พบยอดเสียชีวิตบนถนน 10 วันอันตรายหยุดยาวปีใหม่ พุ่ง 8%

กทม. 6 ม.ค. – “นิกร” เผยพบยอดเสียชีวิตบนถนน ช่วง 10 วันอันตรายหยุดยาวปีใหม่ พุ่ง 8% ชี้ขับเร็ว หลับใน หลุดชนต้นไม้ข้างทาง แนะรัฐนำมาถอดบทเรียน


นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา และประธานคณะอนุกรรมการด้านประสานงาน บริหารจัดการ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน ให้สัมภาษณ์ถึง 10 วัน ลดอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2568 ว่าจากที่ได้ติดตามการดำเนินการของรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา โดยปีนี้มีการยืดเวลาจาก 7 วันอันตราย เป็น 10 วัน พบตัวเลขจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถระบุตัวเลขปีที่แล้วเสียชีวิตทั้งหมด 404 ราย ในปีนี้รวม 436 ราย เท่ากับว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ทำให้เห็นว่าภาครัฐพยายามควบคุมอย่างเต็มที่ ไม่ได้ละเลย เอาจริงเอาจังมาก

นายนิกร กล่าวว่า การขยายระยะเวลาเช่นนี้นั้นควรจะขยายต่อไป ถึงแม้ว่าจะพบว่ามีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นที่จังหวัดชุมพร หนักมากในช่วงวันที่ 1-2 มกราคม 2568 มีการเสียชีวิตจากรถบัส ที่อำเภอไชยา จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 ราย อีกกรณีหนึ่งคือรถกระบะชนต้นไม้ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย รวม 12 ราย และจากข้อมูลเชิงลึกในปีนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการเสียชีวิตโดยเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเองโดยที่ไม่ได้ชนกับใครนั้นเยอะมาก และพบตัวเลขที่ออกนอกทางไปแล้วพบว่าเสียชีวิตจำนวนมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น เท่ากับว่าในปีนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการหลับใน นอกด่าน จำนวนเยอะขึ้น แต่เชื่อว่าเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปจำนวนรถมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม จะมีการสรุปในวันที่ 22 มกราคม โดยคณะกรรมการศึกษาเรื่องความปลอดภัยทางถนนของรัฐสภา ที่ตนจะไปเสนอในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบประเด็นว่ารัฐเองทำงานเต็มที่ ดูแลเต็มที่ ด่านตั้งเต็มที่แล้ว ประเด็นหลักคือเราต้องประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนให้ระวังอันตรายของตัวเอง ที่สำคัญคือต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งปีนี้เชื่อว่ามีการพักผ่อนไม่เพียงพอ ง่วง หลับใน ดังนั้น ปีนี้เมาไม่ขับไม่ใช่ประเด็นแรก

นายนิกร กล่าวว่า ในปีนี้ทั้งหมด 10 วัน ประเด็นสำคัญคือขับรถเร็วมาก เป็นลักษณะของการเร่งรีบ และกรณีที่ชนแรงๆ เกิดจากการหลับใน อีกทั้งสภาพถนนพบว่าหลายชีวิตที่เสียไป เกิดจากการชนต้นไม้ข้างทางเยอะมาก บางครั้งเราอาจจะต้องคิดกันใหม่ว่าการปลูกต้นไม้ริมถนนอาจจะดูสวยงามแต่อันตราย เวลารถหลุดออกไปชนต้นไม้ เสียชีวิตจำนวนมากในทุกครั้ง ปีนี้อาจจะต้องสรุปเพื่อถอดบทเรียนแล้วนำมาปรับปรุง และเพิ่มเติมเรื่องการประชาสัมพันธ์เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ในปีหน้าคงหยุดไม่ได้อีก เพราะจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนรถจดทะเบียน เพิ่มจำนวนการใช้ถนนในช่วงหยุดยาวเทศกาล คงต้องตั้งหลักกันใหม่

นายนิกร กล่าวว่า ปีนี้เราขยายเวลาตั้งด่านกันยาวถึง 10 วัน ซึ่งขอสนับสนุน แต่ที่ต้องปรับเปลี่ยนคือบุคลากรที่มาปฏิบัติหน้าที่ในด่าน อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนผลัด เพราะลากยาว 10 วันคงไม่ไหว ดังนั้น ต้องมีการปรับปรุง และขอขอบคุณที่ในปีนี้ทำงานกันอย่างหนัก เอาจริงเอาจังอย่างมากเป็นอย่างยิ่ง ขอฝากขอบคุณทุกคนที่ได้อดตาหลับขับตานอนมาช่วยดูแลกัน.-314-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​