กทม.1 ม.ค. – รัฐบาลชวนเปลี่ยนเงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเงินออม สร้างรากฐานที่มั่นคงของครอบครัวในอนาคต เผยวัยรุ่นกว่าครึ่งได้เงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากครอบครัว สูญเสียเงินซื้อสูงปีละ 26,944 บาท เฉลี่ยเดือนละ 2,245 บาท
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดผลสำรวจพฤติกรรมการใช้ “บุหรี่ไฟฟ้า” ของเด็กและเยาวชนไทย พบกว่าครึ่งได้เงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากครอบครัว สูญเสียเงินซื้อสูงปีละ 26,944 บาท เฉลี่ยเดือนละ 2,245 บาท ห่วงตัวละครผู้ทรงอิทธิพลออนไลน์มีผลต่อการตัดสินใจ
รัฐบาลโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ชวนวัยรุ่นไทยเริ่มต้นปีใหม่นี้ เปลี่ยนเงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเงินออม ชี้ 30 ปี ได้เงินเก็บถึง 1.8 ล้านบาท ทั้งนี้ จากผลสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทยปี 2565 พบว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นจาก 3.3% เป็น 17.6% หรือเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า
นายอนุกูล กล่าวว่า ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างเด็กและเยาวชนใน กทม. จำนวน 400 ตัวอย่าง อายุระหว่าง 13-24 ปี ซึ่งเป็นผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า 56.5% ได้รับเงินจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง 87.75% มีรายได้ระหว่าง 500-2,000 บาท/สัปดาห์ สำหรับเงินที่นำมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ 54.50% ได้จากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ใช้เงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเฉลี่ยสูงถึงปีละ 26,944 บาท หรือเดือนละ 2,245 บาท 73% ใช้เงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้า 501-1,000 บาท/สัปดาห์
นอกจากนี้ยังพบว่าการที่หน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าที่กำกับกิจการภาพยนตร์ หรือละครทางโทรทัศน์ หรือสื่อสังคมออนไลน์ ปล่อยให้มีตัวละครในภาพยนตร์หรือผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากถึงมากที่สุด 16.25% และปานกลาง 38.25% เมื่อรวมกันแล้วคิดเป็น 54.50% ตอกย้ำได้ว่าสื่อบุคคลอย่างผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์หรือตัวละครในภาพยนตร์มีผลต่อการตัดสินใจของเด็กและเยาวชน
“รัฐบาลเห็นความสำคัญของการวางแผนทางด้านการเงินของคนรุ่นใหม่และการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จึงขอใช้โอกาสเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2568 เชิญชวนเด็กและเยาวชนไทยเริ่มต้นคนใหม่ในปีใหม่ ตามแนวคิด “Happy New Life” คือ มีความสุขในชีวิตทั้งมิติสุขภาพและมิติทางด้านการเงิน ด้วยการเปลี่ยนเงินที่ซื้อบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าและสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย มาเป็นเงินออมและลงทุน เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงของครอบครัวในอนาคตต่อไป” นายอนุกูล ระบุ.-319-สำนักข่าวไทย