รัฐสภา 7 ม.ค.-“นันทนา” เผย สว.พันธุ์ใหม่ หนุนร่างแก้ รธน. มาตรา 256 ฉบับพรรค ปชน. ให้มี ส.ส.ร.เลือกตั้ง 100% มายกร่าง รธน.ใหม่ ลดอำนาจ สว.ที่ต้องเห็นชอบ 1 ใน 3 พร้อมจี้รัฐบาลเสนอร่างแก้ไขฯ ประกบ
นส.นันทนา นันทวโรภาส แกนนำสว.พันธุ์ใหม่ พร้อม สว.พันธุ์ใหม่ แถลงจุดยืนและท่าทีในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ว่า รัฐสภากำหนดเข้าคร่าวๆว่าจะพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันที่ 14-15 ม.ค.นี้ ซึ่ง สว.พันธุ์ใหม่ มีมติร่วมกันที่แสดงจุดยืนว่าเราสนับสนุนร่างของพรรคฉบับของพรรคประชาชน แล้วก็เรายินดีที่จะลดอำนาจของ สว. ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่กำหนดให้มีเสียงสว.1ใน3 ในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่า ส.ว.ไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง จึงไม่อาจเรียกว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศได้ พร้อมสนับสนุนให้มีส.ส.ส.ที่มายกร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชนโดยตรง โดยมาจากการเลือก 100% จึงจะได้ รัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นของประชาชนและเจตจำนงของประชาชน จะได้บันทึกในกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงยืนยันสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มี ส.ส.ร.100% มาจากการเลือกตั้ง และแก้ไขการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญของสว. ที่ต้องมีเสียง 1ใน 3 เป็นเสียงข้างมากของรัฐสภา
นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. กล่าวว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาเรื่องที่มา และเนื้อหา ซึ่งถือเป็นการสืบทอดอำนาจ และ สว.ชุดปัจจุบันไม่ได้มีที่มายึดโยงกับประชาชน 100% เพราะมีที่มาที่แปลกประหลาดเป็นกระบวนการเลือกกันเอง ขณะที่ สว.ชุดนั้นมีอำนาจมาก ทั้งตรวจสอบประวัติ รับรอง องค์กรอิสระ โดยที่ไม่ได้มีที่มาจากการยึดโยงประชาชน ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับการแก้ไข โดยการลดอำนาจหรือจะให้ สว.มาจากการเลือกโดยตรงของประชาชน และเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบ ว่าเศรษฐกิจดี ต้องเริ่มจากการเมืองที่ดี และเราจะมีการเมืองที่ดีได้ ต้องมีและเสถียรภาพและมีกติการร่วมกันในสังคมที่เป็นธรรม ต้องไม่มีสถาบันทางการเมืองไหนตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจที่จะทำให้นักการเมืองหรือสถาบันการเมือง หรือผู้แทนที่มาจากเจตจำนำของประชาชนอ่อนแอ
นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กล่าวว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาชนหรือพรรคเพื่อไทย แต่ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่แถลงออกมาดังนั้น อยากจะในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลด้วย.-312.-สำนักข่าวไทย