลับไม่กระวีกระวาดในการทำสื่อเข้าถึงประชาชนและผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง ยังไม่เห็น กกต.พูดถึงมาตรา 117 รวมถึงไม่เห็นการขอความร่วมมือผู้ประกอบการอย่างจริงจัง ไม่เห็นการขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์เลย ย้ำว่าถ้าเป็นไปได้กกต.ควรทำหนังสือตรงไปยังสถานประกอบการทุกแห่ง และขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้

นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงการทำงานของ กกต.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบจ.ว่า อบจ.เป็นการบริหารในส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวพันโดยตรงกับการพัฒนาสาธารณูประโภค และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จริงๆ ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญ และงบประมาณที่ อบจ.ได้รับและมีสิทธิในการบริหารจัดการหลายที่เป็นเม็ดเงินมหาศาล อย่างที่จังหวัดจันทบุรี 741 ล้านบาทต่อปี 4 ปีประมาณ 3 พันล้านบาท แต่ยังไม่เห็นบทบาท กกต.ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้อย่างมากเพียงพอ ไม่มีความกระวีกระวาดที่อยากเห็นการมาใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปรากฎการณ์ เหมือนกับว่า เรารู้สึกและกังวลการทำงานของ กกต. จะเหมือนหน่วยงานที่ออกกระดาษ A4 ไปแล้วบอกว่าทำไปแล้ว แต่ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ หรือผลสัมฤทธิ์ที่ควรจะเป็นคือ ประชาชนตื่นตัว นายจ้าง สถานประกอบการให้ความร่วมมือ มีการตื่นตัวร่วมกัน ตนอยากเห็นท้องถิ่นพัฒนาจากการเลือกตั้ง อบจ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]