รัฐบาลประกาศ “30 รักษาทุกที่” เต็มรูปแบบ

ทำเนียบ 3 ม.ค.- รัฐบาลประกาศ “30 รักษาทุกที่” เต็มรูปแบบ ด้วยโอกาสของคนไทยนับจากนี้ ต้องมีชีวิตดี สุขภาพดี เริ่มแล้วครอบคลุมทุกพื้นที่ 77 จังหวัดของประเทศไทย


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าสำหรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเปิดโครงการระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย ส่งผลให้ประชาชนอีก 31 จังหวัด สามารถเข้ารับบริการ “30 บาทรักษาทุกที่” เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว ได้ทั่วประเทศไทย นโยบายดังกล่าว ถือเป็นนโยบายเรือธงด้านสาธารณสุขของรัฐบาล ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนทุกคน

โดยผลสำเร็จของการดำเนินการ 30 บาทรักษาทุกที่ในปี 2567 เต็มรูปแบบระยะที่ 3 ใน 46 จังหวัด ประชาชนมาใช้บริการนอกหน่วยบริการประจำตามนโยบายจำนวน 6,150,579 คน ให้บริการ 14,079,514 ครั้ง บริการเจาะเลือดใกล้บ้าน lab Rider 30 รายการ บริการ Telemedicine 1,206,031 ครั้ง บริการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน 93,927 ครั้ง บริการจัดส่งยาทางไปรษณีย์ให้ 573,612 ครั้ง บริการส่งยาโดย Health Rider 379,782 ครั้ง จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้สามารถลดระยะเวลาบริการ จาก 2 ชั่วโมง 7 นาที เหลือเพียง 56 นาที/ครั้ง ลดค่าใช้จ่ายได้ 160 บาท/ครั้ง


นายจิรายุ กล่าวต่อว่า การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับ โดยคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพ ช่วยให้แพทย์เข้าถึงประวัติการรักษาและดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยอำนวยความสะดวกยกระดับโรงพยาบาลเป็น Smart Hospital แล้ว 902 แห่ง และพัฒนาระบบ Telemedicine / AI ทางการแพทย์ ให้ทันสมัย ครอบคลุม มีระบบบริการที่ดี

ทั้งนี้ สปสช. ได้เตรียมความพร้อมระบบและแนวทางการเบิกจ่ายตามนโยบายให้กับหน่วยบริการต่างๆ ในระบบให้กับหน่วยบริการแล้ว นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ สุขภาพดีเลือกได้ใกล้บ้าน ที่ร้านยาและคลินิกเอกชนที่เข้าร่วม เพียงสังเกตสติกเกอร์ 30 บาท รักษาทุกที่ ใช้เพียง “บัตรประชาชนใบเดียว” ก็สามารถเข้ารับบริการได้ทันที

“ในปี 2568 นี้ โอกาสความเท่าเทียมด้านสุขภาพที่ประชาชนจะได้รับเกิดขึ้นจริง โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านการใช้บัตรประชาชนใบเดียว สะดวก รวดเร็ว เพิ่มการเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาล ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร ซึ่งการขยายการให้บริการฯทั่วประเทศ จะทำให้โครงการนี้มีผลกระทบในเชิงบวกต่อประชาชนทุกภาคส่วน ไม่จำกัดอยู่แค่ในบางพื้นที่ ถือเป็นการพัฒนาระบบให้สมบูรณ์และครอบคลุมยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนทุกคน” นายจิรายุ กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมงไทย

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

ตร.-ผอ.รพ.แจงวิสามัญผู้ป่วยคลั่ง ทำตามยุทธวิธี

ตำรวจ-รพ. แถลงเหตุวิสามัญผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ คลั่งกลาง รพ.สุรินทร์ ตำรวจแจงทำตามยุทธวิธี แต่ผู้ป่วยมีอาการคลั่ง ไม่สงบ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อระงับเหตุ ด้าน รพ. เผยเหตุดังกล่าวเกือบเสียคนไข้อีกคน ส่วนกล้องวงจรปิด พบว่าใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยน

เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกสำเร็จรูป อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จนท.ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน