“สมศักดิ์” มั่นใจรัฐบาล “แพทองธาร” ไม่มีปัญหาสะดุดล้ม

กทม. 30 ธ.ค. – “สมศักดิ์” มองทิศทางการเมืองปี 68 มั่นใจรัฐบาล “แพทองธาร” เดินไปได้ด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาสะดุดล้ม ยันพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาขั้นแตกหัก ชี้อีก 2 ปีครึ่ง พรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงทิศทางการเมืองในปี 2568 ว่าขณะนี้รัฐบาลขับเคลื่อนงานมาแล้วประมาณ 1 ปีครึ่ง ซึ่งยังเหลืออายุรัฐบาลอีกประมาณ 2 ปีครึ่ง ตนจึงมองว่าคำวิพากษ์วิจารณ์จะเริ่มมีมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องปกติ เมื่ออายุรัฐบาลเริ่มน้อยลง ฝ่ายตรงข้ามจะโจมตีรัฐบาลมากขึ้น ดังนั้น ในส่วนของรัฐบาล การทำงานต้องเข้มข้นขึ้น และผลงานของทุกกระทรวงจะเริ่มออกมาชัดเจนในปีหน้า ขณะที่ประเด็นความขัดคล่องทางกฎหมาย ตนมองว่าจะเริ่มคลี่คลาย โดยหลายประเด็นที่มีการร้องเรียนถูกตีตกไปด้วยคำตอบขององค์กรอิสระ จึงทำให้ประเด็นโจมตีจากกลุ่มที่ไม่พอใจรัฐบาลจะเริ่มน้อยลงไป

“ส่วนคนลงถนนจะเป็นจุดเปลี่ยนการเมืองปี 68 หรือไม่ ตนมองว่าข้อความที่ห่วงใยได้จบลงในปี 67 ไปแล้ว และจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แต่รัฐบาลต้องทำงานหนักเพื่อชดเชยสิ่งที่ถูกโจมตี โดยภาพรวมรัฐบาล ตนเชื่อมั่นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินไปได้ด้วยความเรียบร้อย และอีก 2 ปีครึ่ง พรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่ โดยเฉพาะแนวทางใหม่จะปรากฏต่อสายตาประชาชน ส่วนเรื่องครบเทอมหรือไม่ มองว่าไม่ใช่ประเด็น เพราะบางครั้งเมื่อรัฐบาลเห็นสภาพเศรษฐกิจดี ก็อาจปรับเปลี่ยนโฉมการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องอนาคต แต่วันนี้ยืนยันได้ว่ารัฐบาลยังไม่มีปัญหาที่จะทำให้สะดุดล้ม” นายสมศักดิ์ กล่าว


นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีพรรคร่วมขัดแย้งกันเองนั้น ตนดูจากบุคลากรพรรคเพื่อไทยที่ออกมาให้สัมภาษณ์ก็ดูเหมือนเรื่องห่วงใยจะจบลงไปหมดแล้ว เพราะต่างฝ่ายไม่ได้มีปัญหาขั้นแตกหัก ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนกลัวคือความแตกหักจะมาถึงเร็ว จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส่วนในปี 2568 จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจดีขึ้น ตนมองว่าพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่กระทรวงเศรษฐกิจ แต่จะเริ่มมีบทบาทการทำเศรษฐกิจขึ้นมา เพราะเรามีการแพทย์ที่ดีและเก่ง จึงสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพได้ ส่วนด้านเศรษฐกิจโดยตรงก็ต้องแข็งขันกัน แบบไม่มีเวลาหายใจหายคอ โดยหากกระทรวงไหนละทิ้งประชาชนจะไปไม่ได้ ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่ารัฐบาลต้องแข็งขันกันทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งจะดูได้จากตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก