ป.ป.ช. เปิดเซฟ “นายกฯ แพทองธาร” รวยกว่า 1.3 หมื่นล้าน

เปิดทรัพย์สินแพทองธาร

ป.ป.ช. 3 ม.ค.- ป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน “นายกฯแพทองธาร” รวยกว่า 1.3 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน ตุ๊กตาแบร์บริค 9 ตัว ทองคํา-เครื่องประดับ-เสื้อผ้า พรึบ พบมีที่ดินปทุมธานี 3 แปลง และที่ฮอกไกโด 1 แปลง บ้านเช่าที่ลอนดอน 2 หลัง พร้อมรายการกู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว วันเดียวกันถึง 6 รายการ กว่า 2.8 พันล้าน


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งสถานภาพอยู่กินกันฉันสามีภริยากับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท แบ่งเป็นของ น.ส.แพทองธาร 13,846,208,451 บาท เป็นของนายปิฎก 147,118,452 บาท เป็นของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500,000 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 4,441,159,711 บาท แบ่งเป็นหนี้สินของ น.ส.แพทองธาร 4,439,980,600 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 5,458,262 บาท และเป็นหนี้สินอื่น 4,434,522,338 บาท เป็นหนี้สินของคู่สมรส 1,179,110 บาท

โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 265,567,322 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส 3,409,682 บาท เงินปันผล 259,267,639 บาท ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท ค่าเช่า 890,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 57,720,000 บาท โดยมีรายนการที่น่าสนใจคือ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 45,000,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัย 1,200,000 บาท ค่าใช้จ่ายครัวเรือน 7,000,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 1,000,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 2,000,000 บาท


ทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร แบ่งเป็นเงินสด 7,272,743 บาท เงินฝาก 1,081,187,216 บาท เงินลงทุน 11,007,772,574 บาท เงินให้กู้ยืม 15,238,714 บาท ที่ดิน 724,922,982 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 168,615,386 บาท ยานพาหนะ 66,770,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 358,789,334 บาท ทรัพย์สินอื่น 415,639,500 บาท

สำหรับเงินสดของ น.ส.แพทองธาร มีเงินสกุลหลายประเทศ ทั้งเงินบาท เยน ดอลลาร์ ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง ส่วนเงินฝาก มี 29 บัญชี มูลค่า 1,081,187,216 บาท เงินลงทุนในกองทุนและหุ้นบริษัท 32 แห่ง ส่วนรายการให้กู้ยืม พบว่ามีรายชื่อของนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย ทำสัญญากู้เงินเมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 15,238,714 บาท

รายการที่ดิน แจ้งว่ามีทั้งหมด 12 แปลง ที่น่าสนใจคือ ที่ดินใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3 แปลง รวมทั้งหมด 9 งาน 180 ตารางวา รวมมูลค่า 9,900,600 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่ามีที่ดินในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (AZA-TOKIWA AKAIGAWAMURA YOICHI-GUN) ซื้อมาเมื่อ 15 ธันวาคม 2562 มูลค่า 30,000,000 บาทโดยแจ้งถือครองร่วมกับคู่สมรส แจ้งบัญชีคนละ 15,000,000 บาท


ส่วนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง แจ้งว่ามี 9 หลัง แบ่งเป็น 5 ห้องชุด ใน กทม. พร้อมกับมีบ้าน 2 ชั้น จำนวน 2 หลังที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี และ เขตคันนายาว กทม. นอกจากนี้ ยังมีตึกแถว 4 ชั้น ที่ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ในส่วนยานพาหนะ แจ้งว่ามีรถยนต์ 23 คัน อาทิ ยี่ห้อ BENTLEY รุ่น FLYING SPUR HYBRID มูลค่า 10,600,000 บาท ยี่ห้อ ROLLS-ROYCE รุ่น PHANTOM มูลค่า 6,700,000 บาท และ ยี่ห้อ TESLA แบบ MODEL X LONG RANGE มูลค่า 3,190,000 บาท

สำหรับรายการสิทธิและสัมปทานที่น่าสนใจ พบว่า มีการเช่าบ้านที่ Flat 11 Knaresborongh house, 7 Knaresborongh Place, London มูลค่า 111,612,250 บาท โดยเป็นสัญญาเช่า ตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 ถึง 24 ธันวาคม 3537 รวมระยะเวลาเช่า 987 ปี และที่ Flat 6 14 Montpelier street, London มูลค่า 208,342,867 บาท โดยเป็นสัญญาเช่าตั้งแต่ 26 กรกฎาคม 2560 ถึง 21 มกราคม 3552 รวมระยะเวลาเช่า 992 ปี นอกจากนี้ ยังมีการจ้างก่อสร้างบ้าน มูลค่า 38,034,227 บาท-

ขณะที่ทรัพย์สินอื่น ประกอบด้วย ทองคำแท่ง จำนวน 75 บาท มูลค่า 3,000,000 บาท นาฬิกา 75 เรือน มูลค่ารวม 162,000,000 บาท ของสะสม(ตุ๊กตาแบร์บริค) 9 ตัว มูลค่า 1,900,000 บาท กระเป๋า 217 ใบ มูลค่า 76,650,000 บาท แหวน 108 วง มูลค่า 31,773,900 บาท เครื่องประดับกำไลข้อมือ 69 เส้น มูลค่า 28,559,700 บาท เครื่องประดับสร้อยคอ 67เส้น มูลค่า 35,675,400 บาท ต่างหู 205 คู่ มูลค่า 49,330,500 บาท เครื่องแต่งกาย 167 ชุด มูลค่า 26,750,000 บาท

สำหรับรายการหนี้สินอื่น พบว่า น.ส.แพทองธาร ได้ทำสัญญากู้เงินจาก น.ส.พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อ 8 ก.ย. 59 ทั้งหมด 4 รายการ รวม 2,388,724,094 บาท นอกจากนี้ ยังกู้เงินจาก นายพานแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 335,420,541 บาท อีกทั้งยังกู้เงิน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นมารดา เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 136,517,701 บาท และกู้เงิน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นลุง จำนวน 2 รายการ เมื่อปี 2566 รวมจำนวน 1,315,460,000 บาท .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]