“อนุทิน” มอบนโยบายผู้ว่าฯ 14 จังหวัดภาคใต้

สงขลา​ 9 ม.ค.- “อนุทิน” มอบนโยบาย 14 จังหวัดภาคใต้ ย้ำบทบาทผู้ว่า CEO ร่วมมือเอกชนและทุกภาคส่วน พัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และมอบนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสงขลา ร่วมประชุม ณ โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายอนุทิน กล่าวว่า ภาคใต้ของไทยเป็นพื้นที่มีศักยภาพสูง ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการพัฒนาทรัพยากร แต่ก็ยังมีปัญหาและความท้าทายที่ต้องเผชิญ อาทิ ปัญหาความมั่นคง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่สมบูรณ์ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยของจังหวัดเข้ามาสนับสนุนการบริหารจัดการความท้าทาย ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามยาเสพติด การให้บริการน้ำประปาดื่มได้ ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ


นายอนุทิน ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ต้องทำงานประสานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนเพื่อสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งพิจารณาสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ หรือการท่องเที่ยว ไม่มีการแบ่งจังหวัดเป็นเมืองหลักหรือเมืองรองอีกต่อไป โดยต้องส่งเสริมให้ทุกพื้นที่เป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าท่องเที่ยว และความสำเร็จอยู่ที่การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนควบคู่ส่งเสริมศักยภาพของจังหวัดให้โดดเด่น

“กระทรวงมหาดไทยเน้นการทำงานที่ทันสมัย “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” เราปรับโครงสร้างการทำงาน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่เหมือน CEO ดูแลเป้าหมายในภาพรวม ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยขับเคลื่อนงานในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1. ด้านความมั่นคง รับผิดชอบการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามยาเสพติด และการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 2. ด้านเศรษฐกิจ รับผิดชอบการแก้ปัญหาความยากจน และส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ 3. ด้านบริหาร รับผิดชอบงานบริการประชาชน โดยเน้นการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ และ 4. ด้านสังคม รับผิดชอบการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และปลูกฝังจิตสำนึกด้านความสามัคคี” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทินยังได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ และนายอำเภอ เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมสื่อสารกับประชาชนเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือ เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้บริหารระดับสูงพร้อมสนับสนุนการทำงานด้วยการร่วมมือกันสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนของพี่น้องประชาชนภาคใต้


ในช่วงท้ายของการประชุม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวเน้นย้ำการปฏิบัติราชการของผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และคนมหาดไทย ต้องนำนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายของคนมหาดไทย คือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขโดยถ้วนหน้า ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งได้ร่วมรับฟังการนำเสนอประเด็นการขับเคลื่อนงานตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยของผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้แทนทั้ง 14 จังหวัด.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.