กทม. 30 ธ.ค. – “วราวุธ” ส่งทีม พม.อุดรธานี เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินสายการบินของเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุระหว่างลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอัน รวมถึงเยียวยาสภาพจิตใจ-สิทธิสวัสดิการ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงกรณีมี 2 คนไทยเสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินสายการบินของเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุระหว่างลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 67 อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่ามีผู้โดยสารคนไทย 2 คน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว คือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี และ น.ส.สิริธร จะอื่อ ภูมิลำเนา จ.เชียงราย พร้อมแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับทุกครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงครอบครัวคนไทยทั้ง 2 คน
สำหรับความสูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สั่งการศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส.จังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ทันทีเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเยี่ยมครอบครัว น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี และ ศรส.จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัว น.ส.สิริธร จะอื่อ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและวางแผนให้ความช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวง พม. โดยเร็วที่สุด
ทีม ศรส.จังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่พูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงกับครอบครัว น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี พบว่าผู้เสียชีวิต อายุ 45 ปี เป็นบุตรคนที่ 3 ประกอบอาชีพที่ประเกาหลีใต้ บิดา อายุ 77 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ มีอาชีพเกษตรกร และได้รับเบี้ยผู้สูงอายุรายเดือน มารดาเสียชีวิตแล้ว และมีพี่ชาย 2 คน อายุ 49 ปี และ 52 ปี ประกอบอาชีพที่ประเทศไต้หวัน ในขณะที่สามี อายุ 42 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ มีบุตรชาย 2 คน อายุ 6 ปี และ 14 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัวสามีที่ จ.พิจิตร
สำหรับผู้เสียชีวิตประกอบอาชีพเกษตรกรที่ประเทศเกาหลีใต้ ประมาณ 6 ปี โดยส่งเงินให้บิดา เดือนละ 5,000 บาท และส่งค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คน ให้กับสามี เนื่องจากสามีหมดสัญญาการทำงานที่ประเทศไต้หวัน ปัจจุบันจึงไม่ได้ประกอบอาชีพ ในส่วนของหนี้สินในระบบจากการนำบ้านของตนเองไปจำนองกับธนาคาร เป็นเงิน 500,000 บาท สัญญา 30 ปี ซึ่งชำระเงินเดือนละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลาประมาณ 15 ปีแล้ว ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวครอบครัวพี่ชายคนที่ 2 ได้อาศัยอยู่ ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตจะกลับไทยเพื่อมาเยี่ยมบิดาและญาติพี่น้อง ปีละ 1 ครั้ง ที่ จ.อุดรธานี และจะเดินทางไปหาสามีและบุตรทั้ง 2 คน ที่ จ.พิจิตร
ขณะที่ทีม ศรส.จังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งทุกคนยังอยู่ในความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นมีการพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต และการพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวง พม. เป็นเงินสงเคราะห์ต่างๆ รวมถึงการให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิสวัสดิการสำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ได้ประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิจิตร เพื่อลงพื้นที่เยี่ยมบ้านสามีและบุตรทั้ง 2 คนของผู้เสียชีวิต เพื่อสอบข้อเท็จจริงในการให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-315-สำนักข่าวไทย